WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขายทำกำไร/รอดู
  SET เมื่อวันศุกร์แกว่งตัวในกรอบทางลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ของการพักฐาน SET ปิดที่ 1456.02 จุด (-1.0 จุด, -0.07%) โดยมีปัจจัยลบด้านวิกฤตหนักการก่อการร้ายยึดเมืองในอิรัค ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกดีดตัวขึ้น (เบรนท์เมื่อวันศุกร์ที่ US$ 112.74) และตลาดหุ้นในยุโรปปรับตัวลง ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศเชิงจิตวิทยาคือ คสช.อาจประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวทุกจังหวัด และค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 32.36 บาท/US$ มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 52,687 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเล็กน้อย 153 ล้านบาท เช่นเดียวกับกองทุนในประเทศขายสุทธิ 148 ล้านบาท

 

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  สถานการณ์ในอิรัครุนแรงขึ้นจนเกิดอาจมีผล กระทบต่อแผนเพิ่มการผลิตน้ำมันในอิรัค ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันได้ 3.3 ล้านบาร์เรลต่อวันและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มโอเปกรองจากซาอุดิอาระเบีย กลุ่มหัวรุนแรงได้บุกเข้ายึดครองเมืองเคอร์คุค ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำมันทางตอนเหนือของอิรัก และได้ขัดขวางงานซ่อมท่อส่งน้ำมันหลักจากแหล่งน้ำมันในเมืองเคอร์คุคไปยังประเทศตุรกี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน ดิบของตุรกีด้วย
  ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายผ่อนคลายด้านการเงินต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวในระดับปานกลางแม้ว่าจะมีผลการขึ้น VAT เดือนเม.ย. และยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อให้อยู่ที่ 2% ในปี 58 พร้อมกับการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ซึ่งเกี่ยวพันกับการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินจากธนาคารต่างๆ รวมทั้งเพิ่มเงินทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
  แผนการทำงานของ คสช.จากนี้มี 3 ขั้นตอน คือเดือน มิ.ย.-ส.ค. จะต้องทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ทั้งร่างธรรมนูญการปกครองชั่วคราว การตั้ง สนช. และ ตั้งนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีและบริหารราชการ คาดว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ปลายเดือนส.ค.-ต้นเดือนก.ย.และต้องเผื่อเวลา 15 วันเพื่อทูลเกล้าฯและหลังจากมีรัฐบาลแล้วก็จะเดินหน้าในการทำงาน และตั้งสภาปฏิรูป โดยจะนำทุกภาคส่วนโดยเฉพาะคู่ขัดแย้ไปรวมกันและคัดกันออกมาเป็นสภาปฏิรูป

  ผลกระทบอิรัคเกิดมีผลต่อทุนเคลื่อนย้ายจากตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐเข้าสู่ราคาน้ำมันและทองคำและรวมถึงตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่สลับปรับตัวลงเช้านี้ วันนี้เข้าสู่ช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของการปิดสิ้นงวดครึ่งปีและไตรมาส 2 ขณะที่ปัจจัยภายในเริ่มนิ่ง เรายังคงมองว่า SET เข้าสู่ระยะปรับฐาน การปรับขึ้นหรือลดลงของตลาดในระยะสั้นจะไม่สามารถบอกแนวโน้มใหม่ที่ชัดเจนได้ เราแนะนำขายทำกำไรระยะสั้น หรือรอดูเพื่อประเมินแนวโน้มตลาดอีกครั้ง

 

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตถือครองเหลือ 70%

  ลดการถือครองหุ้นลงเหลือ 70% ถือสด 30%

  Trading : เลือกซื้อเก็งกำไรเหนือ 1460 จุด ต่ำกว่า รอดูการปรับฐาน

  เปรียบเทียบดัชนีกับ SET

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +7.8%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทน SET = +7.6%
พอร์ตจำลองสุทธิ > SET

  หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!