- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 May 2015 16:28
- Hits: 1500
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Thailand GDP
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา แกว่งตัวขึ้นทดสอบแนว 1,500 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาจเก็งกำไรต่อการเป็นองค์ปาฐกถาของรมว.คมนาคม ที่ตลท. วันพุธที่ 20 พ.ค. บวกกับ บรรยากาศรอบเอเชียและยุโรป เป็นกลาง แต่เกิดแรงเก็งกำไรในช่วงท้ายตลาดเข้ามาอย่างหนาแน่น ผลักดันให้ SET INDEX บวก 14.79 จุด มาอยู่ที่ 1,512.19 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,060 ล้านบาท
เมื่อเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ส่งผลให้ต่างชาติขายสุทธิ 3 ตลาดพร้อมกันเป็นวันที่ 2 ตลาดหุ้นไทยขายสุทธิ 721 ล้านบาท Short สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 671 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 8 อีก 4,876 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การประกาศ GDP ใน 1Q58 ของไทยเช้าวันนี้ Bloomberg consensus คาด 3.4% yoy แต่ลดลง 0.7% qoq
สศค.มีแนวโน้มปรับเป้าหมาย GDP ปีนี้ลงอีกรอบ หลังประกาศ GDP เช้านี้
คสช. และ ครม. เตรียมพิจารณาการทำประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 19 พ.ค.
การไต่สวนนัดแรก อดีตนายกฯ คุณยิ่งลักษณ์ คดีจำนำข้าว วันที่ 19 พ.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 35 ทั้งนี้ทิศทางของ SET INDEX จะไปในทางใด ขึ้นอยู่กับตัวเลข GDP ใน 1Q58 ในช่วงเช้าวันนี้ก่อนเปิดตลาดหุ้นไทย
หากออกมาต่ำกว่า 3.0-3.4% yoy อย่างมีนัยยะสำคัญ คาดว่า SET INDEX จะปรับฐานลงสู่แนว 1,480-1,490 จุด หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Domestic Play จะปรับฐานลงแรง
หากออกมาใกล้เคียงคาด 3.0-3.4% yoy คาดว่า SET INDEX จะแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,505 - 1,520 จุด
ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายทั้ง 2 กรณีจะเป็นไปอย่างเบาบาง เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่เด่นชัด และล่าสุด รมว.คลัง นายสมหมาย ภาษี ออกมายอมรับถึงภาคการส่งออกในปีนี้มีโอกาสที่จะติดลบ จากเป้าหมายล่าสุด +1.0% yoy แม้ว่า กนง.จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปถึง 2 ครั้ง 50bps แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยภาคการส่งออกทางอ้อมได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง จะยังแข็งแกร่งกว่าภาพรวมของ SET INDEX เพราะเชื่อว่าตลาดจะเก็งกำไรต่อความชัดเจนของแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รมว.คมนาคม พล.อ.เอก ประจิณ เป็นองค์ปาฐกถาในวันพุธที่ 20 พ.ค. อาจเห็นตารางเวลาของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และแนวทางที่รัฐบาลจะดำเนินจากนี้ไป เพื่อเรียกความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้
ด้านปัจจัยต่างประเทศ กรีซล่าสุดเตรียมเรียกประชุมร่วมกับเจ้าหนี้อียูในสัปดาห์นี้ หลัประกาศแปรรูปรัฐวิสาหกิจการท่าเรือ และสนามบินภูมิภาค เป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขการปฎิรูปเศรษฐกิจตามที่ เจ้าหนี้ Troika กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ อาจทำให้เกิดความคืบหน้าในเชิงบวกกรณีนี้ ทำให้ภาพรวมปัจจัยต่างประเทศในช่วงนี้จึงเป็นกลาง
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.16 น.) Nikkei เปิดบวก ส่วน Kospi เปิดลบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นออกมาดีกว่าคาด
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนยังคงใช้กลยุทธ์ ขึ้นแรงขาย - ลงแรงซื้อ" เป็นอีกสักระยะหนึ่ง
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Speculative Buy: NWR
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ ""ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. NWR : ราคาปิด 1.74 บาท ราคาเหมาะสม 2.60 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะปรับตัวขึ้นได้ดีในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก รมว.คมนาคมจะแถลง "นโยบายคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" ในวันพุธที่ 20 พ.ค.
b) รายงานผลประกอบการ 1Q58 มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท +162% yoy จากรายได้ที่ขยายตัว +12% yoy เป็น 1,766 ล้านบาท ตามการรับรู้รายได้โครงการหลัก ใน 1Q58 ได้แก่ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ, โครงการท่าเทียบเรือขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว และโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย
c) Backlog สิ้นสุด 1Q58 สูงถึง 1.3 หมื่นล้านบาท และเป็นงานที่มี Margin สูง ดังนั้น แม้กำไร 1Q58 จะคิดเป็น 18% ของคาดการณ์ทั้งปี แต่ทิศทางกำไรจะขยายตัวต่อเนื่องใน 3 ไตรมาสที่เหลือ จึงยังคงประมาณการกำไรปี 2558 ที่ 176 ล้านบาท เติบโต +1,716.5% yoy
d) ณ ปัจจุบัน NWR ซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.02 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ที่ 2.7 เท่า จึงเชือว่ามี Downside ของราคาหุ้นค่อนข้างจำกัด และมี Upside Risk ที่ยังไม่รวมในประมาณการคือกำไรพิเศษจากการกลับรายคดีคลองด่านสูงถึง 300 - 600 ล้านบาท
Fund Flow Analysis
und Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิ US$469 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$256 ล้าน
ทั้งนี้เม็ดเงินหลักกระจุกตัวในเอเชียเหนือ
und Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิ US$469 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$256 ล้าน
ทั้งนี้เม็ดเงินหลักกระจุกตัวในเอเชียเหนือ
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 721 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 1,475 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับเป็น 9,707 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิอีก 671 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 5,448 สัญญา เมื่อ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 5 อีก 0.53 จุด แคบลงจากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.63 จุด และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 3,607 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 8 อีก 4,876 ล้านบาท รวม 8 วันทำการ ขายสุทธิ 29,630 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยทรงตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 2 อีก 0.53bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.22bps ปิดล่าสุดที่ 2.8587%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็น 926 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,223 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง เน้น CPALL และ INTUCH เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 519 ล้านบาท วันก่อนหน้าขายสุทธิ 494 ล้านบาท สรุปภาพรวมของ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิสูงสุด 281 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 108 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 154 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 94 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 36 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
ดัชนี Empire State ภาคการผลิตเดือนมี.ค. เท่ากับ 3.09 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 5.0 จุด แต่ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -1.19 จุด
ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนเม.ย. หดตัว 0.3% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดทางตัว และเดือนก่อนหน้า -0.3% mom เป็นเดือนที่ 5 ที่ผลผลิตภาคอุตฯ ที่หดตัว โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง 0.4 เป็น 78.2% ทั้งนี้ภาคการผลิตในสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง 0.3% mom ส่วนผลิตภัณฑ์ภาคธุรกิจลดง 0.4% mom
ดัชนี Consumer Sentiment เดือนพ.ค. เท่ากับ 88.6 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 95.80 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 95.9 จุด
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ยอดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศเร่งตัวขึ้น: เดือน เม.ย.ยอดการลงทุนเพิ่มขึ้น 10.5% yoy สู่ระดับ 5.90 หมื่นล้านหยวน จากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 2.2% yoy และดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 2.0% yoy ด้านยอดลงทุนใน 4M58 เติบโต 11.1% yoy
เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจมาเลเซียเติบโตชะลอ: ขยายตัว 5.6% yoy ใน 1Q58 ชะลอตัวจาก 4Q57 ที่เติบโต 5.7% yoy แต่ดีกว่า Bloomberg consensus คาดเล็กน้อยที่ 5.5% yoy เนื่องจากภาคการส่งออกที่ชะลอตัว 0.6% yoy ขณะที่ภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 5.5% yoy และการลงทุนภาคเอกชน +11.7% yoy ทั้งนี้รัฐบาลปรับประมาณการ GDP ในปีนี้ลงเป็น 4.5-5.5% จากก่อนหน้า 6.0% เพราะปรับประมาณการใช้จ่ายภาครัฐ และรายได้จากการขายน้ำมันที่ลดลง
ธนาคารกลางเกาหลีใต้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: อัตราดอกเบี้ยนโยบาย RP7 วัน ที่ 1.75% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาด ทั้งนี้ธนาคารกลางให้น้ำหนักกับระดับหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังอยู่ในระดับที่ธนาคารกลางควบคุมได้
ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสวนทางที่คาด: เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.9% yoy Bloomberg consensus คาด หดตัว 6.0% yoy หลังค่าเงินเยนอ่อนค่า ช่วยกระตุ้นคำสั่งซื้อภาคการผลิต และแนวโน้มยังเป็นบวกในด้านนี้
ยอดส่งออกอินโดนีเซียหดตัวแรง: หดตัว 8.46% yoy ในเดือน เม.ย. ต่อเนื่องจากเดือน มี.ค. ที่หดตัว 10.26% yoy และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 7.45% yoy ด้านยอดนำเข้าหดตัวแรงเช่นกัน 22.31% yoy ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ระดับ US$454 ล้าน
ไทย
สศช.เล็งหั่นเป้า GDP หลังส่งออก - ลงทุน ไม่ฟื้น: การแถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1/2558และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี2558 ในวันนี้ (18พ.ค.) สศช.จะปรับลดประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจีดีพีปี2558 จะขยายตัว ในกรอบ3.5-4.5% เป็นขยายตัวลดลงในกรอบ 3.5-4.0% แม้เศรษฐกิจไทยในช่วง 1Q58 และในปีนี้คาดว่าจะได้ประโยชน์เต็มที่จากภาค การท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐ และการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามแนวโน้มของเศรษฐกิจยังได้รับผลกระทบ จากภาคการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องโดย ใน 1Q58 ติดลบถึง 4% ซึ่งส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ทำให้มี แนวโน้มขยายตัวไม่เกิน 4% หรือต่ำกว่า
ปลัดคลังเสนอนายกฯ เพิ่มเงินลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว: ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยการ ช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ในด้านช่วยเหลือท่องเที่ยวนั้น กำลังพิจารณาเพิ่มเติมว่าจะขยาย สิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยวใน ประเทศ ปัจจุบันสามารถนำใบเสร็จรับเงินที่ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี ตรงนี้อาจขยายเพิ่มเป็น 30,000 บาทต่อปี เพราะในปี 2557 ที่ผ่านมาคนมาใช้สิทธิตรงนี้น้อยมาก และ ในปี 2558 นี้จะเป็นปีสุดท้ายที่ให้สิทธิ 2 ปี ดังนั้น ทางกระทรวงการคลังกำลังประเมินว่าจะขยายเวลาต่อออกไปหรือไม่ หรือจะขยายวงเงินที่จะนำมาลดหย่อน
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530