- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 April 2015 15:31
- Hits: 1436
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ถูกกดดันจากความกังวลต่อผลประกอบการ
SET View
แนวโน้มวันนี้มอง Sideway กรอบ 1,540 – 1,565 จุด
แนวโน้ม SET วันนี้มีโอกาส Sideway ผันผวน เรามองว่าประเด็นกดดันหลักจะเป็นการประกาศผลประกอบการ 1Q58 ซึ่งตลาดไม่เพียงแต่ผิดหวังกับผลประกอบการกลุ่มธนาคารทำให้มีแรงขายจากทั้งกลุ่มสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ ทำให้ดัชนีของกลุ่มธนาคารปรับตัวลง 4% หลังจากประกาศงบออกมา นอกจากนี้เรายังมองว่ามีโอกาสที่จะเห็นผลประกอบการกลุ่ม Non-bank ที่จะประกาศหลังจากนี้จะออกมาไม่สดใสด้วยเช่นกัน โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวช้า ล่าสุดฝ่ายวิจัยภัทรได้ปรับลดคาดการณ์ GDP growth ปี 58 ลงเหลือ 3.3% จาก 3.7% จากการส่งออก การบริโภค และการลงทุนภาครัฐที่ทำได้แย่กว่าคาด ดังนั้นจึงต้องจับตาผลการประชุม กนง. วันที่ 29 เม.ย.นี้ โดยอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะ 10 ปีล่าสุดก็ปรับลงแรงต่อเนื่องจากวันก่อนและทำจุดต่ำสุดในประวัติการเหลือ 2.5% เรามองสะท้อนความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ย
สำหรับการประกาศตัวเลขสหรัฐเมื่อคืนนี้ บ่งชี้ถึงสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจตามคาด หนุนน้ำหนักที่ FOMC จะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ย ถือเป็นปัจจัยบวกอ่อนๆต่อตลาดหุ้นไทย ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐรับข่าวดังกล่าว กลับดีดตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิม แล้วยังมีปัจจัยการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบอีกราว 4%
ในทางเทคนิค สัญญาณบอกแนวโน้มไม่ค่อยดีนัก โดย SET เมื่อวานนี้ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (10วัน ที่ 1555 จุด) ระยะยาว (200 วัน ที่ 1550 จุด) พร้อมกันชี้แนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับต่อไปบริเวณ Gap ที่ 1540 จุด
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำชะลอการลงทุนถือเงินสด หรือเลือก Selective Buy ในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว เราคาดว่า SET 0tแกว่งผันผวนในช่วง Earnings Season โดยหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี และกำไร 1Q58 มีแนวโน้มเติบโต ราคาหุ้นยังพอประคองตัวได้ (เช่น กลุ่มอาหาร ค้าปลีกและกลุ่มพลังงานบางตัว) สวนการกับการปรับตัวลงของตลาดซึ่งนำโดยหุ้นที่กำไรมีทิศทางอ่อนแอ
Top Daily Pick : PTTEP (มูลค่าเหมาะสม 132 บาท) เห็นสัญญาณฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ คาด 1Q58 พลิกกลับมาเป็นกำไรและไม่ต้องรับรู้ผลด้อยค่าสินทรัพย์แบบใน 4Q57 อีกแล้ว / WORK (มูลค่าเหมาะสม 47 บาท) เราคาดว่าบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 57 ในระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากผลประกอบการ 1Q58 จะพลิกจากที่ขาดทุนมามีกำไรราว 20 ล้านบาท
Technical Pick : CPALL SMT NUSA AJP PCA (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Play : หุ้นเด่นน่าลงทุนเดือน เม.ย. (PTTGC BANPU BCP WORK) / กลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ (RS WORK MONO) ปัจจัยบวกจากที่ กสทช. ให้เลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลช่องดิจิทัลงวดที่ 2 ที่จะครบกำหนดจ่ายในวันที่ 24 พ.ค. นี้ ออกไปอีก 1 ปี / กลุ่มโรงแรม (MINT ERW) การท่องเที่ยวในไตรมาสแรกฟื้นตัวสูง 23% YoY
Strategy Talk
กลุ่มมือถือ...แนวโน้มกำไรคนละทาง
ในระยะ 1-2 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่ม Mobile Operator เคลื่อนไหว Underperform เมื่อเทียบกับ SET เล็กน้อย แม้ว่าจะมีการประกาศข่าวดีจากที่นายกรัฐมนตรีจะเร่งให้มีการประมูลใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการ 4G ได้ภายในเดือน ส.ค. แต่ไม่สามารถหนุนราคาหุ้นได้มากนัก เราคาดว่าปัจจัยกดดันราคาหุ้นทั้ง 2 ตัวในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเป็นเรื่องผลประกอบการ 1Q58
• ADVANC (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 309 บาท) เราคาดจะมีกำไรสุทธิ 1Q58 ราว 9.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 8% QoQ โดยรายได้การให้บริการทรงตัวที่ 3.2 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายมือถือทำสถิติสูงสุดที่ 8.8 พันล้านบาทจากความสำเร็จของ House Brand (LAVA) ที่ได้รับความนิยมมาก ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นเหลือ 42% เนื่องจากต้นทุนค่าใช้คลื่นเพิ่มขึ้นหลังปรับส่วนลดที่ได้รับจากปริมาณการโรมมิ่ง ส่วนต้นทุนบริการเพิ่มขึ้นยัง 3% QoQ ตามการขยายโครงข่ายเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าจะสามารถชดเชยได้ด้วยดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง 9% QoQ เพราะใช้งบการตลาดน้อยกว่าในช่วงส่งท้ายปี (ADVANC จะประกาศผลประกอบการ 1Q58 ในวันที่ 8 พ.ค.)
• DTAC (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 99 บาท) เราคาดกำไรสุทธิใน 1Q58 ราว 1.7 พันล้านบาท ลดลง 48% YoY และ 9% QoQ แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริการจะลดลงมากจาก 4Q57 ที่ใช้งบการตลาดสูงกว่าปกติ รวมทั้งจ่ายโบนัสพนักงาน แต่ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ช่วยผลประกอบการของบริษัทมากนัก เนื่องจากรายได้หดตัว 8% QoQ เพราะการขายเครื่องมือถือลดลงมาก ส่วนในด้านอัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 24.8% จากการขยายโครงข่าย 3G เพิ่มอีก 4.5 พันเสา บวกกับผลขาดทุนจากการแจกมือถือในบางพื้นที่เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า 3G นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นจากการกู้ยืมเพื่อขยายโครงข่าย 3G (DTAC จะประกาศผลประกอบการ 1Q58 วันนี้)
• TRUE (ทบทวนมูลค่าเหมาะสม) เบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q58 จะหดตัว QoQ จากการที่มียอดบันทึกการโอนเสาให้ TRUEIF น้อยแค่ราว 1 ใน 4 จาก 4Q57 (DTAC จะประกาศผลประกอบการ 1Q58 ในวันที่ 13 พ.ค.)
ในเชิงกลยุทธ์ เปรียบเทียบในมุมต่างๆ ADVANC ยังคงน่านใจที่สุดโดยเฉพาะในช่วงประกาศงบนี้
• Earnings momentum – แม้ไม่โดดเด่นแต่ถือว่ากำไร ADVANC มีแนวโน้มเติบโตเป็นรายเดียวในอุตสาหกรรมใน 1Q58
• Dividend yield – เป็นจุดเด่นของ DTAC จะจ่ายปันผลในอัตราสูงกว่า 100% ของกำไรสุทธิ โดยคาดว่าเงินปันผลสำหรับ 1Q58 ในอัตราหุ้นละ 1.10 บาท (Dividend Yield 1.3%)
• Valuation – DTAC ซื้อขายที่ P/E 18.4 เท่า ถือว่าแพงเมื่อเทียบกับ ADVANC ที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีกว่าแต่ยังซื้อขายด้วย P/E ต่ำกว่าที่ 17.4 เท่า แล้ว ADVANC ปัจจุบันก็ยังมี Upside จากราคาที่เหมาะสมสูงกว่า DTAC แม้ ราคาหุ้นปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้า
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.28
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.12
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.79
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.58
หุ้นใน Smart Port ที่จะจ่ายปันผลได้แก่
27/04/2015 ROJNA 0.02 Baht per share
27/04/2015 ROJNA 50:1 Stock dividend
27/04/2015 EFORL 0.01 Baht per share
29/04/2015 SRICHA 1.55 Baht per share
30/04/2015 IVL 0.19 Baht per share
30/04/2015 IRPC 0.20 Baht per share
30/04/2015 IRPC 5:1 Stock dividend
06/05/2015 AGE 0.0019 Baht per share
06/05/2015 AGE 15:1 Stock dividend
07/05/2015 ICHI 0.50 Baht per share
07/05/2015 KAMART 0.06 Baht per share
08/05/2015 CK 0.35 Baht per share