- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 May 2015 16:34
- Hits: 1256
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ลุ้นรีบาวด์ได้แต่แรงขายเยอะ แนะขายลดพอร์ตช่วงบวก!!!
กลยุทธ์ : แม้ SET จะปรับลงอีกวานนี้แต่ก็มีแรงซื้อดันกลับได้ ทำให้ยังมีลุ้นโอกาสรีบาวด์ขึ้นก่อนได้ตามคาดเดิม แต่ด้วยประเด็นเศรษฐกิจในประเทศที่ยังอ่อนแอและไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว ทำให้ FSS ไม่แนะนำให้เข้าซื้อเพิ่มแล้ว และเน้นเป็นทยอยขายในช่วงบวกเพื่อลดพอร์ตลงก่อนดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : PSTC, SPALI, PTTGC(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนเช่นเดิม โดยปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวด้านลบตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนที่จะรีบาวด์กลับมาปิดบวกได้ในช่วงสิ้นวัน แต่แรงซื้อที่มีเข้ามาก็ไม่ได้หนักแน่นนัก ขณะที่นักลงทุนทั้งสถาบันในประเทศและต่างประเทศก็ยังมียอดขายกดดันอีก ทำให้ยังดูไม่ค่อยน่ามั่นใจเท่าใด อย่างไรก็ตามเช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศที่หลายแห่งยังอยู่ในแดนบวก ขณะที่ช่วงที่ผ่านมา SET ก็ได้ปรับพักตัวลงมาค่อนข้างมากแล้ว ทำให้ FSS ยังคาดว่าดัชนียังมีสิทธิแกว่งไต่ระดับบวกต่อได้อยู่ตามคาด แต่เนื่องจากปัจจัยในประเทศที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมากขึ้น ภายหลังจากที่เข้าสู่ช่วงกลางปีแล้ว แต่ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐก็ยังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร ประกอบกับผลประกอบการของ บจ.ต่างๆ ก็ยังดูอ่อนแอกว่าคาด รวมทั้งล่าสุดช่วงเย็นวานนี้(14 พ.ค.) แบงก์ชาติยังระบุว่าคาดการณ์ NPL ของแบงก์พาณิชย์ในไตรมาส 2/58 ยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก ส่งผลให้การคาดการณ์ระดับดัชนีที่เหมาะสมของปี 2558 ที่ FSS ประเมินน่าจะต้องมีการปรับลดลงจากเดิมค่อนข้างมาก (คาดว่าจะมีรายงานออกในสัปดาห์หน้า) ดังนั้นเราแนะนำให้ทยอยขายลดพอร์ตลงก่อนในช่วง SET รีบาวด์
แนวรับ 1495-1490 , 1487-1485 จุด
แนวต้าน 1500-1502 , 1505-1510 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หว้น US$169.3 ล้าน ไทย US$22.5 ล้าน เกาหลีใต้ US$21.1 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$13.6 ล้าน และเวียดนาม US$0.9 ล้าน ขณะที่อินโดนีเซียปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ทรงตัว Flow น่าจะเบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขยับลงหนุนหุ้นระยะสั้น Bond Yield 10 ปีของสหรัฐวานนี้ขยับลงเล็กน้อยเป็น 2.24% หลังพุ่งสูงตั้งแต่ปลาย เม.ย. สะท้อนคาดการณ์ว่า Fed ยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า หนุนหุ้นและทองคำ เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียปรับตัวบวกเป็นส่วนใหญ่
(-) ผลประกอบการ 1Q15 สะท้อนเศรษฐกิจที่ฟื้นช้ากว่าคาดมาก หากไม่รวมกลุ่มพลังงานและปิโตรฯซึ่งมีรายการพิเศษที่ผันผวนตามราคาน้ำมันในตลาดโลก กำไรปกติ 1Q15 +9% Q-Q (กลุ่มท่องเที่ยวช่วยผลักดัน) และเพิ่ม 16% Y-Y (จากฐานต่ำ) แม้กำไรจะโตทั้ง Q-Q และ Y-Y แต่ไม่มีคุณภาพเพราะส่วนใหญ่มาจากการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ขณะที่รายได้โตในอัตราช้ามากโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ มีเพียงกลุ่มโรงแรม โรงพยาบาลที่มีลูกค้าเป็นต่างชาติ สายการบิน และอิเล็คทรอนิคส์ที่ยังเติบโตได้ดี ล่าสุด EPS growth ในปีนี้ของเราลดเหลือ 28% จาก 33% เรามีแนวโน้มปรับลด SET Target ลงเร็วๆนี้
(+) THRE กำไรดีกว่าคาดจากการขาย THREL หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติเป็น 189 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนใน 4Q14 เพราะค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทนที่ลดลง ซึ่งยืนยันการจบผลขาดทุนจากน้ำท่วมที่ยาวนานมาตั้งแต่ปี 2011 เราคาดว่าปีนี้ THRE จะ turnaround เป็นกำไรปกติเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ 542 ล้านบาท แต่ปรับเพิ่มกำไรสุทธิเป็น 2.5 พันล้านบาทสะท้อนกำไรจากการขาย THREL ใน 1Q15 ยังคงราคาเป้าหมาย 3.92 บาท และแนะนำซื้อ
(0) ASK กำไรต่ำกว่าคาดแต่ยังให้ปันผลสูง กำไรสุทธิ -4% Q-Q, +8% Y-Y ต่ำกว่าคาดจากรายได้ดอกเบี้ยที่หดตัวเพราะมีสินเชื่อที่หยุดรับรู้รายได้มากขึ้น โดยสินเชื่อที่ค้างชำระมากกว่า 6 เดือน เพิ่มขึ้นถึง 45% Q-Q ซึ่งทำให้ภาพรวมของรายได้ดอกเบี้ยในไตรมาสถัดไปเป็นลบ เราปรับกำไรปีนี้ลง 8% เป็นเติบโต 4% Y-Y จากการปรับลดการขยายตัวของสินเชื่อเหลือ 10% จากเดิม 15% และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 24 บาท แต่ยังแนะนำซื้อ เพราะยังชอบอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง 6-7% ต่อปี
(0) M กำไรต่ำกว่าคาดแต่มีแนวโน้มดีขึ้น กำไรสุทธิ -26% Q-Q จากฤดูกาล แต่เพิ่มเพียง 3% Y-Y ซึ่งต่ำกว่าคาดเพราะยอดขายของสาขาเดิมทำได้เพียงทรงตัวจากปีก่อน แนวโน้มน่าจะดีขึ้นใน 2Q15 ซึ่งเป็น High season เรายังคาดกำไรปีนี้โต 13% คงราคาเป้าหมายที่ 74 บาท แนะนำซื้อ
(-) QH ราคาหุ้นจะถูกดดันจากการปรับเป้ารายได้ลงของบริษัท ผู้บริหารลดเป้า Presales ในปีนี้ลง 1% และลดเป้ารายได้ลง 11% ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยที่กำลังซื้อชะลอกว่าที่คาด แต่เรายังคงประมาณการไว้เพราะต่ำกว่าเป้าของบริษัทอยู่แล้ว จึงยังคงราคาเป้าหมาย 4.10 บาท คงคำแนะนำซื้อ แต่ราคาหุ้นระยะสั้นจะถูกกดดันจากการปรับเป้าของของผู้บริหาร ประกอบกับกำไร 1Q15 ไม่น่าสนใจ -18% Q-Q และ 11% Y-Y ตามรายได้โอนที่ลดลงเพราะการชะลอโอนบ้านของลูกค้าระดับบน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนบวกได้หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาอยู่ในระดับต่ำกว่าคาด ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและ Bond Yield ปรับตัวลดลง
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกเช่นกันจากการพุ่งขึ้นของหุ้นในกลุ่มเหล็กหลังนโยบายภาครัฐออกมาสนับสนุน
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้น
ค่าเงินบาทแกว่งตัวผันผวน ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.44-33.59 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 59.88 เหรียญ/บาร์เรล ขยับลง 0.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน เม.ย.
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,225.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.00 เหรียญ/ออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจยังออกมากระจัดกระจายทำให้นักลงทุนคาดว่า FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15 พ.ค. - ฮ่องกง: 1Q15GDP (ตลาดคาด +2% Y-Y vs 4Q14 +2.2% Y-Y)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK)ประชุม(ตลาดคาดดงดอกเบี้ยที่ 1.75%)
- สหรัฐ:Industrial Productionและ Capacity Utilization (เม.ย.)
18 พ.ค. - ไทย: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +3.3% Y-Y)
19 พ.ค. - ไทย:ศาลฏีกานัดพิจารณาคดีจำนำข้าวครั้งแรก
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
20 พ.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (เม.ย.)
- ญี่ปุ่น: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +1.6% annualized Q-Q)
- สิงคโปร์: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +1.6% Q-Q)
21 พ.ค. - จีน:HSBC China Manufacturing PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (เม.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (พ.ค.),ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.)
22 พ.ค. - ญี่ปุ่น BOJประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research