- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 April 2015 17:23
- Hits: 1020
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights SET Index : แนวรับ 1540 แนวต้าน 1554
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1548.83 จุด ลดลง 6.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,218 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวลดลงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคารหลุดแนวรับสำคัญที่ 1550 จุด ในขณะที่มูลค่าไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวลดลงน่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัด
Daily: ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงจากหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงนำโดย KTB KBANK และ TMB แต่มูลค่าการซื้อขายในภาพรวมไม่สูงมาก จึงทำให้แนวโน้มของ SET Index ในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลง แต่เราคาดว่า น่าจะอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1536-1540 จุด เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ และมีแนวต้านที่ 1550-1554 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1570-1575 จุด
กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1553 จุด จึงทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1536-1540 จุด เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ และมีแนวต้านที่ 1550-1553 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1570-1575 จุด
Asia Fund Flow : 27 เมษายน 2558
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 24 ล้านเหรียญ (28 เม.ย.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 742 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 173 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 18 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 50 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
KTB แนวรับสำคัญ 20.00-20.10 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 19.30 20.00 / 19.80 20.40 / 20.60
KBANK สัญญาณขายต่อเนื่อง แนวโน้มลงทดสอบ 210 214 / 212 217 / 220
PTT สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 365 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 380 360 / 358 364 / 365
SCB สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 160 แนวต้าน 168 และ 170 164 / 162 167 / 168
DTAC สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 90.00 และ 92.00 86.50 / 86.00 88.00 / 89.00
SCN เคลื่อนไหวในกรอบ 13.20-13.60 หลังทดสอบ 14.00 13.20 / 13.00 13.50 / 13.60
ADVANC แนวรับ 240 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 236 เป็นจังหวะซื้อ 240 / 238 242 / 244
TRUE เคลื่อนไหวในกรอบ 12.60-13.00 12.60 / 12.50 12.80 / 13.00
TPIPL แนวต้าน 3.00-3.04 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะเป็นสัญญาณซื้อ แนวต้ถานดัไป 3.20 2.98 / 2.94 3.00 / 3.04
TMB สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 2.60 และ 2.54 2.64 / 2.60 2.70 / 2.74
The Siam Cement (SCC TB; THB 548.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 560 และ 574
แนวรับ : 548 และ 544
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SCC โดยมีแนวรับที่ 548 และ 544 และมีแนวต้านที่ 560 และ 574 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 536 ลงไป
Vibhavadi Medical Center (VIBHA TB; THB 16.10) - ซื้อ
แนวต้าน : 17.00 และ 17.50
แนวรับ : 16.00 และ 15.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ VIBHA โดยมีแนวรับที่ 16.00 และ 15.80 และมีแนวต้านที่ 17.00 และ 17.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 15.60 ลงไป
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...แกว่งกรอบแคบ
สถานการณ์ตลาดหุ้นในต่างประเทศเปิดขึ้นมาช่วงต้นสัปดาห์ ยังไม่มีปัจจัยหนุนทั้งเชิงบวกและลบ จะมีก็แค่การประกาศงบ Q1 ซึ่งตลาดหุ้นในสหรัฐยังตอบสนองในกรอบที่แคบมากๆ โดยดัชนีดาวโจนส์ยังแกว่งในกรอบ 18,000+/- จุด ส่วนในยุโรปแม้จะยังสามารถขึ้นต่อได้แต่ก็ไม่มาก ส่วนตลาดหุ้นเอเชียยังคงใช้ปัจจัยหนุนภายในของแต่ละประเทศในการเทรดหุ้น ปัจจัยที่ตลาดจับตามองนอกจากตัวเลขเศรษฐกิจ ก็คือ ปัญหาในกรีซ ซึ่งเหมือนตลาดค่อยๆซึมทราบข่าวไปมากแล้ว
ผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐที่ค่อยๆ ทยอยประกาศ ตลาดเริ่มซึมทราบทั้งแดนบวกและลบ ซึ่งประเมินแล้วการตอบสนองของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐต่องบ Q1/15 ยังคงไม่มีอะไรที่น่ากังวล ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยยังคงต้องติดตามดูตัวเลขเศรษฐกิจต่อไปอีกระยะ โดยโพลส์สำรวจของแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยยังคงอยู่ในเดือน ก.ย. ถึงปลายปี ดังนั้นหากจะมีการปรับฐานย่อยๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐ โอกาสที่จะเกิดมากสุดตอนนี้อยู่ที่เดือน พ.ค. ทั้งเป็นผลทางฤดูกาลและจากงบ Q1/15
แม้ตลาดหุ้นไทยจะขึ้นไปเทรดที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้า สูงสุดในรอบ 10 ปี ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถขึ้นไปได้มากกว่านี้ หากกำไรของตลาดเริ่มขยายตัวมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณดังกล่าว เรามองว่าการที่ Earning revision ratio เริ่มผงกหัวขึ้น ถือเป็นสัญญาณในเชิงบวก แต่ต้องเพิ่มสูงมากกว่านี้ ส่งผลให้เรามองว่ากรอบในการขึ้นของดัชนี SET ในช่วงเดือน พ.ค.ยังมีจำกัด จนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ปัจจัยในสัปดาห์นี้ที่ตลาดให้ความสนใจ คือการประชุม FOMC ในวันนี้และพรุ่งนี้และการประกาศตัวเลขการส่งออก-นำเข้าประจำเดือน มี.ค. ของไทยซึ่งตลาดคาดว่าการส่งออกจะติดลบ 3.45% เทียบเดือนที่ผ่านมาติดลบ 6.15% ส่วนในวันที่ 29 เม.ย. จะเป็นการประชุม กนง. ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ย แต่ยังเปิดโอกาสในการลดดอกเบี้ยได้ ส่วนประเด็นการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ยังต้องติดตามดูว่าสุดท้ายจะมีการผ่านร่างหรือไม่ ซึ่งดูๆ แล้วตลาดยังให้ความสำคัญไม่มาก
ทิศทางดัชนีในวันนี้ คาดจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังคงรอผลการประชุม FOMC ขณะที่ราคาน้ำมันยังแกว่งในกรอบแคบ ส่วนการประกาศตัวเลขการส่งออก คาดจะไม่ส่งผลต่อดัชนีมากนักเนื่องจากคาดกันว่าจะยังออกมาไม่ดี โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1555-1560 ส่วนแนวรับที่ 1544-1540 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ BCP เนื่องจากยังขึ้นได้น้อยในบรรดาโรงกลั่น นับตั้งแต่ราคาน้ำมันถึงจุดต่ำสุดในวันที่ 13 ม.ค. (45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์) แล้วดีดตัวขึ้นถึงปัจจุบัน (ดูรูปด้านขวา)
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ปัจจัยในสัปดาห์นี้ที่ตลาดให้ความสนใจ คือการประชุม FOMC ในวันนี้และพรุ่งนี้และการประกาศตัวเลขการส่งออก-นำเข้าประจำเดือน มี.ค. ของไทยซึ่งตลาดคาดว่าการส่งออกจะติดลบ 3.45% เทียบเดือนที่ผ่านมาติดลบ 6.15% ส่วนในวันที่ 29 เม.ย. จะเป็นการประชุม กนง. ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ย แต่ยังเปิดโอกาสในการลดดอกเบี้ยได้ ส่วนประเด็นการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ยังต้องติดตามดูว่าสุดท้ายจะมีการผ่านร่างหรือไม่ ซึ่งดูๆ แล้วตลาดยังให้ความสำคัญไม่มาก ทิศทางดัชนีในวันนี้ คาดจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังคงรอผลการประชุม FOMC ขณะที่ราคาน้ำมันยังแกว่งในกรอบแคบ ส่วนการประกาศตัวเลขการส่งออก คาดจะไม่ส่งผลต่อดัชนีมากนักเนื่องจากคาดกันว่าจะยังออกมาไม่ดี โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1555-1560 ส่วนแนวรับที่ 1544-1540 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ BCP เนื่องจากยังขึ้นได้น้อยในบรรดาโรงกลั่น นับตั้งแต่ราคาน้ำมันถึงจุดต่ำสุด 45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ แล้วดีดตัวขึ้นถึงปัจจุบัน
Themes play :
SAT : เราแนะนำ ซื้อ SAT โดยมีราคาเป้าหมาย 20.50 บาท โดยคาดว่าผลกำไรของบริษัทจะฟื้นตัวในปี FY15 ด้วยแรงหนุนจาก 1) ปริมาณการผลิตรถยนต์ที่คาดจะเพิ่มขึ้น 12% yoy, 2) การผลิตของ Kubota และ 3) ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่เพิ่ม โดยเราคาดว่า SAT จะมีกำไรแข็งแกร่งใน 1Q15 เพราะมียอด backlog สูง อีกทั้งยอดขายและการผลิตของลูกค้ารายใหญ่มีแนวโน้มเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ผลกำไรอาจลดลง yoy ใน 2Q15 เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว ประกอบกับเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านจากรถกระบะ Toyota รุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ แต่เชื่อว่าอัตราการเติบโตจะฟื้นตัวใน 2H15 สำหรับมาร์จิน เราประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าบริษัทเล็กน้อยเนื่องจากมองว่าวิธีการใหม่ในการรีไซเคิลเศษเหล็กจะยังไม่สามารถชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากสายการผลิตใหม่
ประเด็นในสัปดาห์
28 เม.ย. : ไทยประกาศตัวเลข Customs Exports เดือนมี.ค. โดยตลาดคาด -3.45% จากเดือนก่อนหน้าที่ -6.14%
29 เม.ย. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อกำหนดนโยบายการเงิน โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75%
29 เม.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข GDP Annualized QoQ ไตรมาสแรก โดยตลาดคาด +1.0% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ +2.2%
29 เม.ย. : การประชุมเฟดเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยตลาดคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25%
29 เม.ย. : คาด SCC SCCC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 30 เม.ย. : คาด BIGC GLOW PTTEP ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58
Stock Symbol Change :
24 เม.ย. : U (ชื่อย่อเดิม NPARK)
24 เม.ย. : NEWS (ชื่อย่อเดิม SLC)
20 เม.ย. : COL (ชื่อย่อเดิม OFM)
Fundamental Stock :
BANKS : Sector Note - ระวังหนทางที่ขรุขระ (แนะนำ : ขาย Top pick : KBANK)
Technical Pick :
SET Index : แนวรับ 1540 แนวต้าน 1560
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1540 และแนวต้าน 1560 จุด
The Siam Cement (SCC TB; THB 548.00) - ซื้อ
Vibhavadi Medical Center (VIBHA TB; THB 16.10) - ซื้อ
Retail Research Team
