- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 April 2015 17:08
- Hits: 2093
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : แนวรับ 1565 แนวต้าน 1580
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1569.35 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,218 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นที่ 1575 จุด แต่แนวโน้มยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1600 จุด
Daily : ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด หลังจากปรับตัวลดลงแต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1600 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1550 จุด บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งเราคาดว่า หุ้นในกลุ่มพลังงาน และธนาคารขนาดใหญ่ น่าจะเป็นตัวนำตลาด และมีแนวรับในระยะสั้นที่ 1560-1565 จุด
กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นมาทดสอบแนวรับที่ 1560 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1550 จุด แต่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1600 จุด
Asia Fund Flow : 21 เมษายน 2558
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 56 ล้านเหรียญ (22 เม.ย.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 127 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 12 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 6 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิ 72 ล้านเหรียญ
Most Active Value : แนวรับ แนวต้าน
SCB สัญญาณฟื้นตัว ขายที่แนวต้าน 180 และ 182 175 / 174 178 / 180
KBANK แนวต้านสำคัญ 235 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 240 และ 248 232 / 230 234 / 235
SCC สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 550 536 / 532 540 / 544
ADVANC แนวรับ 240 และ 235 แนวต้าน 245 และ 250 240 / 237 244 / 245
BBL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 194-195 188 / 187 190 / 192
PTT ซื้อที่แนวรับ 350 แนวต้าน 360 และ 365 352 / 350 357 / 360
PTTGC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 65.00 และ 66.00 62.00 / 61.00 63.50 / 64.00
TRUE เคลื่อนไหวในกรอบ 13.20-13.60 13.40 / 13.20 13.60 / 13.80
TASCO สัญญาณซื้อ แนวรับสำคัญ 13.20 แนวต้าน 14.40 และ 15.00 13.60 / 13.20** 14.00 / 14.40
CPF แนวโน้มขึ้นทดสอบ 24.50-25.00 เป็นจังหวะขายทำกำไร 24.20 / 24.00 24.50 / 24.80
The Siam Cement (SCC TB; THB 536) - ซื้อ
แนวต้าน : 544 และ 550
แนวรับ : 536 และ 532
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้ ทาให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ SCC โดยมีแนวรับที่ 536 และ 532 และมีแนวต้านที่ 544 และ 550 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 528 ลงไป
Siamgas and Petrochemical (SGP TB; THB 12.90) - ซื้อ
แนวต้าน : 13.60 และ 14.20
แนวรับ : 12.80 และ 12.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นมาได้แล้ว พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SGP โดยมีแนวรับที่ 12.80 และ 12.60 และมีแนวต้านที่ 13.60 และ 14.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 12.40 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...Sideway up
ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก เริ่มที่จะได้รับแรงหนุนจากการลด RRR ของจีน รวมทั้งผลดำเนินงาน Q1/15 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐที่ทยอยประกาศ ไม่เลวร้ายกว่าคาด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นดีดตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามประเด็นที่ยังหน่วงตลาด ยังคงเป็นเรื่องการเจรจาหนี้ในกรีซ ส่วนราคาน้ำมันยังคงแกว่งในกรอบแคบ เพื่อรอปัจจัยหนุน โดยเฉพาะการประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันในสหรัฐ (รายสัปดาห์) ในวันพรุ่งนี้
สภาพตลาดหุ้นไทยถือว่ายังดี คือสามารถดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังมีการปรับตัวลงในช่วงสั้นๆ จากการคาดกันว่า การประชุม กนง. ยังเปิดโอกาศในการลดดอกเบี้ย รวมทั้งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คาดกันว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ใน Q2/15 นอกนั้นก็เป็นการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 7 วัน ส่วนการประกาศผลดำเนินงานที่ตลาดกำลังจับตามองคือ กลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน อย่างพลังงาน ส่วนปัจจัยที่ยังกดดันเศรษฐกิจ คือ ทาง EU ให้เวลาอีก 6 เดือนในการแก้ปัญหาการประมง
ผลดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ออกมาดี ส่วนธนาคารเล็กออกมาต่ำกว่าคาดแต่ไม่มาก ซึ่งราคาหุ้นได้สะท้อนไปบางส่วนแล้ว ตอนนี้ตลาดกำลังลุ้นผลดำเนินงานของกลุ่มพลังงานใหญ่ที่คาดว่าน่าจะออกมาดีกว่า Q4/14 แม้ผลดำเนินงานจะออกมาดีแต่ราคาหุ้นคงขึ้นได้ในกรอบจำกัด กลุ่มที่จะเป็นตัวตัดสินว่าดัชนีจะไปได้ต่อหรือไม่คงเป็นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ (สร้างบ้าน รับเหมา) สื่อสาร ค้าปลีกและวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้ โยงกับแรงซื้อในประเทศเป็นหลัก โดยมีปัจจัยหนุน แนวโน้มการลดดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ช่วงเดือน เม.ย. ดัชนีตลาดหุ้นไทย ถือว่ายังยืนได้ในระดับกลางๆ คือปรับตัวขึ้นประมาณเกือบ 5% ดูจากรูปด้านซ้าย ส่วนกลุ่มอุตสากรรมที่ขึ้นได้มากที่สุด คือ ปิโตรเคมีและพลังงาน ดูจากรูปด้านขวา เรามองว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะยังโดดเด่นในเดือน พ.ค. คือ กลุ่มพลังงาน อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน รับเหมา ค้าปลีก วัสดุก่อสร้างเล็กและ สื่อสาร
คาดวันนี้ดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะยังสามารถดีดตัวขึ้นได้ต่อ แม้จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง ลักษณะยังคงเป็นการเล่นรายตัวที่คาดว่าผลดำเนินงานจะออกมาดี โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1576-1580 ส่วนแนวรับที่ 1565-1560 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ผลดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ออกมาดี ส่วนธนาคารเล็กออกมาต่ำกว่าคาดแต่ไม่มาก ซึ่งราคาหุ้นได้สะท้อนไปบางส่วนแล้ว ตอนนี้ตลาดกำลังลุ้นผลดำเนินงานของกลุ่มพลังงานใหญ่ที่คาดว่าน่าจะออกมาดีกว่า Q4/14 แม้ผลดำเนินงานจะออกมาดีแต่ราคาหุ้นคงขึ้นได้ในกรอบจำกัด กลุ่มที่จะเป็นตัวตัดสินว่าดัชนีจะไปได้ต่อหรือไม่คงเป็นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ (สร้างบ้าน รับเหมา) สื่อสาร ค้าปลีกและวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้ โยงกับแรงซื้อในประเทศเป็นหลัก โดยมีปัจจัยหนุน แนวโน้มการลดดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดวันนี้ดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะยังสามารถดีดตัวขึ้นได้ต่อ แม้จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง ลักษณะยังคงเป็นการเล่นรายตัวที่คาดว่าผลดำเนินงานจะออกมาดี โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1576-1580 ส่วนแนวรับที่ 1560-1565 จุด
Themes play :
KTC : เราแนะนำ ซื้อ KTC โดยมีราคาเป้าหมาย 120 บาท โดยเมื่อวานนี้บริษัทประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรกออกมาโดดเด่นมีกำไรสุทธิ 574 ล้านบาท (EPS 2.23 บาท) เติบโตสูงถึง 62% yoy คิดเป็น 28% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเราที่ 2,065 ล้านบาท (EPS 8.01 บาท เติบโต 18% yoy) เราประมาณการว่า KTC จะมีกำไรต่อหุ้นเติบโตเฉลี่ย 18.6% ในปี FY15-17 อิงสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อ 8-9% และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เร่งตัวขึ้น 10.5-12.0% โดยมีปัจจัยผลักดันจากการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกของธุรกิจบัตรเครดิตและมีงบดุลที่แข็งแกร่ง เรามองว่า KTC ยังมีราคาถูกและมูลค่าหุ้นยังไม่สะท้อน ROE ที่สูงถึง 26% ในปี FY15
ประเด็นในสัปดาห์
22 เม.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนมี.ค. โดยตลาดคาด 5.03 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 4.88 ล้านยูนิต
23 เม.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit U.S. Manufacturing PMI เดือนเม.ย. โดยตลาดคาด 55.7 จากเดือนก่อนหน้าที่ 55.7
23 เม.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข New Home Sales เดือนมี.ค. โดยตลาดคาด 515,000 ยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 539,000 ยูนิต
23 เม.ย. : จีนประกาศตัวเลข HSBC China Manufacturing PMI เดือนเม.ย. โดยตลาดคาด 49.4 จากเดือนก่อนหน้าที่ 49.6
23 เม.ย. : ยุโรปประกาศตัวเลข Markit Eurozone Manufacturing เดือนเม.ย. โดยตลาดคาด 52.6 จากเดือนก่อนหน้าที่ 52.2
24 เม.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Durable Goods orders เดือนมี.ค. โดยตลาดคาด +0.6% จากเดือนก่อนหน้าที่ -1.4%
Fundamental Stock :
KTB : Results Note - กังวลหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น (แนะนำ : ซื้อราคาเป้าหมาย 26บาท)
BBL : Results Note - ตัวเลือกที่ปลอดภัย (แนะนำ : ถือ ราคาเป้าหมาย 195 บาท)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1565 จุด และแนวต้าน 1580 จุด
The Siam Cement (SCC TB; THB 536) - ซื้อ
Siamgas and Petrochemical (SGP TB; THB 12.90) - ซื้อ
SET Index : แนวรับ 1565 แนวต้าน 1580
Retail Research Team