- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 April 2015 16:11
- Hits: 1337
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET อาจดีดกลับ แต่ต้องระวังผันผวนและลบต่อ..ยังรอซื้อลบ!
กลยุทธ์ : หลัง SET ปรับพักฐานมา 2 วันติดต่อกัน ทำให้วันนี้ อาจมีลุ้นจังหวะบวกกลับได้บ้างตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศที่ค่อนข้างดี แต่ตลาดเอเชียยังบวกแคบ ขณะที่ปัจจัยกดดันยังมีอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีสิทธิแกว่งพักฐานต่อเนื่องได้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอจังหวะเลือกหุ้นซื้อเฉพาะช่วงลบ
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CBG, PLANB, PS(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังมีแรงขายกดดันต่อเนื่องจากช่วงบ่ายวันศุกร์ โดยมีปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ และความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะเริ่มขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด นอกจากนี้นักลงทุนบางส่วนยังขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง หลังจากตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นมาเร็วพอควรในช่วงที่ผ่านมาด้วย อย่างไรก็ตามเช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ปิดบวกได้ค่อนข้างแรง โดยนักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังน่าจะได้รับแรงหนุนจากการขยับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังนักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดลงได้บ้าง จากรายงานที่ว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ก่อน ทำให้ SET มีสิทธิรีบาวด์กลับขึ้นได้บ้างในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตามกรอบบวกของตลาดเอเชียยังค่อนข้างจำกัด ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของจีน ดังนั้นยังต้องระวังการแกว่งผันผวนของ SET อยู่ก่อน
แนวรับ 1558-1555 , 1552-1548 จุด
แนวต้าน 1563-1567 , 1570-1575 จุด
Fund Flow กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนักมากโดยส่วนใหญ่ไหลเข้าประเทศอินโดนีเซีย US$1,173 ล้าน รองลงมาเป็นเกาหลีใต้ US$193 ล้าน ส่วนตลาดที่เงินทุนไหลออกมีในปริมาณที่ไม่มากนัก นำโดยฟิลิปปินส์ US$15.9 ล้าน และไต้หวัน US$5.7 ล้าน ในต้นสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นภูมิภาคได้รับปัจจัยบวกหลังจีนปรับลดเงินสำรอง RRR เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะชะลอตัว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) กำไรกลุ่มแบงก์ 6 แห่งเพิ่ม 7% Q-Q และ 2% Y-Y ไม่สดใส
SCB ราคาหุ้นน่าสนใจที่สุด กำไรดีกว่าคาด +7.5% Q-Q และทรงตัว Y-Y แม้จะมีค่าใช้จ่ายคดีสจล. 1.5 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการนี้ กำไรสุทธิเพิ่ม 17% Q-Q และ 9% Y-Y จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยและเงินให้สินเชื่อที่ดีกว่าคาด ขณะที่ NPL ทรงตัว SCB สร้างเซอร์ไพร้ส์ในทางบวกขณะที่ราคาหุ้น underperformed ที่สุดในกลุ่ม -6% YTD (กลุ่ม -0.2% YTD) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 218 บาท
KBANK กำไรเป็นไปตามคาด +24% Q-Q, +4% Y-Y รายได้หลักถือว่าทำได้ดีโดยเฉพาะรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ขณะที่ NPL ขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 2.24% เป็น 2.26% แต่ Coverage ratio ยังแกร่งที่ 140% ยังคงเป้าหมาย 260 บาท แนะนำซื้อ
TCAP กำไรเป็นไปตามคาด -2% Q-Q จากการตั้งสำรองฯที่สูงขึ้น และทรงตัว Y-Y สำหรับ NPL ลดลงอย่างน่าพอใจ 6% Q-Q และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 88.9% จาก 84.8% สิ้นปีก่อน ความน่าสนใจในด้านการเติบโตของสินเชื่อและกำไรยังไม่มี แต่แนะนำซื้อเพราะ PBV ถูก 0.7 เท่า ราคาเป้าหมายยังคงอยู่ที่ 43 บาท
(0) GFPT คาดกำไรต่ำสุดในรอบ 8 ไตรมาส เราคาดกำไรสุทธิ 1Q15 ลดลง 44% Q-Q และ 52% Y-Y เหลือ 205 ล้านบาท ต่ำสุดใน 8 ไตรมาส เพราะปริมาณการส่งออกลดลงตาม Low season และราคาไก่ทั้งในและต่างประเทศลดลงเพราะ Oversupply ปัจจุบันราคาไก่เริ่มฟื้นมาเท่ากับต้นทุนการเลี้ยงของอุตสาหกรรมที่ 37-38 บาท/กก. และน่าจะทรงตัวได้ในช่วงที่เหลือของปี (การฟื้นแรงเป็นไปได้ยากเพราะ Oversupply) แม้เราจะไม่ได้ชอบ GFPT นักแต่ราคาหุ้นปรับลงกว่า 4 เดือนสะท้อนราคาไก่และผลประกอบการมากแล้ว และมี upside กว่า 20% จากเป้าหมาย 16 บาท จึงแนะนำซื้อ
(-) AP เราคาดกำไรปกติใน 1Q15 -10% Q-Q ตามรายได้โอนที่ลดลง แต่เพิ่ม 111% Y-Y ตามยอดโอนดีขึ้นมากจากปีก่อนที่ติดปัญหาการเมือง ซึ่งน่าจะเป็นทิศทางเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นในกลุ่มคือลดลง Q-Q แต่ดีขึ้น Y-Y ส่วน Presales ใน 1Q15 ทำได้เพียง 16% ของเป้าทั้งปี ต่ำใกล้เคียงกับกลุ่ม แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่อง +28% YTD เทียบกับกลุ่มที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 2% YTD จนใกล้เต็มมูลค่าที่ 7.90 บาท จึงลดคำแนะนำลงเป็นถือ จากเดิมซื้อ
(+) เม็ดเงินโฆษณา มี.ค. ดีขึ้นมากเพราะเริ่มเข้า High season โดยเพิ่ม 25% M-M ทำให้เม็ดเงินโฆษณาใน 1Q15 เพิ่ม 25% Y-Y ส่วนใหญ่มาจากการโฆษณาผ่านสื่อทีวีดิจิตอลที่แย่งส่วนแบ่งตลาดจากทีวีอนาล็อกและทีวีดาวเทียมและเคเบื้ล ทำให้การโฆษณาผ่านสื่อทีวีอนาล็อกลดลง 6% Y-Y ทีวีดาวเทียมและเคเบื้ลลดลง 47% Y-Y ปัจจุบันการโฆษณาผ่านสื่อทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีส่วนแบ่งตลาด 36% ของสื่อทีวีทุกประเภท และมีส่วนแบ่ง 26% ของเม็ดเงินโฆษณาทั้งอุตสาหกรรม แนะนำซื้อ RS (ราคาเป้าหมาย 18.70 บาท) และ MONO (ราคาเป้าหมาย 5.25 บาท)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด โดยได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางจีนลด RRR เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกเช่นกันหลัง PBOC ลด RRR เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ได้มากขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแกว่งตัวออกข้างและอ่อนค่าลงเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.45 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดที่ 56.38 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบปรับตัวลดลง รวมถึงแรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,193.70 ดอลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 9.40 เหรียญ/ออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูสถานการณ์หนี้ของกรีซว่าจะผิดนัดชำระหรือไม่
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17-23 เม.ย. - ไทย: กลุ่มธนาคารทยอยประกาศผลประกอบการ 1Q15
21 เม.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (มี.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (เม.ย.)
22 เม.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (มี.ค.)
23 เม.ย. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (เม.ย.)
- เกาหลีใต้: 1Q15 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (มี.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (เม.ย.)
24 เม.ย. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มี.ค.)
- กรีซ: การเจรจาระหว่างกรีซและ EU ต้องได้ข้อสรุป
27 เม.ย. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มี.ค.), ดุลการค้า (มี.ค.)
28-29 เม.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
28 เม.ย. - สหรัฐ: S&P/CaseShiller Index (ก.พ.), ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
29 เม.ย. - ไทย: กนง.ประชุม
- สหรัฐ: 1Q15 GDP (คาดครั้งแรก), Pending home sales (มี.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research