- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 30 April 2015 18:33
- Hits: 1197
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
หุ้นไทยมีลุ้นรีบาวด์รับลดดอกเบี้ย
วันนี้คาด ดีดตัวในกรอบขาลง แนวรับ 1,510 จุด แนวต้าน 1,533 จุด
กลยุทธ์ระยะสั้น คาดดัชนีฯมีโอกาสรีบาวด์ จากบริเวณ 1510 จุด ใครที่ขายไปตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ แนะ ซื้อเก็งกำไร (เล่นสั้น) แนวต้านเล่นรอบรอบนี้มองแค่แถว 1,540/1,550 จุด คงเน้นหุ้นกลาง-เล็ก และ หุ้นคาดรีบาวด์รับข่าวดอกเบี้ยลง ได้แก่ เช่าซื้อ-บ้าน (เราชอบ TISCO KKP TCAP LPN SPALI), หุ้น-กอง Infra-fund, prop-fund ที่มีปันผลสูง (JASIF), กลุ่มส่งออก (บาทอ่อน), หุ้นพลังงานทดแทน (IFEC) และหุ้นที่มีหนี้สูง (ช่วยประหยัดต้นทุนทางการเงิน)
เดือน พค. คาดผันผวนสูงต้นเดือน ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ วันที่ 11 พค. EU จะพิจารณาเงินกู้ 7 พันล้านยูโรให้แก่กรีซ ถ้าไม่ได้เงินกู้กรีซจะเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ 3.5 พันล้านในปลายเดือน กค. ซึ่งจะมีผลต่อการออกจาก EU
หุ้นแนะนำ HANA DELTA SMT รับข่าว วันนี้ รมว.คลังสมหมายเผยเตรียมออกมาตรการผ่อนคลายหนุนบาทอ่อนเพิ่ม พร้อมใช้ยาแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ มองดอกเบี้ยนโยบายที่ 1%, JAS (กำไรโต 1400%) JASIF (ประกาศปันผลระหว่างกาล 0.11 บาท ตามคาด สะท้อนมีโอกาสจ่ายปันผลทุกไตรมาส เราคาดช่วยสร้างเสถียรภาพราคาหน่วยฯ (ปันผล 0.11 บาทคำนวณจาก pro-rate 1.6 เดือน นับจากวันเข้าตลาด เราคาดทั้งปี 0.8 บาท ไตรมาสที่เหลือคาดจ่ายไตรมาสละ 0.2266 บาท/หน่วย คิดเป็นผลตอบแทนปันผล/ปี ที่ 9%))
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) SCC รายงานกำไร 1Q15 ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ดีกว่าคาด กำไรที่ดีขึ้นกว่าคาดเป็นผลจาก ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันลดลง และ เราปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 6% และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 590 บาท จาก 540 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ
(+) CBG คาดการกำไร 1Q15 ที่ 274 ล้านบาท +21% y-y และ +14% q-q หลังพบผู้บริหารเรามองว่ากำไรปีนี้ยังไม่มีแนวโน้มที่จะทำได้มากกว่าที่เราคาด และปัจจุบันราคาหุ้นได้ปรับสูงขึ้น จนเกือบเต็มมูลค่าเหมาะสมของเราที่ 43 บาท เราจึงปรับลดคำแนะนำ ลงเป็น ถือ จาก เดิม ซื้อ
(+) AAV คาดกำไร 1Q15 ที่ 525 ล้านบาท +278% y-y, 22% q-q คงคำแนะนำ ซื้อ ราคา TP 6.50 บาท
(0) THAI รายงานกำไร 1Q15 ที่ 1.24 หมื่นล้านบาท มาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 9.6 พันล้านบาท เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 15 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) HANA DELTA SMT รมว.คลัง สมหมาย เผยเตรียมออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า
(+) JAS รายงานกำไร 1Q15 1.28 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1400% y-y (มีกำไรพิเศษจากกำไรขายกอง JASIF) ขณะที่ลูกค้าอินเตอร์เน็ตโต 33% ฐานปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 1.75 ล้านราย
(+) กนง.ลดดอกบี้ยลง 0.25% เซอร์ไพร์ซตลาด เหลือ 1.50% ถ้าอิงจากมุมมอง รมว.คลัง ที่คาดแนวโน้มดอกเบี้ยเหมาะสมอยู่ที่ 1% ดอกเบี้ยมีโอกาสลงได้อีก 2 ครั้งในปีนี้ / เรามองเป็นบวกต่อหุ้น TISCO KKP TCAP และบ้านแนะ LPN SPALI
(+) JASIF ประกาศปันผล 0.11 บาท ตามคาด โดยเป็นการคิดจาก pro-rate 1.6 เดือน นับจากวันเข้าตลาด / เราคาดปันผลปีนี้ที่ 0.8 บาท และ คาดว่าการจ่ายปันผลครั้งนี้ สะท้อนโอกาส ที่กองฯจะจ่ายปันผลสม่ำเสมอปีละ 4 ครั้ง จากนโยบายไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) สศค. ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เหลือขยายตัว 3.7% มีช่วงคาดการณ์ที่ 3.2-4.2% จากคาดการณ์เดิมที่ประเมินว่าจะเติบโตราว 3.9% ส่วนคาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 1/15 คาด GDP ขยายตัว 3.2% แย่กว่าตลาดคาดที่ 3.7% (ขณะที่ สภาพัฒน์ คาด GDP 1Q15 อยู่ที่ 3%)
(*) หนี้กรีซ 11 พค. EU พิจารณาเงินกู้ 7 พันล้านยูโรให้แก่กรีซ, 12 พค. ต้องจ่ายหนี้ IMF 774 ล้านยูโร จากมูลหนี้ 977 ล้านยูโร, 5 มิย. จ่ายหนี้ IMF 310 ล้านยูโร, 16 มิย. หนี้ IMF 571 ล้านยูโร ครบกำหนด, 19 มิย. จ่ายดอกเบี้ย ECB 85 ล้านยูโร และ หนี้ IMF 348 ล้านยูโร, 13 กค. หนี้ IMF 465 ล้านยูโร, 19 กค. จ่ายดอกเบี้ยพันธบัตร 199 และ 104 ล้านยูโร, 20 กค. ครบกำหนดชำระเงินกู้ ECB ก้อนใหญ่ 3.5 พันล้านยูโร
(+) กนง.ลดดอกบี้ยลง 0.25% เซอร์ไพร์ซตลาด เหลือ 1.50% ถ้าอิงจากมุมมอง รมว.คลัง ที่คาดแนวโน้มดอกเบี้ยเหมาะสมอยู่ที่ 1% ดอกเบี้ยมีโอกาสลงได้อีก 2 ครั้งในปีนี้
(-/+) เมื่อวาน US GDP 1Q15 +0.2% ต่ำคาดที่ +1% จาก +2.2% q-q ar จาก US-GDP ที่ชะลอลง ถ้อยแถลงเฟดวานนี้ ยังคงส่งสัญญาณผ่อนคลาย
(+) พฤหัส US PCE index (มีค.) คาดทรงตัว 0.2% m-m ส่วน Core CPI คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.2% จาก 0.1% การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น
(+) ศุกร์ US ISM mfg (เมย.) คาด +52 จาก 51.5, จีน รายงาน PMI official (เมย.) คาด +50 จาก 50.1, เงินเฟ้อไทย เมย.คาด -0.9% จาก -0.6% y-y
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
หุ้น: AAV คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 6.50
เราคาด AAV จะรายงานกำไรสุทธิรายไตรมาสขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 525 ล้านบาทในไตรมาส 1/58 เพิ่มขึ้นถึง 278% YoY และ 22% QoQ และคาดกำไรหลักที่ 510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228% YoY และ 24% QoQ
กำไรหลักไตรมาส 2/58 ของ AAV คาดเติบโต YoY แต่คาดลดลง QoQ จากช่วงโลว์ซีซั่น
ความเสี่ยงต่อกำไรมีจำกัด โดยเรามองว่าเป้าจำนวนผู้โดยสารของบริษัทปี 2558 ที่ 14.5 ล้านคน (เติบโต 19% YoY) ยังคงเป็นไปได้
ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงในช่วงโลว์ซีซั่นจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสมหุ้นเนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรของบริษัทยังคงแข็งแกร่งด้วย CAGR 49% ในช่วงปี 2557-2559
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: THAI คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 15.00
เราคาด THAI จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ที่ 12,411 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1/57 และ 4/57 และคาดกำไรหลักที่ 2,812 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนหลักในไตรมาส 1/57 และ 4/57
เราคาดผลการดำเนินงานหลักไตรมาส 2/58 ขอ THAI จะปรับตัวดีขึ้น YoY (แต่จะยังคงขาดทุน) และจะพลิกเป็นขาดทุน QoQ จากช่วงโลว์ซีซั่น
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 ที่ปรับตัวดีขึ้นและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากส่งผลให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2558 ขึ้นเป็นกำไรสุทธิ 7,087 ล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิที่ 5.7 พันล้านบาท) และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 15 บาท (จาก 14 บาท) แต่ผลประกอบการปี 2558 ของบริษัทยังมีความเสี่ยงขาลงจากการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ (หากมีการขายเครื่องบิน)
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: PTT คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 420.00
เราคาด THAI จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ที่ 12,411 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1/57 และ 4/57 และคาดกำไรหลักที่ 2,812 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนหลักในไตรมาส 1/57 และ 4/57
เราคาดผลการดำเนินงานหลักไตรมาส 2/58 ขอ THAI จะปรับตัวดีขึ้น YoY (แต่จะยังคงขาดทุน) และจะพลิกเป็นขาดทุน QoQ จากช่วงโลว์ซีซั่น
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 ที่ปรับตัวดีขึ้นและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากส่งผลให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2558 ขึ้นเป็นกำไรสุทธิ 7,087 ล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิที่ 5.7 พันล้านบาท) และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 15 บาท (จาก 14 บาท) แต่ผลประกอบการปี 2558 ของบริษัทยังมีความเสี่ยงขาลงจากการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ (หากมีการขายเครื่องบิน)
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: CBG คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 43.00
เรายังคงเป้ายอดขายไตรมาส 1/58 ที่ 1,987 ล้านบาทและกำไรสุทธิหลังหักภาษีที่ 273 ล้านบาท บ่งชี้ว่ารายได้เติบโต 4% QoQ และ 13% QoQ ตามลำดับ
เราได้รวมค่าใช้จ่ายจากการใช้หน่วยรถกระจายสินค้าและการประหยัดต้นทุนผลิตขวดเข้าในประมาณการไปแล้ว ส่งผลให้เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจในประเทศที่ 35% จะสูงกว่าอัตรากำไรในต่างประเทศที่ 34%
เรายังคงคาดการณ์อัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมของกำไรต่อปีระหว่างปี 2558-2559 ที่ 32% หรือ 1,268 ล้านบาทและ 1,529 ล้านบาทตามลำดับ
เรายังไม่ได้รวมรายได้ของผลิตภัณฑ์อัดก๊าซใหม่ที่ทางบริษัทจะออกในปลายเดือนนี้เข้าในประมาณการกำไรของเรา ถือว่ายังเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการของปี 2558 อย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันได้เข้าใกล้ราคาเป้าหมายของเราอ้างอิงจาก PEG 1.0 เท่า อีกทั้งเรายังมองไม่เห็นแนวโน้มอัพไซด์ต่อประมาณการ เราจึงปรับลดคำแนะนำจาก ซื้อ เป็น ถือ
นักวิเคราะห์: ธนัทเทพ จันทรกานต์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: จิรเมธ รตะพิพัฒน์
หุ้น: JASIF คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 11.80
JASIF รายงานกำไรสุทธิที่ 606 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 93.5% และประกาศเงินปันผลต่อหน่วยที่ 0.11 บาทหรือคิดเป็นอัตรา 100% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของเรา
รายได้ค่าเช่าสุทธิโดดเด่นที่ 622 ล้านบาทหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นถึง 95.9%
เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 ที่ 1.05 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% QoQ
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ขึ้น 0.2% เป็น 3.97 พันล้านบาทด้วยราคาเป้าหมายคงเดิม
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ หนุนจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลต่อปีที่ 9.7% ในปี 2558
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: SCC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 590.00
SCC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ที่ 11 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 25% QoQ
กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีรายงานกำไรสุทธิเติบโตถึง 99% YoY เป็น 4.9 พันล้านบาท และคาดจะแข็งแกร่งขึ้นอีกในไตรมาส 2/58
อุปสงค์ซีเมนต์ไตรมาส 1/58 อ่อนตัวแต่กำลังเริ่มฟื้นตัว
ธุรกิจกระดาษคาดยังอ่อนตัวในระยะสั้น
เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2558 ขึ้น 6% และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 590 บาทจากผลประกอบการไตรมาส 1/58 ที่ดีกว่าคาดและแนวโน้มธุรกิจปิโรเคมีที่สดใส
นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 30 เม.ย. 2558
เอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยอาศัยข้อมูลที่ได้รับพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าว บทวิเคราะห์ หรือความเห็นที่แสดงไว้ในเอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการชี้ชวน หรือเสนอแนะในการซื้อขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด ดังนั้นการนำไปใช้ให้ถือว่าเป็นผลจากการยอมรับความเสี่ยงและดุลยพินิจของท่านเป็นสำคัญ
