- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 May 2015 16:19
- Hits: 1124
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ”เละตุ้มเปะ”
SET ปิดปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน ที่ได้รับแรงกดดันจากความเห็นของ FED และการเจรจาหนี้กรีซที่ไม่คืบหน้า สร้างความกังวลต่อระบบการเงิน ปิดตลาด SET Index ลดลงมาอยู่ที่ 1,498.31 จุดลดลง 21.57 จุด (-1.42%) Vol 4.6 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ของสหรัฐอ่อนตัวลงต่อเป็นวันที่สอง หลังการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
(+) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3,000 ราย แตะ 265,000 ราย ดีกว่าคาด สร้างสัญญาณบวกต่อตลาดแรงงานสหรัฐ
(+) วานนี้ Fund Flow ต่างชาติมี Net Sell เพียง 31 ล้านบาท สวนทางการปรับตัวลดลงรุนแรงของดัชนี โดยมี Net Sell ติดต่อเป็นวันที่ 5 รวมมูลค่า 9 พันล้านบาท
(-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ แม้ว่า EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลง
(+/-) เอ็กซิตโพลระบุพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษคว้าที่นั่ง 316 ที่นั่งในรัฐสภา แต่ยังไม่มีพรรคใดสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งนี้
(+/-) First Day Trade หุ้น TVT วันนี้ IPO ราคา 2 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในเวลา 19.30 น.วันนี้ ตามเวลาไทย
* การรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของหุ้น Real Sector ของไทย และการรายงานงบ
ไตรมาส 1 ของหุ้นต่างประเทศ
* การเจรจาหนี้กรีซยังคงยืดเยื้อ ก่อนการประชุมยูโรกรุ๊ปวันที่ 11 พฤษภาคม
* การประกาศ Rebalance ดัชนี MSCI Index ในรอบครึ่งปี 58 วันที่ 12 พ.ค.
กลยุทธ์การลงทุน “เก็งธนาคารรับ Rebound”
คาดหมายการ Rebound ขึ้นของดัชนีในวันนี้หลังการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงวานนี้ สวนทางการขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีเพียง 31 ล้านบาท สร้างโอกาสซื้อกลับของนักลงทุนในประเทศ พร้อมสัญญาณบวกจาก Bond Yield ของสหรัฐที่เริ่มอ่อนตัวลง ด้านในประเทศมีความผันผวนจากการรายงานงบไตรมาส 1 ที่จะทยอยรายงานจำนวนมากในสัปดาห์หน้า และด้วยความกังวลต่อแนวโน้ม GDP ในไตรมาส 1 ที่เพิ่มขึ้น กดดันต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเช่นกัน เน้นเก็งระยะสั้นรับการ Rebound ในธนาคาร ส่งออก
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
KBANK เก็งกำไร
* มองได้ผลกระทบจาก GDP ไทยที่อ่อนแอ ต่ำสุดจากฐานลูกค้า SME มีสัดส่วนสูงและมีการเติบโตของ Non-interest income หนุน
* ราคาหุ้นซื้อขาย 1.79 เท่า Book value ซึ่งต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี -1 S.D ที่ 1.91 เท่าของ Book Value
* เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนการปรับเป้า Loan Growth ของธนาคารมาระดับหนึ่งซึ่งมี Risk กับ Reward น่าสนใจในการเล่นรีบาวด์
CPALL เก็งกำไร
* คาด 1Q58 ผลประกอบการฟื้นตัว ทั้งจากยอดขายสาขาเดิม และผลประกอบการของ MAKRO ที่เติบโตต่อเนื่อง
* วางแผนรุกตลาดอาหารมื้อหลักและร้านกาแฟมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่ยังขยายได้อีกมาก
* คาดว่าไมได้รับผลกระทบมากนักจากการที่มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการทำธุรกิจของผู้ถือหุ้นของบริษัท
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ