- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 May 2015 16:12
- Hits: 1079
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
SET Index : แนวรับ 1495 แนวต้าน 1510
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1498.315 จุด ลดลง 21.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,959 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาปิดต่ำกว่าระดับ 1500 จุดหลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1510 จุดลงไป ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น
Daily: ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงหลุดแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1510 จุดลงไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่พิจารณาหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร และพลังงานที่ปรับตัวลดลงไม่มาก จึงทำให้ SET Index มีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหนือระดับ 1500 จุด และมีแนวต้านที่ 1510 จุด ถ้าสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปได้ โครงสร้างในระยะยาวยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวลดลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดเดิมที่บริเวณ 1495 จุด ถ้าทำจุดต่ำสุดใหม่จะมีความเสี่ยงในการลงต่อทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1470 จุด แต่เราคาดว่า น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1500 จุด และถ้าสามารถปิดยืนเหนือ 1510 จุดได้ ระยะยาวยังอยู่แนวโน้มขาขึ้น
Asia Fund Flow : 7 พฤษภาคม 2558
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขายสุทธิ 38 ล้านเหรียญ (8 พ.ค.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ขายสุทธิ 51 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 27 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 22 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 1 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
TRUE แนวรับ 10.80 และ 10.50 เป็นจังหวะทยอยซื้อหลังจากปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง 10.80 / 10.50 11.20 / 11.50
KTB แนวโน้มลงทดสอบ 19.00 แนวต้าน 20.00 และ 20.30 19.40 / 19.20 19.80 / 20.00
KBANK แนวรับ 200 แนวต้าน 208-210 202 / 200 205 / 208
PTT แนวต้านสำคัญ 362 แนวรับ 358 และ 355 358 / 355 362 / 365
SCB สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 165 และ 167 159 / 158 162 / 164
TASCO สัญญาณขาย แนวรับ 12.50 มีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 11.30 12.50 / 12.00 13.20 / 13.50
PTTEP แนวโน้มขึ้นทดสอบ 122 และ 125 120 / 118 122 / 125
BBL แนวรับสำคัญ 177-178 ถ้าไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่มีโอกาสขึ้นทดสอบ 190 และ 195 180 / 178 184 / 185
TMB แนวโน้มลงทดสอบ 2.40 แนวต้าน 2.60-2.64 2.44 / 2.40 2.58 / 2.64
PTTGC แนวรับ 63.00 และ 62.00 แนวต้าน 65.00 และ 66.00 64.00 / 63.00 65.00 / 66.00
Thai Oil (TOP TB; THB 55.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 58.00 และ 59.00
แนวรับ : 55.00 และ 54.50
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านทิ่บริเวณ 59.00-60.00 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่เราคาดว่า ราคาหุ้นน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับสำคัญตามกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 30
แนะนำซื้อ TOP โดยมีแนวรับที่ 55.00 และ 54.50 และมีแนวต้านที่ 58.00 และ 59.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 54.00 ลงไป
Thai Reinsurance (THRE TB; THB 3.14) - ซื้อ
แนวต้าน : 3.24 และ 3.30
แนวรับ : 3.14 และ 3.10
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกอรบแนวโน้มขาลงแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง RSI ปรับตัว
เพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ THRE โดยมีแนวรับที่ 3.14 และ 3.10 และมีแนวต้านที่ 3.24 และ 3.30 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.04 ลงไป
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มค่อยๆฟื้นตัว
สัญญาณการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก เริ่มจะเห็นภาพ หลังทาง ECB ใช้นโยบายซื้อพันธบัตร แล้วส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มปรับตัวดีขึ้น (โดยเฉพาะเงินเฟ้อหยุดหดตัว) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในกลุ่มยูโร สหรัฐ แคนาดา อังกฤษ และออสเตรเลีย ต่างสร้างสถิติสูงสุดในรอบปี เนื่องจากคาดกันว่าสัญญาณที่จะเกิดภาวะเงินฝืดเริ่มหมดลง ส่งผลให้เกิดแรงขายสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่าง พันธบัตร ค่าเงินเยน เพราะมองว่ากำลังจะเริ่มเกิดสัญญาณเงินเฟ้อ ขณะที่สหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้
ภาพที่เห็นได้ชัดขึ้นของการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์คือ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ชัดในราคาน้ำมัน ดัชนี CRB Commodity
และ ทองแดง และน่าสังเกตดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวดีขึ้น (+>10%) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (-1.8%) ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว แม้จะยังปรับตัวขึ้นแต่ขึ้นน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ตลาดหุ้นสหรัฐ และที่สำคัญเริ่มมีแรงขายพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐและยุโรป ภาพที่เกิดขึ้นกำลังสะท้อนภาพให้เห็นได้ว่าเม็ดเงินกำลังเคลื่อนย้ายจากสินทรัพย์หนึ่งไปยังอีกสินทรัพย์หนึ่ง หรืออาจย้ายจากพันธบัตรมายังสินค้าโภคภัณฑ์ หรือหุ้น หรือเงินฝาก หรือย้ายจากตลาดหุ้นพัฒนาแล้วมายังตลาดหุ้นเกิดใหม่
จากรูปด้านขวา เราแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทต่างๆ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน พบว่า เกือบทุกรายการปรับตัวดีขึ้น เหลือเพียงสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ ที่ยังลดลง การปรับตัวดีขึ้นของราคาสินค้าประเภทอุตสาหกรรม (โลหะพื้นฐาน) พลังงานและโลหะมีค่า ส่วนหนึ่งคงมาจากการค่อยๆฟื้นตัวของกำลังซื้อ ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนตัวลงและการล้มหายตายจากของผู้ประกอบการ การฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางรายการ ยังส่งผลต่อด้านบวกกับผู้ผลิตในไทย ค่อนข้างน้อย ยกเว้น พลังงานและปิโตรเคมี เพราะสินค้าโภคภัณฑ์หลักของไทยยังอิงกับ สินค้าเกษตร อาหารและสินค้าประมง ซึ่งราคาสินค้าดังกล่าวยังปรับตัวลง
ในแง่การลงทุนในตลาดหุ้น การที่ราคาน้ำมัน ถ่านหิน ปิโตรเคมีและโลหะพื้นฐาน เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ถือว่าเพียงพอและสามารถหักล้างกับผลการปรับตัวลงของราคาสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งเราหมายถึงจะไม่กระทบกับดัชนี SET มากนัก ในทางตรงข้าม ดัชนียังสามารถพุ่งขึ้นแรงๆได้หากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปอีก จากรูปด้านขวา จะพบว่าราคาโลหะที่ปรับตัวดีขึ้นและมีผู้ผลิตในไทยคือ สังกะสี สัญญาณการค่อยๆฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ยังคงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หากยังรักษาในระดับ 7% คาดว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางรายการจะเริ่มยืนและอาจเพิ่มขึ้นหากจีนออกมาตรการกระตุ้นรอบใหม่
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้เราคาดว่าตลาดจะยังมีความผันผวนอยู่หลังจากที่ตลาดปรับลดลงแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ โดยคาดว่าในระหว่างวันตลาดจะมีการฟื้นตัวยืนเหนือ 1,500 จุดได้ แต่อาจถูกแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (หลังราคาน้ำมันปรับลง 1.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -3.2% เมื่อคืนนี้ ) กดตลาดให้ยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ไกล ในขณะที่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่าง AAV BA NOK THAI TASCO และหุ้นที่ประกาศผลกำไรออกมาดีเมื่อวานนี้อย่าง THCOM TK SNC น่าจะดีดตัวขึ้นได้ในวันนี้ โดยวันนี้เราให้แนวรับที่ 1490-1495 และแนวต้านที่ 1505-1510 จุด
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : กลยุทธ์การลงทุนวันนี้เราคาดว่าตลาดจะยังมีความผันผวนอยู่หลังจากที่ตลาดปรับลดลงแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ โดยคาดว่าในระหว่างวันตลาดจะมีการฟื้นตัวยืนเหนือ 1,500 จุดได้ แต่อาจถูกแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (หลังราคาน้ำมันปรับลง 1.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -3.2% เมื่อคืนนี้ ) กดตลาดให้ยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ไกล ในขณะที่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่าง AAV BA NOK THAI TASCO, หุ้นกลุ่มธนาคารพื้นฐานดีที่ปรับลดลงมาหนักอย่าง KBANK KTB และหุ้นที่ประกาศผลกำไรออกมาดีเมื่อวานนี้อย่าง THCOM TK SNC น่าจะดีดตัวขึ้นได้ในวันนี้ โดยวันนี้เราให้แนวรับที่ 1490-1495 และแนวต้านที่ 1505- 1510 จุด
Themes play :
เก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลง : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้น AAV BA NOK THAI TASCO ซึ่งเป็นผู้ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อวานนี้ที่ปรับลดลง 1.99 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -3.2% หลุดระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 58.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่า อย่างไรก็ตามการเก็งกำไรต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนนี้ EIA ได้ประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปีและดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันในสัปดาห์หน้ามีโอกาสรีบาวน์ได้หากค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง
ประเด็นในสัปดาห์
8 พ.ค. : คาด PSL PTTGC ADVANC M MAJOR MC MINT QH ROBINS SAT SIM SVI TMT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58
8 พ.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนเม.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ -15.0%
8 พ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Change in Nonfarm payrolls เดือนเม.ย. โดยตลาดคาด 228,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 126,000 ราย, ตัวเลข Unemployment rate เดือนเม.ย. โดยตลาดคาด 5.4% จากเดือนก่อนหน้าที่ 5.5% และตัวเลข Wholesale Inventories MoM เดือนมี.ค. โดยตลาดคาด +0.3% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.3%
11 พ.ค. : คาด BANPU GUNKUL KCE INTUCH ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58
12 พ.ค. : คาด AAV CHG COL DCON DRT IVL JMART NYT PS PTT STEC LH SPALI GFPT CPALL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58
Fundamental Stock :
CENTEL : Flash Note - อัตราการเข้าใช้ทำเป้าใหม่(แนะนำ : ซื้อราคาเป้าหมาย 38.50บาท)
THCOM : 1Q15 Results Note - เน้นที่ กำไรสุทธิ (แนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 49 บาท )
Technical Pick :
SET Index : แนวรับ 1495 แนวต้าน 1510
กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวลดลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดเดิมที่บริเวณ 1495 จุด ถ้าทำจุดต่ำสุดใหม่จะมีความเสี่ยงในการลงต่อทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1470 จุด แต่เราคาดว่า น่าจะฟื้นตัวกลับไป 1510 จุด
Thai Oil (TOP TB; THB 55.25) - ซื้อ
Thai Reinsurance (THRE TB; THB 3.14) - ซื้อ
Retail Research Team