- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 May 2015 15:58
- Hits: 1493
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Infrastructure Projects
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ขยับขึ้นทะลุแนว 1,520 จุด ผลักดันด้วย PTT / AOT / SCC/ SCCC รวมถึงกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรป เป็นบวก จากการคาดหวังกรณีกรีซจะได้ข้อสรุปภายในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ค่าเงินบาททรงตัวเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,525.96 จุด บวก 15.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,324 ล้านบาท
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง แม้คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 610 ล้านบาท แต่กลับ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 1,546 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ 2,263 ล้านบาท แม้ว่าค่าเงินบาทจะแกว่งออกด้านข้างวานนี้ก็ตาม
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รมว.คมนาคม เป็นองค์ปาฐกถานโยบายคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ที่ ตลท. บ่ายวันนี้
ครม. และ คสช. มีมติให้ทำประชามติกับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่กำหนดช่วงเวลาระหว่าง 3 เดือนหรือ 6 เดือน
สถานการณ์ในกรีซ มีความคืบหน้า เยอรมันและฝรั่งเศสกำหนดให้กรีซหาข้อสรุปภายในสิ้นเดือนนี้
ติดตามรายงานการประชุมเฟดเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 37 แม้ว่า SET INDEX จะปิดยืนเหนือ 1,525 จุด และมูลค่าการซื้อขายจะเร่งขึ้นเป็น 4.0 หมื่นล้านบาท วานนี้ก็ตาม แต่ภาพรวมของการลงทุนยังมีความเปราะบาง เพียงแต่เม็ดเงินใหม่จากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ 2 กองทุน และช่วงสั้นขาดปัจจัยลบใหม่ที่จะมากดดันการลงทุน ทำให้เกิด Technical Rebound ได้ค่อนข้างง่าย อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่า SET INDEX รอบนี้อาจยังไม่ผ่านแนว 1,530 จุดได้
แน่นอนว่า วันนี้กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง จะยังโดดเด่น เมื่อเทียบกับภาพรวมของตลาดหุ้นไทย เพื่อเก็งกำไรต่อ รมว.คมนาคม เป็นองค์ปาฐกถาในหัวข้อ "นโยบายคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" ในช่วงบ่ายวันนี้ เราเชื่อว่าจะมีความชัดเจนในแนวทาง และกรอบเวลาของการดำเนินการจากนี้ไป ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้
ขณะที่คณะกรรมการใน ECB ออกมาให้ความเห็นถึงโครงการ QE อาจต้องเร่งเข้าซื้อสินทรัพย์มากขึ้นใน 2 เดือนข้างหน้า เพราะเป็นผลของฤดูกาล ทำให้ ECB ต้องเร่งอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินเข้าสู่ระบบการเงินอียู น่าจะเป็นปัจจัยบวกช่วงสั้นต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงกรีซ อาจได้ข้อสรุปแผนปฎิรูปเศรษฐกิจของกรีซภายในสุดสัปดาห์นี้
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.21 น.) Nikkei เปิดบวกเด่น หลัง GDP ใน 1Q58 ของญี่ปุ่นออกมาดีกว่าคาดมาก ส่วน Kospi เปิดบวกเช่นกัน จากค่าเงินที่อ่อนค่า
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนยังคงใช้กลยุทธ์ ขึ้นแรงขาย - ลงแรงซื้อ" เป็นอีกสักระยะหนึ่ง อาจพิจารณาแนว 1,530 จุด +/- ขายทำกำไรรอบสั้นออกไปก่อน ภาพรวมของ SET INDEX ยังมีความผันผวนอยู่ในกรอบอีกสักพักหนึ่ง
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Speculative Buy: ITD/ TASCO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 7.75 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่องจากวานนี้ เนื่องจากรมว.คมนาคมจะมีการแถลงนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในวันนี้
b) คาดว่าผลประกอบการ 1Q58 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญของบริษัทย่อย ITD Cem ในอินเดียจำนวน 569 ล้านบาท และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 113 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษ จะยังมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 172 ล้านบาท เติบโต +97% yoy และพลิกกลับจากขาดทุน qoq
c) ปัจจัยบวกรออยู่ และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญด้านปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ การเซ็นสัญญาโครงการทวายระหว่าง ไทย - พม่า - ญี่ปุ่น ในเดือน ก.ค. และประทานบัตรเหมืองแร่โปแตซที่จังหวัดอุดรธานี
d) คาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +258% yoy เป็น 904 ล้านบาท และราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ 8.50 บาท ซึ่งหากรวมมูลค่าของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมทวาย และเหมืองแร่โปแตซอีก 3.50 บาท จะมี Upside สูงถึง 60%
2. TASCO : ราคาปิด 15.50 บาท ราคาเหมาะสม 15.50 บาท (อยู่ระหว่างการปรับประมาณการ)
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างจะตอบรับเชิงบวกในวันนี้ จากการแถลงแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ รมว.คมนาคมในวันนี้
b) แม้ราคาปิดในกระดานจะใกล้เคียงราคาเหมาะสมของเราแล้ว แต่เชื่อว่าราคาหุ้นยังมี Momentum เชิงบวก จากการปรับตัวลงแรงของน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ถึง 3.7%
c) และมีโอกาสทบทวนประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมขึ้น หลังประชุมกับผู้บริหาร TASCO ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากกำไร 1Q58 คิดเป็นสัดส่วนแล้วถึง 55% ของประมาณการปี 2558
d) Valuation ยังไม่สูงมากนัก หากอิงประมาณการปัจจุบันก็ยังซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 11.9 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ราว 15 เท่า และหากมีการทบทวนประมาณการกำไรขึ้นจะส่งผลให้ PER 2558 ลดลงโดยทันที
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$367 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$398 ล้าน
ทั้งนี้เม็ดเงินหลักกระจุกตัวในเอเชียเหนือ เป็นวันที่ 3
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัวมากขึ้น
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 610 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิ 2,483 ล้านบาท
ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 10,715 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 1,546 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 7,783 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อ SET50 Index กลับมายืนเหนือ 1,000 จุดอีกครั้ง โดย S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 7 กว้างขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.61 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.95 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Short สุทธิลดลงเป็น 4,396 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ 2,263 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 30,536 ล้านบาท ขณะที่ เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยทรงตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี กลับมาเพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 0.09bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.86bps ปิดล่าสุดที่ 2.851%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 647 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 492 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ทั้งนี้แรงขายรายกลุ่มถือว่าเบาบางอย่างเห็นได้ชัด
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,204 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 255 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 1,978 ล้านบาท ทั้งนี้เน้นการลงทุนในกลุ่มที่ไม่พึ่งพิงเศรษฐกิจในประเทศอย่างโดดเด่น สรุปภาพรวมของ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 303 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 268 ล้านบาท ตามมาด้วย กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 266 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 74 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 263 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 179 ล้านบาท และกลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 160 ล้านบาทจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 134 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 191 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 218 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มท่องเที่ยว ขายสุทธิ 18 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด
ยอดก่อสร้างบ้านเดือนเม.ย. เท่ากับ 1.135 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.029 ล้านหลัง และดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 0.944 ล้านหลัง โดยยอดก่อสร้างบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 16.7% mom เป็น 0.733 ล้าน ส่วนบ้าน Multi-family เพิ่มขึ้น 27.2% mom เป็น 0.40 ล้านหลัง
ยอดขออนุมัติก่อสร้างบ้าน เดือนเม.ย. เท่ากับ 1.143 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.070 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.038 ล้านหลัง โดยเป็นการขออนุมัติใน Multi-family เพิ่มขึ้น 20.5% mom เป็น 0.733 ล้านหลัง
ยุโรป
ECB เตรียมเพิ่มการเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่าน QE: โดยจะเป็นเดือนพ.ค. - มิ.ย. เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของอียู อาจทำให้สภาพคล่องทางการเงินลดลงในช่วงดังกล่าว
อัตราเงินเฟ้ออังกฤษติดลบเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี: อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. -0.1% yoy ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง 0.8% yoy ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2534 ทั้งนี้ราคาอาหารและพลังงานลดลงอย่างมาก
ความคืบหน้าของกรีซ
ผู้นำเยอรมันและฝรั่งเศส ให้เวลากับกรีซ จนถึงสิ้นเดือนพ.ค. ในการหาข้อสรุปแผนการช่วยเหลือ พร้อมยินดีที่นายกฯ กรีซจะเข้าร่วมประชุมผู้นำอียูในสุดสัปดาห์นี้
ตลาดคาดว่ากรีซจะมีเงินเหลือจนถึงต้นเดือนก.ค. หากพิจารณาเงินที่เก็บภาษี และเงินช่วยเหลือของ ECB ต่อธนาคารพาณิชย์กรีซ ผ่านโครงการ ELA แต่จะไม่มากพอที่จะชำระหนี้ ECB ที่จะครบกำหนด 3.5 พันล้านยูโร วันที่ 20 ก.ค.
กรีซเสนอยกเว้นการขึ้นภาษี VAT เป็นการชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้รับเห็นชอบจากเจ้าหนี้ เพราะแนวทางนี้จะมีผลไม่มากพอที่จะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณ นายกฯ กรีซจะต้องเสนอแนวทางใหม่ในช่วง 2-3 วันจากนี้
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
รัฐบาลอินเดียเตรียมลงทุนอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง: วงเงินลงทุน 7 แสนล้านรูปี หรือ US$1.1 หมื่นล้าน แนะนำให้มีการจัดสรรโครงข่ายไฟเบอร์อัพติคของประเทศไปสนับสนุนโครงการดังกล่าว ทั้งนี้นายกฯ Modi จะพิจารณาและอนุมัติงบประมาณส่วนนี้เพิ่มเติม วางเป้าหมายขนาดไฟเบอร์ 1 ล้านก.ม.ภายใน 30 ปี โดยจะแตะ 7.0 แสนก.ม. ภายใน 3 ปี เพื่อให้เกิดโครงการบรอดแบนด์ เชื่อมโยง 2.5 แสนหมู่บ้าน และสร้างระบบดิจิตอลของประเทศให้มีขนาด US$1.8 หมื่นล้าน
ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงอัตราดอกเบี้ย: อัตรานโยบายเท่ากับ 7.5% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาด เนื่องจากเศรษฐกิจรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้ดี นอกจากนี้ธนาคารกลางเตรียมปรับหลักเกณฑ์การตั้งสำรอง LD Ratio, อัตราส่วนเงินกู้ต่อยอดหนี้เงินกู้ซื้อบ้าน รวมถึงเงินดาว์นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
เศรษฐกิจญี่ปุ่นโตดีกว่าคาดใน 1Q58: ขยายตัว 2.4% yoy เทียบกับ Reuters Poll คาด 1.5% yoy โดยการลงทุนเพิ่มขึ้น 0.4% qoq และเป็นการฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ส่วนการบริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% qoq และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3
ไทย
ที่ประชุมร่วม ครม. - คสช. มีมติให้แก้ไข รธน: พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วม ระหว่าง คสช.และคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 เพื่อเปิดให้มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่ากรอบเวลาในการแก้ไขให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด การทำประชามติ คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาอื่นๆ ตามที่ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญไว้ ส่วนรูปแบบการตั้งคำถามในการทำประชามตินั้น ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับไปดำเนินการต่อ
ธปท.ส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว: ผู้ว่าการ ธปท. เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลมีทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาวสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การส่งออกสินค้าในกลุ่มที่แข่งขันด้านราคาปรับตัวดีขึ้น จึงมองว่าเศรษฐกิจไทยยังเป็นการฟื้นตัว ซึ่ง ธปท.จะนำข้อมูลดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบหน้าวันที่ 19 มิถุนายนนี้เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงินว่าจะผ่อนคลายเพิ่มหรือไม่ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ซึ่งที่ผ่านมา เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอ ทำให้กำลังซื้อถดถอย
คลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายล้างหนี้ 7 แสนล้าน: สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินกว่า 7 แสนล้านบาท เพื่อนำไปบริหารจัดการหนี้ภาครัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาระดับนโยบายต่อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และนายสมหมาย ภาษี รมว.คลังปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายจะกำหนดให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกู้เงินตามวงเงินเพื่อนำไปปรับโครงสร้างหนี้ 3 หน่วยงานภาครัฐที่ได้กู้มาใช้ตามนโยบายรัฐที่ผ่านมา และอีก 1 หน่วยงานรัฐที่รัฐบาลค้างชำระหนี้ ได้แก่ 1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีหนี้ค้างชำระจากการกู้เงินเพื่อนำไปใช้ในโครงการจำนำข้าว 2. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 3.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ 4.สำนักงานประกันสังคม ซึ่งกรณีของสำนักงานประกันสังคมนี้ รัฐบาลได้ค้างจ่ายเงินสมทบแก่ประกันสังคม เป็นวงเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530