- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 May 2015 15:28
- Hits: 961
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : บวกตามรอบบ้าน
หุ้นแนะนำเทคนิค : TLUXE VIH
Analyst Meeting : SMT
หุ้นเด่นรายวัน : ADVANC PTTGC DELTA KCE
SET วันก่อนดีดตัวขึ้นจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดและใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม BANK ETRON หนุนให้ SET ปิดที่ 1,510.51 จุด (+12.20 จุด) Volume 3.8 หมื่นลบ. โดย Foreign Net sell 472 ลบ. และ Net Short TFEX 2,097 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
Sentiment ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้รับ 2 ปัจจัยบวก ได้แก่
ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงอีก 0.25% ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. เพื่อให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลงและช่วยกระตุ้นเศษฐกิจภายในที่ชะลอตัวลง
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และอัตราการว่างงานลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปีที่ระดับ 5.4% บ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นไป โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,520 – 1,530 จุด อย่างไรก็ตามต้องติดตามการประชุมรัฐมนตรีคลังของยูโรโซนในวันนี้ประเด็นการเจรจาปัญหาหนี้กรีซว่ามีความคืบหน้าอย่างไร อีกทั้งกรีซจะครบกำหนดชำระต่อ IMF 760 ล้านยูโร ในวันที่ 12 พ.ค.อีกด้วย
กลยุทธ์การลงทุน
SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น จึงสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรได้ โดยมีแนวขายทำกำไรที่บริเวณ 1,520 – 1,530 จุด ทั้งนี้ยังคงให้สะสมหุ้นที่คาดว่างบQ1/58 จะเติบโต เช่น ICHI TASCO SPA TOP BCP เก็งกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ เช่น KCE DELTA HANA SVI KKC ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และกลุ่มธนาคาร KBANK SCB BBL KTB หลังจากราคาปรับตัวลงมากจน P/E อยู่ระดับ 8.5 – 10.8 เท่า
Analyst Meeting
SMT : ราคาปิด 9.05 บาท
ผบร.คาด Turnaround พลิกมีกำไรในปีนี้ จากเป้าหมายยอดขาย +30% YoY เป็น 1.1 หมื่นลบ. โดยเร่งหาลูกค้าใหม่ในแถบยุโรป ญี่ปุ่น และเน้นสินค้าที่มี Value added สูง อีกทั้งมีเครื่องจักรใหม่ที่ทันสมัยช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้มาก
ปัจจุบันมี capacity 80% ยังเหลือกำลังการผลิตเพื่อเพิ่ม line สินค้าใหม่ได้อีกราว 20% ซึ่งล่าสุดมีสินค้าใหม่ 8 ประเภท เช่น Touch sensor , life style camera ,bike computer ซึ่งอยู่ในช่วงเจรจาลูกค้าและคาดว่าจะได้ order เข้ามามากในช่วง Q4/15 ช่วยเพิ่มรายได้ราว 15-20%
ตั้งเป้าหมาย Gross margin เป็น doubld digit โดยเพิ่มสินค้าที่ได้ margin สูงจากปัจจุบันสัดส่วนสินค้า Commodity (margin ต่ำ) / Value added (margin สูง) อยู่ที่ 90/10 เป็น 75/25 ในปี 2015-2016 และ 25/75 ในอนาคต
หุ้นเด่นรายวัน
ADVANC : (ราคาปิด 238 แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 285 บาท)
1Q58 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 9,897 ล้านบาททรงตัว QoQ และเติบโต 4.4% YoY โดยมีแรงหนุนจากการให้บริการรวมถึงการเติบโตของจำนวนมือถือ 3G ที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เทคนิค: ราคายืนเหนือแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นสร้างรูปแบบ Double Bottom รับ 236 / 230 ต้าน 246 / 254 Cut Loss 226
PTTGC : (ราคาปิด 63.50 Consensus เฉลี่ย 69)
รายงานงบไตรมาส 1/58 มีกำไรสุทธิ 5.63 พันล้านบาท เติบโต 229% QoQ ลดลง 10%YoY สาเหตุหลักที่กำไรปรับตัวดีขึ้นเทียบรายไตรมาสเนื่องจากไม่มีขาดทุนสต๊อกน้ำมันมากเท่าไตรมาส 4/57 เพราะราคาน้ำมันในไตรมาส 1/58 เริ่มมีการสร้างฐานได้ โดยกำไรได้รับแรงหนุนจากธุรกิจโรงกลั่นเนื่องจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจอะโรเมติกส์กำไรยังเพิ่มขึ้นจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและส่วนที่สูญหายลดลงตามราคาคอนเดนเสท แต่ธุรกิจโอเลฟินกำไรปรับตัวลงตาม spread ของ HDPE ที่ปรับตัวลง
เทคนิค : หากราคาหุ้นสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน/60 บาทได้อย่างแข็งแกร่งมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ แนวรับ 62.00 แนวต้าน 65.25 / 66.25 Cut loss 60.00
DELTA : (ราคาปิด 83) KCE (ราคาปิด 52.25)
แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับอานิสงส์จากดอกเบี้ยลด เงินบาทอ่อนค่าหนุนผลประกอบการโตโดดเด่น มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หนุนผลงานปีนี้พุ่งแรง โดย DELTA การันตีกำไรปีนี้ นิวไฮต่อเนื่อง ยอดขายเข้าเป้า ส่วน KCE เตรียมเพิ่มกำลังการผลิต หลังโรงงานใหม่เดินเครื่องแล้ว ซุ่มคุยพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ (ที่มา : ทันหุ้น)
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +267.05 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,191.11 จุด พุ่งขึ้น 267.05 จุด หรือ +1.49% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,003.55 จุด เพิ่มขึ้น 58.01 จุด หรือ +1.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,116.10 จุด เพิ่มขึ้น 28.10 จุด หรือ +1.35%
หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ
ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 59.39 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและจะช่วยหนุนอุปสงค์พลังงานให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์