- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 May 2015 16:16
- Hits: 1359
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET บวกมาพอควรและเริ่มเข้าใกล้เป้าหมาย..น่าเริ่มแบ่งขาย!
กลยุทธ์ : เนื่องจาก SET รีบาวด์กลับขึ้นมาพอควรแล้ว และเริ่มเข้าใกล้แนวต้านทางเทคนิคแถว 1550 จุด(+/-) ที่ต้องระวังแรงขายกดกลับ ขณะที่ระดับดัชนีเป้าหมายของปีนี้ที่ FSS ประเมินใหม่ก็อยู่แค่เพียงแถว 1560 จุดด้วย ดังนั้นแนะนำให้เริ่มแบ่งส่วนทยอยขายทำกำไรในช่วงบวกก่อนดีกว่า และถ้าจะกลับเข้าเลือกหุ้นซื้อใหม่ น่ารอรอบปรับพักตัวของ SET อีกครั้ง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : AAV, BDMS, PTTGC(buy back)
แนวโน้ม : ตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดบวกทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นการบวกขึ้นแคบๆ จากตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือน เม.ย. ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี นอกจากนี้ยังได้รับข่าวบวกจากการเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรของ ECB ในเดือน พ.ค.และมิ.ย. ที่หนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกค่อนข้างแรงเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ด้วย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้ก็เริ่มมีแรงซื้อหนักแน่นมากขึ้น ทำให้ SET ยังบวกขึ้นต่อเนื่องได้ดี และเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ก็ยังเปิดเป็นบวก ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะขยับบวกต่อได้อีกตามคาด อย่างไรก็ตามยิ่งดัชนีเข้าใกล้แนวต้านทางเทคนิคแถว 1550 จุด(+/-) ก็ยิ่งมีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรที่อาจมีออกมากดดันตลาดมากขึ้น ประกอบกับ FSS ได้ปรับลดคาดการณ์ระดับดัชนีเป้าหมายของปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1560 จุด จากประเด็นกดดันเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจบ้านเรา จึงทำให้ upside ของตลาดเริ่มมีจำกัด ดังนั้นถ้ายังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน เราแนะนำให้เริ่มระวังแรงขายกดดันให้ SET กลับไปแกว่งพักตัวลงอีกครั้งไว้ด้วย
แนวรับ 1523-1520 , 1516-1513 จุด
แนวต้าน 1528-1532 , 1535-1538 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$320.1 ล้าน เกาหลีใต้ US$102 ล้านและเวียดนาม US$3.5 ล้าน แต่ขายยังขายตลาด TIP ต่อเนื่อง โดยขายสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$32.6 ล้าน ไทย US$18.3 ล้าน และ ฟิลิปินส์ US$8 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) นิกเกอิบวกแรงขานรับ GDP ที่สดใส +2.4% Q-Q annualized ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.6% และดีกว่าไตรมาสก่อนที่มีการปรับตัวเลขลงเป็น 1.1% หนุนค่าเงินสกุลเอเชียในวันนี้ให้แข็งค่า
(0) มีความเป็นไปได้มากขึ้นในการทำประชามติร่างรธน.ฉบับใหม่ แลกกับการยืดเวลาโรดแมพออกไป การทำประชามติร่างรธน.ยังขึ้นอยู่กับการปรับแก้ร่างแรกว่าสปช.จะโหวตให้ผ่านหรือไม่ และขึ้นอยู่กับรัฐบาลเป็นคนกำหนดวันทำประชามติ อย่างไรก็ตาม หากทุกอย่างผ่านไปด้วยดี นายวิษณุคาดว่าจะมีการทำประชามติได้ในเดือน มิ.ย. และใช้เวลา 3-4 เดือนหลังจากนั้นจึงลงมติ และคาดว่าจะจัดการเลือกตั้งเร็วสุด ก.ย. ปีหน้า เลื่อนไปจากโรดแมพเดิมที่เป็น เม.ย. 2016
(+) เก็งกำไรกลุ่มรับเหมา บ่ายนี้จะมีงานสัมมนา “โครงสร้างพื้นฐานกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” แนะนำ ITD, CK, STEC
(+) TMB และ KTB ราคาหุ้นปรับลงมาจนน่าสนใจ แม้ว่ากำไรของกลุ่มธนาคารใน 2Q15 จะไม่สดใสแต่ราคาหุ้น TMB และ KTB ปรับลงจนมี PBV 1.4 และ 1.1 เท่า ต่ำกว่าช่วงน้ำท่วม สำหรับสินเชื่อของ TMB เดือน เม.ย. เพิ่ม 0.9% M-M โดยเป็นสินเชื่อใหม่น้อยมาก แต่กำไร 2Q15 น่าจะฟื้นตัวได้จากการตั้งสำรองฯลดลง ส่วนกำไร KTB ใน 2Q15 ด้อยกว่าเพราะอาจต้องตั้งสำรองฯเพิ่ม ขณะที่การลดอัตราดอกเบี้ยกระทบ NIM ของทุกธนาคาร แต่ราคาหุ้นถูกจึงแนะนำสะสม ราคาเป้าหมาย TMB 3.16 บาทและ KTB 25 บาท
(+) EPCO แนวโน้มกำไรใน 2Q15 อาจทรงตัวเมื่อเทียบกับ 1Q15 ที่สดใสเพราะเริ่มมีรายได้จากโรงไฟฟ้าในประเทศ 16.1MW เต็มไตรมาส ส่วนช่วง 2Q15 โรงพิมพ์ยังไม่ได้งานใหญ่เพิ่ม ขณะที่โรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น 23MW กำลังก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าเริ่มจ่ายไฟประมาณ 10 MW ใน 4Q15 ในระหว่างนี้ EPCO อยู่ระหว่างเจรจาซื้อใบอนุญาตเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ ราคาหุ้นอาจทรงตัวจนกว่าจะได้สัญญาใหม่ แต่เป็นโอกาสในการซื้อสะสม เพราะกำไร 3Q13 จะกลับมาโตแรงเพราะเริ่มรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟที่ญี่ปุ่น และปัจจุบันมี PE 17 เท่าในปีนี้และ 7 เท่าในปีหน้า เรายังคงราคาเป้าหมาย 8.20 บาท
(-) TOP ราคาหุ้นใกล้ชนราคาเป้าหมายของเราที่ 56 บาท แนะนำถือรอขาย เพราะคาดว่าค่าการกลั่นผ่านจุดสูงสุดของปีนี้แล้วใน 1Q15 (US$8.8/บาร์เรล) แนวโน้มจะชะลอตัวใน 2H15 หลังโรงกลั่นใหม่ขนาดใหญ่เริ่มเปิดดำเนินการ และโรงกลั่นที่หยุดซ่อมบำรุงก่อนหน้านี้กลับมาเปิดดำเนินงานตามปกติใน 2Q15 บวกกับต้นทุนน้ำมันดิบที่ใช้ในการผลิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมายิ่งกดดันให้ค่าการกลั่นแคบลง แม้โรงกลั่นจะได้กำไรจากสต๊อกน้ำมันแต่ชดเชยได้ไม่หมด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดที่ระดับ New High ต่อเนื่องหลังตัวเลขการสร้างบ้านใหม่เดือน เม.ย. พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี รวมถึงแรงหนุนจากข่าวที่ ECB จะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตร
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกค่อนข้างแรงโดยตอบรับเชิงบวกต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนรวมถึงการที่ ECB จะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรในเดือน พ.ค.-มิ.ย.
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดในแดนบวกเช่นกันโดยเฉพาะญี่ปุ่นหลัง GDP 1Q15 เติบโตมากกว่าตลาดคาดมาก
ค่าเงินบาทแกว่งตัวผันผวนและอ่อนค่าลง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.44-33.60 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 57.26 เหรียญ/บาร์เรล ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ารวมถึงทั้งสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบียยังจะผลิตน้ำมันมากกว่าอุปสงค์ในตลาดโลก
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,206.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 20.90 เหรียญ/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่องหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่งรวมถึงแรงหนุนจาก ECB ที่จะเร่งซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 พ.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (เม.ย.)
- ญี่ปุ่น: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +1.6% annualized Q-Q)
- สิงคโปร์: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +1.6% Q-Q)
21 พ.ค. - จีน:HSBC China Manufacturing PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (เม.ย.), รายงาน Fed Minutesเดือน เม.ย.
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (พ.ค.),ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.), รายงาน ECB Minutesเดือน เม.ย.
22 พ.ค. - ญี่ปุ่น BOJประชุม
- สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
25 พ.ค. - ไทย:ครม.ประชุมวาระพิเศษแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ
- ตลาดหุ้นสหรัฐ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ปิดทำการ
26 พ.ค. - ไทย:ดุลการค้า (เม.ย.)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เม.ย.), ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.), S&P/CaseShiller Index (มี.ค.)
28 พ.ค. - ฟิลิปปินส์: 1Q15 GDP
- สหรัฐ: Pending Home Sales (เม.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research