- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 May 2015 16:25
- Hits: 1015
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังลบต่อ แต่ก็ลุ้นแกว่งทรงและรอดีดขึ้น จึงเน้นถือต่อ!
กลยุทธ์ : SET อาจจะยังแกว่งตัวผันผวนอยู่ แต่คาดว่ากรอบลบจะจำกัด และเริ่มมีลักษณะทรงตัว ก่อนลุ้นรีบาวด์ขึ้นในช่วงถัดไปได้ ดังนั้นยังแนะนำเลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอทำกำไรในรอบรีบาวด์ต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : APCS, AJP, DELTA(buy back)
แนวโน้ม : SET ย้อนลบอีกครั้งเมื่อวานนี้ ตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศที่ยังดูอ่อนแอ จากความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก และความอ่อนแอของเศรษฐกิจไทย ขณะที่เช้านี้ยังถูกกดดันจากการปรับตัวลงต่อเนื่องของตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดเป็นลบ จากถ้อยแถลงของประธานเฟดที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาหุ้นในตลาดที่ขยับสูงอยู่ในช่วงนี้ รวมทั้งยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดด้วย อย่างไรก็ตามการชำระหนี้ของกรีซในรอบต้นเดือน พ.ค. ยังช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกได้ นอกจากนี้การขยับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็น่าจะช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานในบ้านเราต่อเนื่องด้วย รวมทั้งการอ่อนแอของตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐก็น่าจะทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐผ่อนคลายลงได้บ้าง โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันพรุ่งนี้(8 พ.ค.) อีกครั้ง ขณะที่แม้ว่าจะยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงก์ของบ้านเรากดดัน แต่เราก็เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยพยุงราคาไว้ได้บ้างแล้ว ดังนั้น FSS คาดว่า SET ยังมีลุ้นโอกาสรีบาวด์กลับด้านบวกได้อยู่
แนวรับ 1515-1513 , 1510-1503 จุด
แนวต้าน 1526-1532 , 1535-1540 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่อง โดยนักลทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$70.9 ล้าน ไต้หวัน US$56.4 ล้าน และเวียดนาม US$9.8 ล้าน แต่ไหลออกจากกลุ่มตลาด TIP โดยขายสุทธิในอินโดนีเชีย US$63.5 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$19.3 ล้าน และไทย US$2.0 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะเบาบางและยังไหลออกจากตลาด TIP
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) Banks - ปรับลดน้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral ระยะสั้นกลุ่มธนาคารขาดปัจจัยบวกหนุนราคาหุ้น 1. ผลประกอบการ 1Q15 ส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นต่อคุณภาพสินทรัพย์ในระยะถัดไป 2. แนวโน้มผลประกอบการ 2Q15 น่าจะชะลอตัวต่อเนื่อง 3. การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นลบต่อรายได้ดอกเบี้ย และ 4. การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาด อย่างไรก็ตามเราพบว่าราคาหุ้นลงมาซื้อขายในจุดที่น่าสนใจในการเลือกเข้าซื้อแล้ว แนะนำ Selective Buy ในธนาคารขนาดใหญ่ โดย Top Pick ของเรายังคงเป็น KBANK และเก็งกำไร SCB ตามผลประกอบการ 2Q15 ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีกว่ากลุ่มเนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายพิเศษ
(+) TVO คาดกำไรปกติ 1Q15 เติบโต 4% Q-Q แม้ราคาถั่วเหลืองจะอ่อนตัวลง แต่ชดเชยได้ด้วยปริมาณขายที่สูงขึ้นทั้งกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลือง แนวโน้มกำไรจะอ่อนตัวลงใน 2Q15 ก่อนจะดีขึ้นอีกครั้งใน 3Q15 จากปัจจัยฤดูกาล ยังคาดกำไรปีนี้โต 3% Y-Y ส่วนแนวโน้มราคาถั่วเหลืองมองผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นราคาขึ้น คงราคาเป้าหมาย 26 บาท แนะนำซื้อด้วย Upside 18% และให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงปีละ 8% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
(+) GLOBAL กำไรปกติ 1Q15 ไม่รวม Stock Loss และ FX Loss ดีกว่าคาดเล็กน้อย +40% Q-Q และ +8% Y-Y เป็นกำไรสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส แม้กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวนัก แต่เติบโตได้จากฐานต่ำและสาขาใหม่ ยังคาดกำไรปีนี้โต 33% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 11.3 บาท แนะนำซื้อ
(0) BH ประกาศกำไรปกติ 1Q15 เติบโตโดดเด่น 41.6% Q-Q และ 52.6% Y-Y จากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางกลับเข้ามารักษาหลังจากปีทีผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและได้รับแรงหนุนจากการรวมงบการเงินของโรงพยาบาลอลานบาตอร์ ซองโด ประเทศมองโกเลียหลังเข้าลงทุนเมื่อปลาย 1Q14 เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2015 ขึ้น 5% เป็นเติมโต 28.3% Y-Y แต่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและซึ่งสะท้อนปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว เราปรับคำแนะนำเป็น ขาย ราคาเป้าหมาย 165 บาท
(0) IRPC รายงานผลประกอบการ 1Q15 พลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิ 3,832 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 5,779 ล้านบาทใน 4Q14 ส่วนใหญ่เกิดจากรายการพิเศษ หากไม่รวมรายการพิเศษไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 1,009 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 3,253 ล้านบาทใน 4Q14 จากการรับรู้ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันลดลงและค่าการกลั่นที่ดีขึ้น คงประมาณการปี 2015 ไว้เท่าเดิม แนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปีจะชะลอลงจากแนวโน้มค่าการกลั่นที่จะชะลอตัวจากแรงกดดันของโรงกลั่นใหม่เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในช่วง 2H15 ที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับลงมาจนต่ำกว่าราคาเป้าหมายปี 2015 ของเราที่ 4.64 บาท (อิง P/BV 1.2 เท่า) แต่ยังมี Upside ที่จะได้จากโครงการ Phoenix ในปีหน้า ดังนั้นจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ขาย เป็น ถือ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบต่อเนื่องแม้จะบวกได้ในช่วงเปิดตลาด จากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด รวมถึงตอบรับเชิงลบต่อถ้อยคำแถลงของประธาน FED
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกได้โดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯรวมถึงความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของออสเตรเลีย
ค่าเงินบาทเริ่มแกว่งตัวออกด้านข้างหลังอ่อนค่าแรงในช่วงก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.22-33.40 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 60.93 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกของปีนี้
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,190.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.90 เหรียญ/ออนซ์ หลังอัตราตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นซึ่งหักล้างปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 พ.ค. - ไทย: IPO บมจ. สาลี่ พริ้นท์ติ้ง (SLP)
- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
- มาเลเซีย: ประชุมธนาคารกลาง
- สหรัฐฯ: ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
8 พ.ค. - ไทย: IPO บมจ. ทีวีธันเดอร์ (TVT)
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (เม.ย.)
9 พ.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
11 พ.ค. - จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีก (มี.ค.)
- อังกฤษ: ประชุมธนาคารกลาง
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research