- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 May 2015 17:02
- Hits: 1240
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -26.99, NASDAQ +1.71, S&P -1.98, FTSE +12.16, CAC +16.00 และ DAX -4.86 โดย DJIA อ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังจากพุ่งขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ผลการประชุมของเฟด ยังไม่เปลี่ยนทีท่าเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะถึงช่วงต้นปี’59 หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ช่วงที่ผ่านมายังส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอ โดยล่าสุดสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 482.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวการควบรวมกิจการในกลุ่มโทรคมนาคม
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. +US$0.99 อยู่ที่ US$58.98 ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$2.0 อยู่ที่ US$1,208.7 ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าขึ้น
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,984 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -8,731 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : แกว่งตัวออกด้านข้าง? คาดดัชนีจะเคลื่อนไหวแกว่งตัว (sideway) ต่อไปอีกระยะ แต่คาดว่ายังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดอาจยังไม่พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนมิ.ย. นี้ และล่าสุดคาดการณ์ว่าจะอยู่ในช่วงต้นปี ’59 และยังคงจับตาความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์กรีซ โดยเฉพาะปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งหากกรณีเลวร้ายสุดอาจส่งผลกระทบต่อกรีซและอาจลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ใน EU หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ โดยกรีซมีหนี้ที่ครบกำหนดชำระต่อ IMF ในเดือนมิ.ย. รวมแล้วอีกประมาณ 929 ล้านยูโร ทำให้คาดยังเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมตลาดต่อเนื่อง
.....ทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยลบจากตัวเลข GDP – 1Q/58 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และคาดตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร, สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังไม่เหมาะที่จะเข้าเก็งกำไรในช่วงนี้ ในขณะที่ Fund Flow ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิประมาณ 1,984 ล้านบาท และยังแนะจับตาแรงซื้อเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, PTTGC, IRPC, BCP และ ESSO จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง
.....รวมถึงติดตามต่อเนื่อง (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO, TRC และ UNIQ (2) ค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าอีกครั้ง โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 33.51 ส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, HANA, SMT (3) ทิศทางเศรษฐกิจไทยที่คาดมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.26% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.12 อยู่ที่ 12.85
หุ้นแนะนำ : PTTGC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (21 - 22 พค.’58)
21/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - เมย. (3) ยอดขายบ้านมือสอง - เมย. (4) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - เมย. (5) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - พค.
22/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - เมย. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - พค.
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789