- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 May 2015 18:39
- Hits: 1157
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้:
SET ปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1478.90 จุด (-22.4 จุด) และรีบาวด์ช่วงท้ายตลาดปิดที่ 1485.72 จุด (-15.58 จุด, -1.04%) ลดลงมากสุดในภูมิภาค และ Underperformed เมื่อเทียบกับกลุ่ม TIPs แรงขายในแทบทุกกลุ่ม ยกเว้นท่องเที่ยว สื่อสาร และขนส่งขึ้นนำตลาด ลดลงมากสุดในกลุ่มขนาดเล็ก เช่น MINE (-5.1%), PROF (-4.14%) PKG (-2.9%), HOME (-2.8%) และ FIN (-2.7%) มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 36,251 ล้านบาท เงินบาทยังทำสถิติอ่อนค่าต่อเนื่องในรอบกว่า 5 ปีที่ 33.78 บาท/US$ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับอีก 4 สกุลหลัก ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทรงตัวขึ้นที่ US$66/bbl ต่างชาติขายสุทธิ 1.2 พันล้านบาท กองทุนสลับขายสุทธิ 701 ล้านบาท
แนวโน้มวันนี้:
ในภาวะตลาดที่ยังขาดปัจจัยชี้นำเชิงบวกที่ชัดเจน และรับรู้ปัจจัยการลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศและมาตรการทางการส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าตอ่เนื่อง (เช้านี้ 33.70 บาท/US$) เราประเมินการที่ SET ปรับตัวลงในรอบสั้นจาก 1570 จุด (22/4/58) ถึงวานนี้ที่ 1485 จุด หรือ -85 จุด (-5.4%) กอปรกับเชิงเทคนิค SET ถูกแรงขายที่มากเกินไป Oversold และ SET ยืนเหนือแนวรับที่ 1480 จุด คาดการณ์กรอบแนวรับ/ต้านวันนนี้ที่ 1480-1500 จุด หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรสั้นหาก SET หลุด 1480 จุด เราแนะนำ ซื้อ หุ้นหลักต่อเนื่อง เช่น พลังงาน ธนาคาร สื่อสาร พาณิชย์ เช่น SCB, PTTEP, LH, CPALL
สำหรับพอร์ตลงทุนระยะยาว การเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องและยังมีแนวโน้มอ่อนค่าในระยะสั้นได้ นอกเหนือจะเอื้อต่อภาคส่งออกแล้ว เรามองว่ากลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม และโรงพยาบาลจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ทางตรง แนะนำซื้อสะสม ERW
ปัจจัยที่มีผลกระทบ
บีโอไอ อนุมันส่งเสริมการลงทุนใน 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.)ปี 58 จำนวน 957 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 325,490 ล้านบาท สูงขึ้นกว่า 6.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริม กระจายอยู่ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่นกลุ่มกิจการบริการและสาธารณูปโภค (115,050 ล้านบาท), เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (59,360 ล้านบาท), อุตสาหกรรมโลหะ เครื่องจักร ยานยนต์และชิ้นส่วน (51,210 ล้านบาท), เคมีภัณฑ์พลาสติกและกระดาษ (46,000 ล้านบาท), เกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร (25,110 ล้านบาท)
โพลล์รอยเตอร์ชี้ธนาคารสหรัฐส่วนใหญ่คาดเฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยเดือนก.ย.นี้หลังตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ออกมาดีขึ้น โพลชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นของเฟด (Fed funds rate) จะขึ้นไปอยู่ที่ 0.625% ณ สิ้นปีนี้และอยู่ในช่วง 1.25-2.25% ณ สิ้นปี 2016 โดยอ้างอิงจากข้อมูลการจ้างงานเดือนเม.ย. ชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐมีสัญญาณการฟื้นตัวและอัตราการว่างงานได้ตกลงถึงเกือบระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี
รายงานประจำวันนี้
SPALI | NR/ Fair Value NR
Result Note: 1Q15 earnings dragged by low GPM at Wellington I