- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 April 2015 17:00
- Hits: 2079
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ฟื้นตัวขึ้นทดสอบด่าน 1,570 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ผลักดันด้วย PTT / SCB / SCC แต่บริเวณดังกล่าว เกิดแรงขายทำกำไรมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาพรวมกลุ่มธนาคาร / ICT ขยับขึ้นเด่น จากแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q58 ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,569.35 จุด บวก 9.03 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 39,218 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติกลับมาหนาแน่นอีกครั้ง ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 2,346 ล้านบาท และทำให้ YTD กลับมาซื้อสุทธิ 506 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 11 อีก 1,700 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 2,562 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เงินทุนต่างชาติกลับมาซื้อหนาแน่นในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง หลังงบ 1Q58 ของกลุ่มธนาคารไทยออกมาใกล้เคียงหรือดีกว่าคาด ทำให้มุมมองของนักลงทุนต่างชาติต่อกลุ่มธนาคารไทยดีขึ้น
แต่ยอดซื้อสุทธิ MTD ของสถาบันในประเทศ 8,156 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 8,481 ล้านบาท อาจเป็นแรงกดดัน SET INDEX ผ่าน 1,580-1,600 จุดได้ยากในช่วงสั้น
งบกลุ่มธนาคารใน 1Q58 โดยรวมเป็นกลางถึงบวก หุ้นแบงก์ใหญ่ สรุปได้ว่า SCB / BBL ออกมาดีกว่าคาด KBANK ใกล้เคียงคาด และ KTB / TMB ออกมาต่ำกว่าคาด
โครงการทวาย คาดเซ็นสัญญา เดือนก.ค.นี้
TASCO เริ่มซื้อขายพาร์ใหม่ 1.00 บาท จาก 10.00 บาท วันนี้
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 20 พร้อมประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,560-1,580 จุด แม้ว่าเงินทุนต่างชาติจะยังเลือกทยอยสะสมหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทย ทั้งกลุ่มธนาคาร / พลังงาน / ICT / อสังหาฯ โดยเฉพาะ 3 กลุ่มหลังที่ Valuation ยังค่อนข้างต่ำ แต่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโต qoq และ/หรือ yoy แต่เรากลับประเมินว่า หาก SET INDEX ขยับขึ้นสู่ 1,580-1,600 จุด จะเกิดแรงขายจากสถาบันในประเทศ และ Prop Trade มากขึ้น เพื่อ Lock-in Profit ช่วงสั้น หากเป็นไปตามที่ประเมินเช่นนี้ SET INDEX ในช่วงนี้จะแกว่งในกรอบ แต่หุ้นขนาดกลาง / เล็ก ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq จะกลายเป็นหุ้นที่ขยับขึ้นเด่นอีกครั้ง
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนต่อการเจรจาระหว่าง กรีซ และ เจ้าหนี้อียู ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้า ภายใต้เส้นตายการเจรจาวันที่ 24 เม.ย. เป็นอีกปัจจัยที่จำกัด Upside ในช่วงสั้น
ตลาด Nikkei - Kospi (7.20 น.) เปิดบวก สวนทางกับ DJIA คืนวานนี้ที่ปิดลบ 0.47% จากตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นที่ออกมาเกินดุลมากกว่าคาด
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายบางส่วนเพิ่มเติม" เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุด +/-
Portfolio
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: IFEC / ITD
Profit-Taking: KTB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 8.20 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น ITD จะตอบรับเชิงบวก หลัง รมช.คมนาคมเผยความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวาย ระหว่าง ITD - ROJNA - พม่า คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในช่วงปลายเดือน พ.ค. หรือ ต้นเดือน มิ.ย.
b) และจะเดินทางไปหารือกับรัฐบาลญี่ปุ่นในวันที่ 23-25 เม.ย. เนื่องจากญี่ปุ่นมีความสนใจที่จะร่วมลงทุนโครงการทวาย จากปัจจุบันที่เป็นการลงทุนแบบ JV ระหว่างไทย - พม่า ในสัดส่วน 50 : 50 โดยหากญี่ปุ่นเข้าร่วมทุนจะมีการเซ็นสัญญา 3 ฝ่ายได้ภายในเดือน ก.ค. และเชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่อโครงการทวายได้มากขึ้น
c) ราคาหุ้นยัง Laggard โดย 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ STEC +7.4%, CK +3.9% ขณะที่ ITD ปรับตัวขึ้น +2.5%
d) มี Catalyst รออยู่ คือการประมูลงานโครงการภาครัฐฯขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มใน 2Q58 รวมทั้ง การประกาศวันขึ้นเครื่องหมาย XW ใบแสดงสำคัญสิทธิ สัดส่วน 5 หุ้น ต่อ 1 Warrant ราคาแปลงสภาพ 14.00 บาท อายุ 4 ปี หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติการออก Warrant แล้วในวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา
2. IFEC : ราคาปิด 12.50 บาท ราคาเหมาะสม 18.00 บาท
a) MBKET คาดผลประกอบการ 1Q58 มีกำไรสุทธิราว 20 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ของธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในประเทศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เทียบกับ 4Q57 ที่ขาดทุนสุทธิ 15 ล้านบาท และ 1Q57 ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านบาท
b) แนวโน้มผลการดำเนินงานจะยกฐานกำไรขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H58 จากการทยอยรับรู้รายได้ของโครงการโซลาร์ฟาร์มจากกัมพูชา 20MW แรก และโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกจำนวน 10 MW ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
c) คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ที่ 459 ล้านบาท +238.1% yoy และ +282.0% yoy เป็น 1,753 ล้านบาท ในปี 2559
d) การปรับตัวลงของราคาหุ้นส่งผลให้ Valuation มีความตึงตัวลดลง และมีความน่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายที่ระดับ PER 2558 ที่ 52.8 เท่า และลดลงเหลือ 13.8 เท่าในปี 2559 และเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรสุทธิ พบว่า PEG58 ต่ำเพียง 0.22x และ เหลือเพียง 0.05x ในปี 2559
e) จะขึ้น XD หุ้นปันผลสัดส่วน 20 ต่อ 1 ในวันที่ 14 พ.ค. และ XW ใบแสดงสำคัญสิทธิ (Warrant) สัดส่วน 4 ต่อ 1 ในวันที่ 25 มิ.ย.
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิ US$477 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$1,350 ล้าน ซื้อสุทธิทุกตลาด
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาหนาแน่นอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 2,346 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิ 506 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติ Long สุทธิเป็นวันที่ 11 อีก 1,700 สัญญา รวม 11 วันทำการ Long สุทธิมากถึง 57,734 สัญญา และ YTD เป็น Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 35,099 สัญญา แม้ว่า S50M15 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 เท่ากับ 0.87 จุด แคบลงจากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 2.35 จุด
ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 2,562 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 3,289 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 14,858 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงมากถึง 3.02bps ปิดที่ 2.639%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 354 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 579 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 10 เน้นกลุ่ม ICT และกลุ่มธนาคารโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 3,428 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,305 ล้านบาท รวม 10 วันทำการซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 19,506 ล้านบาท โดย NVDR สะสม ICT หนาแน่น และกลับมาสะสมกลุ่มธนาคารโดดเด่น หลังงบ 1Q58 ออกมาใกล้เคียงคาดถึงดีกว่าคาด สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกกลับมาซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 1,003 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 758 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคารซื้อสุทธิ 912 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 490 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 584 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 456 ล้านบาท และกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 214 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 963 ล้านบาท
2. ส่วน MAI ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 9 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
วุฒิสภา เตรียมออกกฎหมายยกเลิกการห้ามส่งออกน้ำมัน: ประธานคระกรรมการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ เตรียมผลักดันร่างกฎหมายยกเลิกการห้ามไม่ให้สหรัฐฯ ส่งออกน้ำมัน ภายในปีนี้ โดยจะเริ่มการทำประชามติใน 2-3 เดือนข้างหน้า
ยุโรป
ECB กำลังศึกษาถึงแนวทางการกำหนดเพดานสูงสุดของการช่วยเหลือธนาคารกรีซ: ผ่านโครงการ ELA เพราะการช่วยเหลือผ่านโครงการดังกล่าว โดยการศึกษาอาจเสนอให้ธนาคารพาณิชย์กรีซจะต้องเพิ่มระดับการ haircut ในส่วนของหลักทรัพย์ค้ำประกันมากขึ้น ก่อนที่จะเสนอขอเงินกู้ แนวทางดังกล่าว อาจนำมาใช้ หากรัฐบาลกรีซไม่สามารถตกลงกับ รมว.คลัง ของอียูในส่วนของการปฎิรูปเศรษฐกิจ เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือชุดใหม่
ธนาคารกลางฮังการีลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด: อัตราดอกเบี้ยนโยบายเงินฝากระยะ 2 สัปดาห์ลงเหลือ 1.80% จากเดิม 1.95% สอดคล้องกับที่ Bloomberg consensus คาด
ระดับหนี้สาธารณะในอียูเพิ่มขึ้นนำโดยกรีซ: ระดับหนี้สาธารณะของกลุ่มอียู ณ สิ้นปี 2557 เท่ากับ 177.1% ของ GDP เป็นระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่รวมกลุ่มสหภาพอียู และเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2556 ที่ 175.0% ของ GDP สำหรับยูโรโซน ระดับหนี้สาธารณะ เท่ากับ 91.9% ของ GDP ในปี 2557 จาก 90.9% ของ GDP ณ สิ้นปี 2556 โดยกรีซมีระดับหนี้สูงถึง 181.90% ของ GDP ณ สิ้นปี 2557 ส่วนอิตาลี ระดับหนี้สูงเป็นอันดับที่ 2 เท่ากับ 132.1% ของ GDP ณ สิ้นปี 2557 และโปรตุเกสเป็นลำดับที่ 3 เท่ากับ 130.2%
จีน
ฮ่องกงเข้าซื้อดอลลาร์ US$5.85 พันล้านในเดือนนี้: Hong Kong Monetary Authority ได้เข้าซื้อดอลลาร์ US$1.2 พันล้านในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ณ อัตราแลกเปลี่ยนสูงสุดของเพดาน HK7.75/US$ เพื่อไม่ให้ค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงแข็งค่ามากเกินไป MTD หน่วยงานกลาง ได้เข้าซื้อดอลลาร์ไปแล้ว US$5.85 พันล้าน
ธนาคารกลางจีนหยุดการทำ Reverse Repo ชั่วคราว: หลังธนาคารกลางประกาศลด RRR ในวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินผ่อนคลายลง
เอเชียแปซิฟิก
รมว.เศรษฐกิจอินโดนีเซีย ยอมรับเป้าหมายโต 7% เป็นสิ่งที่ท้าทาย: รัฐบาลตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ 7.0% ภายใน 5 ปีข้างหน้า แตกต่างจากที่ประธานาธิบดี Widodo ตั้งเป้า 7.0% ภายในปี 2560 โดยในปีนี้ เชื่อมั่นว่าจะเติบโตได้ 5.7% ในปีนี้ ภายใต้ความเสี่ยงที่มีเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ดุลการค้าญี่ปุ่นเกินดุลครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี: ดุลการค้าเดือน มี.ค. เกินดุล 2.29 แสนล้านเยน นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2555 ที่ตัวเลขดังกล่าวเกินดุล และเป็นการเกินดุลที่มากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 4.46 หมื่นล้านเยน ทั้งนี้ยอดส่งออกที่เติบโต 8.5% yoy เป็นผลจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง ขณะที่ยอดนำเข้าหดตัว 14.5% yoy
ไทย
หุ้น'ทีวีดิจิทัล'พุ่งลุ้นมติกสทช.คาดเคาะกำหนดจ่ายไลเซ่นส์งวด2วันนี้: การผ่อนผัน หรือขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาตินี้ มติที่ประชุม กสทช. ให้สำนักงานทำหนังสือไปสอบถาม ความเห็นจากกระทรวงการคลัง และกฤษฎีกา ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีหนังสือตอบกลับมาแล้ว ส่วนทางกฤษฎีกายังไม่ได้ตอบกลับมา ทางสำนักงาน กสทช. เห็นว่าเพื่อให้ทันวันครบกำหนดชำระค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวดที่ 2 ซึ่งมียอดชำระจำนวน 8,692.89 ล้านบาท ในวันที่ 24 พ.ค.2558 จึงได้เตรียมนำเสนอเรื่องนี้ให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาในวันที่ 22 เม.ย. 2558 นี้ก่อน แม้ว่าจะยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับจากกฤษฎีกา
ญี่ปุ่นร่วมหุ้นลงทุน "ทวาย" ลุ้นเซ็นสัญญาก.ค.นี้: รมช. กระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าการลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในประเทศพม่า ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว คาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ประเทศไทยพม่า และญี่ปุ่น ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะเข้าร่วมนิติบุคคลเฉพาะกิจ (เอสพีวี) ที่ขณะนี้ไทยและพม่าถือหุ้นอยู่ฝ่ายละ 50% ซึ่งจะมีการเดินทางไปหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมกับหน่วยงานรัฐบาลญี่ปุ่นช่วงวันที่ 23-25 เมษายนนี้
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530