- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 May 2015 18:19
- Hits: 989
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังลบต่อแต่ก็ลงมาลึกแล้ว จึงคาดว่ายังลุ้นรีบาวด์ได้
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะยังปรับตัวลงต่อและลึกกว่าที่เราคาดไว้พอควร แต่ก็ยังพอที่จะลุ้นโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งตัวด้านบวกได้ในช่วงถัดไปตามคาดเดิม ดังนั้น FSS จึงยังไม่แนะนำให้ขายขาดทุนในช่วงตลาดเป็นลบ แต่แนะนำให้เน้นถือไว้ก่อน เพื่อรอพิจารณาจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกน่าจะดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, IVL, KTC(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังไหลลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าจุดต่ำเดิมรอบล่าสุดเมื่อ 27 มี.ค.แถว 1484.91 จุดอีก แม้ว่าแรงขายที่ออกมากดดันดูจะไม่รุนแรงนัก แต่แรงซื้อในช่วงนี้ก็ถือว่าค่อนข้างหดหายไปพอควร จึงทำให้ตลาดหุ้นไทยดูอ่อนแอมากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้จะปิดปรับตัวลงต่อ เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลัง รมว.คลังกรีซออกมายอมรับว่ากรีซอาจเผชิญปัญหาการขาดสภาพคล่อง แต่ก็ถือว่าเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนบ้าง เพราะสุดท้ายดัชนีดาวโจนส์ยังสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเป็นลบไม่มากนัก หลังจากช่วงแรกปรับตัวลดลงไปเกือบ 200 จุด ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังขยับเปิดบวกได้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ขยับขึ้นจากการปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันปีนี้จากกลุ่มโอเปก ก็น่าจะช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานได้อีกครั้ง รวมทั้งการปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงแล้วของ SET ก็อาจทำให้มีแรงซื้อกลับเพื่อเก็งกำไรลุ้นรีบาวด์ด้วย ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอรอบรีบาวด์ก่อนค่อยพิจารณาหาจังหวะขายต่อไป
แนวรับ 1482-1478 , 1470-1460 จุด
แนวต้าน 1490-1495 , 1500-1502 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่หนาแน่น โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย US$35.5 ล้าน อินโดนีเซีย US$30.2 ล้าน เกาหลีใต้ US$33.7 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$25.8 ล้าน และเวียนดนาม US$1.3 ล้าน แต่ซื้อไต้หวัน US$112.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังไหลออกแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) กำไรสุทธิของบจ.เท่าที่รายงานแล้ว (ใน FSS Coverage) เพิ่มขึ้น 165% Q-Q และ 9% Y-Y ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่มีขาดทุนจากสต็อกลดน้อยลง หากตัดกลุ่มพลังงานและปิโตรฯออก พบว่ากำไรปกติของกลุ่มอื่น +12% Q-Q, + 17% Y-Y กลุ่มที่มีกำไรเติบโตดีคือกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์, เช่าซื้อขนาดเล็ก, SCC, THAI, CPALL แต่กลุ่มที่กำไรไม่ดีนักคือกลุ่มมีเดีย ค้าปลีก ไก่ และกลุ่มที่อยู่อาศัย
(+) CPALL กำไรดีกว่าคาดมากและทำจุดสูงสุดใหม่ +36% Q-Q, +26% Y-Y จากค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าคาด เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้โต 33% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 54 บาท แนะนำซื้อ สำหรับคดีถูกผู้ถือหุ้นรายหนึ่งฟ้องร้องกรณีทำ Tender Offer หุ้น MAKRO บริษัทอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ ความเสียหายค่อนข้างจำกัดคิดเป็นเพียง 0.8% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี
(+) SPALI กำไรเป็นไปตามคาด -44% Q-Q, +22% Y-Y ตามทิศทางของรายได้โอน คิดเป็น 19% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่เราคาด แนวโน้มกำไรใน 2Q15 น่าจะทรงตัว Q-Q เพราะยังมีผลกระทบจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าปกติของโครงการคอนโดศุภาลัยเวลลิงตัน เฟส 1 ที่ยังโอนต่อเนื่องอยู่ แต่จะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง SPALI มี PE ต่ำเพียง 6.8 เท่า ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
(0) SVI กำไรปกติดีกว่าคาด หากไม่รวมเงินเคลมประกัน 180 ล้านบาทและรายการพิเศษอื่น จะมีกำไรปกติ 77 ล้านบาท -49% Q-Q, -59% Y-Y เพราะเพิ่งเริ่มฟื้นฟูจากไฟไหม้แต่ถือว่าฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็วและมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีหลังติดตั้งเครื่องจักรครบตั้งแต่ เม.ย. เรายังคาดกำไรปกติปีนี้โต 17% Y-Y และ 24% Y-Y ในปีหน้า ยังคงราคาเป้าหมาย 5.20 บาท แต่ upside จำกัดจึงยังแนะนำเพียงถือ
(0) GFPT กำไรอ่อนแอตามคาด -41% Q-Q, -49% Y-Y เหลือ 218 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 8 ไตรมาส จากปริมาณส่งออกชะลอ และราคาไก่ทั้งในประเทศและส่งออกปรับลงจากปัญหา Oversupply ซึ่งทำให้บริษัทร่วม GFN พลิกเป็นขาดทุน ปัจจุบันราคาไก่ปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 37-38 บาท/กก. จากเดือนก่อนหน้าที่ 35-36 บาท/กก. แต่การฟื้นตัวของราคาไก่ในระยะถัดไปเป็นไปอย่างจำกัด เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 16% จากหดตัว 4% Y-Y เป็นหดตัวถึง 19% Y-Y เพราะการส่งออกฟื้นตัวช้า ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 14 บาทจากเดิม 16 บาท แต่ราคาหุ้นสะท้อนไปแล้ว จึงแนะนำซื้อ
(0) CSS กำไรต่ำกว่าคาด -27% Q-Q, +219% Y-Y จากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงานซึ่งบริษัทเตรียมเริ่มธุรกิจ แต่ธุรกิจหลักคือการขายอุปกรณ์ไฟฟ้า (70% ของรายได้) และงานติดตั้งเสา 3G (30% ของรายได้) ยังอยู่ในการคาดการณ์คือชะลอจากไตรมาสก่อนตามฤดูกาล กำไรจะขยับฐานสูงขึ้นตั้งแต่ 2Q15 จากการรวมงบการเงินของ NWC เข้ามา เรายังคงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย 9.20 บาท และคงคำแนะนำซื้อ แต่หากปรับผลกระทบของค่าใช้จ่ายพิเศษที่สูงผิดปกติใน 1Q15 กำไรในปีนี้ของเราอาจสูงเกินไป 5-6% ซึ่งทำให้เป้าหมายขยับลงเป็น 8.60 บาท ยังซื้ออยู่ดี
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนลบต่ออีกเล็กน้อยแต่ถือว่าฟื้นตัวขึ้นได้หลังจากร่วงแรงระหว่างวันโดยนักลงทุนเริ่มเห็นการฟื้นตัวของตลาดพันธบัตร
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบค่อนข้างแรงจากสถานการณ์หนี้ของกรีซที่น่าเป็นห่วงรวมถึงแรงเทขายในตลาดพันธบัตร
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนลบจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่ค่อยสดใส ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในวันนี้
ค่าเงินบาทแกว่งตัวผันผวน ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-33.74 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 60.75 เหรียญ/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่ารวมถึง OPEC ได้ออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันของโลก
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,192.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.40 เหรียญ/ออนซ์ จากดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่ารวมถึงการร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรป
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13 พ.ค. - MSCI Semi-Annual Index Review (มีผล 1 มิ.ย. 2015)
- จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีก (เม.ย.)
- ยูโรโซน: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +1% Y-Y vs 4Q14 +0.9% Y-Y)
- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (เม.ย.)
14 พ.ค. - ไทย: ประชุม กพช.
- มาเลเซีย: 1Q15 GDP
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- อินโดนีเซีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Ascension of Jesus
15 พ.ค. - ฮ่องกง: 1Q15GDP (ตลาดคาด +2% Y-Y vs 4Q14 +2.2% Y-Y)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม(ตลาดคาดดงดอกเบี้ยที่ 1.75%)
- สหรัฐ: Industrial Production และ Capacity Utilization (เม.ย.)
18 พ.ค. - ไทย: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +3% Y-Y)
19 พ.ค. - ไทย: ศาลฏีกานัดพิจารณาคดีจำนำข้าวครั้งแรก
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research