- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 April 2015 17:16
- Hits: 995
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX แกว่งแคบในช่วงเปิดตลาด 1,555 จุด +/- แต่เมื่อ JSE ปรับฐานลงแรงกว่า 3.0% ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ตลาดหุ้น PSE แกว่งออกด้านข้าง ทำให้บรรยากาศการลงทุนใน TIP เป็นไปอย่างเปราะบาง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ปรับฐานลง 6.63 จุด มาอยู่ที่ 1,548.83 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 39,218 ล้านบาท
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,635 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 3,902 สัญญา เมื่อ S50M15 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index อีกครั้ง 1.65 จุด ซึ่งมีเหตุผลที่สนับสนุนการกลับมาทยอยปิดสถานะ Long ของนักลงทุนกลุ่มนี้ และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยอีกครั้ง 1,496 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว เพื่อรอดูผลการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus และ MBKET คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.75% แต่อาจมิใช่เสียงเอกฉันต์
เกิดการโยกเงินจากตลาดหุ้นกลุ่ม TIP ไปยังเอเชียเหนือ อย่างไต้หวันและเกาหลีใต้ ซึ่งได้ประโยชน์จากภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีที่สหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด
เงินทุนทั่วโลกเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างประเภทของสินทรัพย์ ระหว่างตลาดหุ้น / สินค้าโภคภัณฑ์ / ตลาดตราสารหนี้ เพื่อรอดูผลการประชุม เฟดในคืนวันที่ 29 เม.ย.
ติดตามการประชุม ครม.วันนี้ อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการรถไฟฟ้า 3 สาย
วันนี้ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.ของไทย Bloomberg consensus คาด -3.50% yoy ส่วนการนำเข้า คาด +0.25% yoy ทำให้ดุลการค้าคาดว่าเกินดุล US$518 ล้าน
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 24 แม้ว่า SET INDEX วานนี้จะเปิดหลุดแนว 1,550 จุด แต่หากประเมินจากบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชีย / การเคลื่อนย้ายของเงินทุนระหว่างประเภทของสิน ทรัพย์ สะท้อนการขาดปัจจัยบวก หรือ ลบ ใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางการลงทุน อีกทั้งนักลงทุนทั่วโลก อาจระมัดระวังต่อการลงทุนในเดือนพ.ค. เพราะตามสถิติบ่อยครั้งจะเกิดลักษณะ "Sell in May and Go Away"
แต่ในมุมมองของเรา SET INDEX ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ มีแนวโน้มแกว่งในกรอบแคบ หุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq จะทรงตัวได้แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับภาพรวม แน่นอนว่ากลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี / ICT จะช่วยจำกัด Downside risk ของ SET INDEX ในช่วงนี้ ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับฐานลงกว่า 5.0% wow ในสัปดาห์ที่แล้ว เราเชื่อว่าจะเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้น น่าจะทำให้ภาพการลงทุนในช่วงสั้นจากนี้ไป จะเป็นตลาดของการ "เทรดดิ้ง" ระหว่างกรอบ 1,540-1,580 จุด แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะเบาบางตลอด 2 สัปดาห์นี้ก็ตาม
ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในสัปดาห์นี้ เราให้น้ำหนักกับมุมมองของเฟดต่อภาพรวมเศรษฐกิจ การจ้างงาน และตลาดบ้านในสหรัฐฯ รวมถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ณ ปัจจุบัน เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการประเมินช่วงเวลาที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แน่นอนว่าการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย.นี้จะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ย และตลาดคาดว่าเฟดจะเริ่มขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. จะมีน้ำหนักมากขึ้นหรือไม่ ก็จะขึ้นอยู่กับความเห็นของเฟดในการประชุมนัดนี้เช่นกัน
ตลาด Nikkei - Kospi (7.27 น.) เปิดบวก โดยเฉพาะ Nikkei ที่บวก 0.62% แม้ว่า Fitch rating จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงเหลือ A ก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายบางส่วนเพิ่มเติม" เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุด +/-
Portfolio
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI
Speculative Buy: THAI/ VTE
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. THAI : ราคาปิด 13.00 บาท ราคาเหมาะสม อิงเทคนิคที่ 15.00 บาท
a) MBKET คาดว่าผลประกอบการ 1Q58 มีโอกาสเป็น Positive Surprise และเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น THAI ที่ Underperform ตลาดค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา โดย YTD หุ้น THAI -10.9% เทียบกับ AAV +11.2%, BA +0.51% และ SET INDEX +3.4%
b) ประเมินเบื้องต้น คาดว่าผลประกอบการปกติ 1Q58 จะพลิกกลับเป็นบวกราว 1.5 - 2 พันล้านบาท จากแรงหนุนของ High Season ธุรกิจท่องเที่ยว และเป็นไตรมาสแรกที่ได้อานิสงค์บวกจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ qoq
c) นอกจากนั้น THAI มีหนี้สินในสกุลเงินยูโรค่อนข้างมาก จึงคาดว่าจะมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และส่งผลให้ผลประกอบการ 1Q58 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิสูงกว่า 5 พันล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นสูงกว่า 2.29 บาท
d) Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 18.88 บาทค่อนข้างมาก หรือเทียบเท่าเพียง 0.7 เท่า ซึ่ง BV จะเพิ่มขึ้นอีกหลังรายงานงบ 1Q58 และมี Discount จาก PBV ของหุ้นกลุ่มสายการบิน ได้แก่ AAV ที่ 1.2 เท่า, NOK 1.7 เท่า และ BA ที่ 1.6 เท่า
2. VTE : ราคาปิด 3.92 บาท ราคาเหมาะสม 5.00 บาท
a) MBKET เริ่มต้นคำแนะนำหุ้น VTE ด้วย "ซื้อ" เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการปี 2558 จะ Turnaround จากธุรกิจถ่านหินที่เริ่มสร้างรายได้เต็มปีเป็นปีแรก และมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำเนื่องจากมีสัญญาขายแบบกำหนดมาร์จิ้นที่ US$3 / ตัน ซึ่งเพียงพอที่จะผลักดันให้ VTE กลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
b) ผันตัวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทางเลือก โดยเข้าซื้อหุ้น 12% ใน Green Earth Power (GEP) ซึ่งเป็นเจ้าของ Solar Farm แห่งแรกในพม่าขนาด 220MW และเชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัทเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานทางเลือกมากขึ้นและเป็นปัจจัยผลักดันกำไรในระยะยาว
c) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดย DE จะลดลงเหลือเพียง 0.37 เท่า หลังเสร็จสิ้นการเพิ่มทุน ดังนั้น บริษัทจึงมีความพร้อมเต็มที่ของฐานทุน หากมีโอกาสลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจพลังงานทางเลือกในภูมิภาคเพิ่มเติมในอนาคต
d) คาดพลิกเป็นกำไร 86 ล้านบาท ในปี 2558 และเติบโต +72.8% yoy เป็น 170 ล้านบาท ในปี 2559
e) จะขึ้น XR ในวันพรุ่งนี้ สัดส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 2.05 บาท จึงเชื่อว่าเป็นโอกาสซื้อเพื่อใช้สิทธิเพิ่มทุน
Fund Flow Analysis
und Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิอีก US$704 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง US$2.09 พันล้าน
เป็นที่น่าสนใจว่า Regional Rotation ระหว่าง North Asia และ TIP
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติกลับมาขายทำกำไรตลาดหุ้นไทย และพักเงินในตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,635 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิ 902 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิอีกครั้ง 3,902 สัญญา เทียบกับวันก่อนหน้า Long สุทธิ 1,395 สัญญา 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 6,061 สัญญา และ 11 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิมากถึง 57,734 สัญญา น่าจะเป็นการกลับมาทยอยปิดสถานะ Long สุทธิอีกครั้ง และ YTD เป็น Long สุทธิลดลงเหลือ 26,531 สัญญา หากพิจารณาถึง S50M15 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index อีกครั้ง 1.65 จุด จากวันก่อนหน้าที่ Discount เท่ากับ 0.81 จุด ย่อมสมเหตุสมผลของการกลับมาทยอยปิดสถานะ Long ของนักลงทุนต่างชาติวานนี้
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 1,496 ล้านบาท เมื่อ ราคาพันธบัตรไทยกลับมาลดลงเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นถึง 1.49bps ปิดที่ 2.559%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 631 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 492 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 14 แม้ว่าจะขายสุทธิกลุ่มธนาคารหนาแน่นก็ตาม
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 784 ล้านบาท ขยับขึ้นจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 393 ล้านบาท รวม 14 วันทำการซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 24,838 ล้านบาท โดย NVDR เน้นสะสมกลุ่ม ICT/ พลังงาน อย่างหนาแน่น ขณะที่กลุ่มธนาคาร ยังคงถูกลดน้ำหนักการลงทุน เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนช่วงสั้น สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 670 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 89 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพังงาน ซื้อสุทธิ 436 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 292 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 406 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 94 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 116 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 644 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 390 ล้านบาท และตามมาด้วยกลุ่มอาหาร ขายสุทธิ 74 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
ดัชนี Flash PMI ภาคบริการเดือนเม.ย. เท่ากับ 57.8 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 59.5 จุดและเดือนก่อนหน้าที่ 58.6 จุด เนื่องจากภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า อย่างไรก็ตามภาพรวมของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน ยังคงแข็งแกร่ง
ดัชนี Dallas Fed Survey ภาคการผลิต เดือนเม.ย. เท่ากับ -16.0 จุด ออกมาแย่กว่า Bloomberg consensus คาด -12.0 จุด แต่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -17.4 จุด เนื่องจากภาคการส่งออกที่ชะลอตัว และ อุตฯ น้ำมันและก๊าซที่อ่อนแอ
ยุโรป
สถานะการของกรีซ ณ ปัจจุบัน
โพลล์ การสำรวจประชาชนกรีซ ช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. หลัง กรีซ ไม่สามารถสรุปแนวทางการปฎิรูปเศรษฐกิจกับทาง อียูได้ พบว่า ผลการสำรวจ 2 แห่งออกมาเหมือนกันคือ คนที่ให้ความเห็นต้องการให้ รัฐบาลกรีซ ลดการท้าทาย และกลับไปประนีประนอมกับ อียู เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน สะท้อนได้ว่า ประชาชนกรีซ ต้องการที่จะเป็นสมาชิกในสหภาพยูโรต่อไป และประชาชน รับและเข้าใจถึง เงื่อนไขการปฎิรูปเศรษฐกิจที่มีความเข้มงวดของอียู
เยอรมัน ต้องการให้กรีซ หาแนวทางให้ชัดเจน เพราะหากกรีซผิดนัดชำระหนี้ จะกลายเป็นความล้มเหลวของอียุ และนายกฯ เยอรมัน - กรีซ ที่ต้องรับผิดชอบ นายกฯ เยอรมัน ต้องการและยินดีที่จะหาแนวทางร่วมกับกรีซ
กรีซมีหนี้ครบกำหนดชำระให้แก่ IMF อีก 200 ล้านยูโร วันที่ 6 พ.ค.
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
Fitch ลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น: อันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของญี่ปุ่นลดลง 1 ขั้น เป็น A พร้อมคงแนวโน้ม "คงที่" เนื่องจากรัฐบาลมีความพยายามไม่มากพอในการปฎิรูปโครงสร้างนโยบายการคลัง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะเริ่มในเดือนเม.ย. และนำไปชดเชยกับการเลื่อนขึ้นภาษี VAT ออกไปในปีนี้
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530