- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 May 2015 16:20
- Hits: 1268
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +13.51, NASDAQ -8.40, S&P -1.37, FTSE +26.23, CAC +104.99 และ DAX +259.05 โดย DJIA และ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะถึงช่วงต้นปี’59 หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ช่วงที่ผ่านมายังส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอ โดยล่าสุดสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน เม.ย. พุ่งขึ้นเกินคาด และสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีครึ่ง ขณะที่ตลาดอยู่ระหว่างรอรายงานการประชุมของเฟดเมื่อ 28 - 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ (20/5/58) ว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่?
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มจากการที่สมาชิก ECB ท่านหนึ่งกล่าวว่า ECB จะเข้าซื้อสินทรัพย์ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. และ มิ.ย.
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$2.17 อยู่ที่ US$57.26 ต่อบาร์เรล จากการแข็งค่าของค่าเงินสหรัฐฯ และปัจจัยกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน โดยการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียและสหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับสูง
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$20.9 อยู่ที่ US$1,206.7 ต่อออนซ์ จากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -610 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -10,715 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ระวังแรงขายทำกำไร? หลังจากดัชนีพุ่งขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่คาดว่ายังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดอาจยังไม่พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนมิ.ย. นี้ และล่าสุดคาดการณ์ว่าจะอยู่ในช่วงต้นปี ’59 และปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อสิทรัพย์เพิ่มขึ้นของ ECB ในขณะที่ยังมีความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์กรีซ โดยเฉพาะปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งหากกรณีเลวร้ายสุดอาจส่งผลกระทบต่อกรีซและอาจลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ใน EU หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ โดยกรีซมีหนี้ที่ครบกำหนดชำระต่อ IMF ในเดือนมิ.ย. รวมแล้วอีกประมาณ 929 ล้านยูโร ทำให้คาดยังเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมตลาดต่อเนื่อง
.....ทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยลบบ้างจากตัวเลข GDP – 1Q/58 แต่อยู่ในความคาดหมายของตลาดฯ ก่อนหน้านี้ รวมถึง Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และล่าสุดอีกประมาณ 610 ล้านบาท อย่างไรก็ตามได้รับการชดเชยจากแรงซื้อสุทธิของสถาบัน และยังแนะจับตาแรงขายทำกำไรกลุ่มพลังงาน เช่น PTT, PTTEP หลังจากราคาน้ำมันดิบลดลง ในขณะที่ถือเป็นโอกาสเข้าซื้อกลุ่มโรงกลั่น TOP, PTTGC, IRPC และ BCP จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง
.....รวมถึงติดตามต่อเนื่อง (1) ประเด็นการประมูล 4G ที่เริ่มมีความชัดเจน คาดส่งผลดีต่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ADVANC (2) ค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าอีกครั้ง โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 33.52 (3) ทิศทางเศรษฐกิจไทยที่คาดมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.26% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนี ความเสี่ยง (VIX) +0.12 อยู่ที่ 12.85
หุ้นแนะนำ : SMT
ประเด็นที่ต้องติดตาม (20 - 22 พค.’58)
20/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน
21/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - เมย. (3) ยอดขายบ้านมือสอง - เมย. (4) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - เมย. (5) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - พค.
22/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - เมย. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - พค.
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789