WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

SET ยืนต่อหนุนด้วยกลุ่มพลังงาน
SET View
แนวโน้มวันนี้มองแกว่งตัว กรอบ 1,565 – 1,575 จุด
เมื่อวานนี้ SET ปรับตัวขึ้นเหนือความคาดหมายจากปัจจัยหนุนทั้งนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิเกือบ 4 พันล้านบาท และ หุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นอย่างมากซึ่งเป็นการตอบสนองจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ขึ้นทำสถิติสูงสุดของปี เราประเมินว่า SET ในวันนี้จะเป็นไปตามการนำของกลุ่มพลังงาน โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ยังทรงตัวสูงเหนือระดับ 60 เหรียญต่อบาร์เรล อาจหนุนหุ้นพลังงานยืนต่อได้ในวันนี้ ส่วนในระยะกลาง ยังมีความเป็นไปได้สูงที่นักวิเคราะห์จะมาพิจารณาปรับขึ้นประมาณการกำไรของกลุ่มน้ำมันเพื่อสะท้อนของราคาน้ำมันดิบในตลาดที่สูงขึ้น


สำหรับปัจจัยในประเทศ เมื่อวานนี้สภาพัฒน์ฯ คาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ใน 1Q58 จะขยายตัวราว 3% YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง ขณะที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เรายังมีความกังวลว่าในระยะถัดไปการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากกลไกอื่นๆยังไม่ฟื้นตัว ทั้งการบริโภคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำประเมินจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนล่าสุดที่ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐในเดือน มี.ค. มีจำนวนเพียง 1.4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของกรอบงบประมาณรวม ส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจต่ำ นอกจากนี้การส่งออกต่ำกว่าเป้าหมาย โดยล่าสุด กกร. ปรับประมาณการยอดส่งออกว่าจะเติบโตเพียงแค่ 1% ต่ำกว่าเป้าหมายของ ครม.เศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโต 3.5% ส่วนปัจจัยต่างประเทศ เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึนเป็น 294,000 ราย จากจำนวนจาก 282,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ


กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “Selective Buy” ในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว หรือ เก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน
Top Daily Pick : CK (มูลค่าเหมาะสม 31.20 บาท) จะมีกำไรจากการขายโครงการไซยะบุรีเข้ามาใน 2Q58 ทำให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มอีก 0.40 บาท / WORK (มูลค่าเหมาะสม 47 บาท) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 57 ขณะที่ในปี 58 คาดกำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวแรงสุดในกลุ่มผู้ให้บริการทีวีดิจิทัล


Technical Pick : (TRUE DCON MTLS EFORL RICH) (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical โดยละเอียดก่อนลงทุน)
Theme Play : กลุ่มธนาคารทยอยรายงานงบวันนี้ เราเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นที่ยังราคาถูกเมื่อเทียบกับอดีตและมีความเสี่ยงจากการเกิด NPL ต่ำ / หุ้นเด่นน่าลงทุนเดือน เม.ย. (PTTGC BANPU BCP PS WORK) / กลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ (RS WORK MONO) ครบ 1 ปีหลังประมูลใบอนุญาติ Digital TV อันดับความนิยมของช่องใหม่ได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก / กลุ่มโรงแรม (MINT ERW) การท่องเที่ยวในไตรมาสแรกฟื้นตัวสูง 23% YoY

Strategy Talk
สถานการณ์น้ำมันเริ่มคลี่คลาย มองจำกัด Downside ต่อ SET
ล่าสุด Bank of America ML (BoAML) ได้จัดทำบทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน โดยสรุปมีมุมมองว่าราคาน้ำมันดิบจะค่อยๆฟื้นตัวหลังจากนี้โดยใช้วิธีหาจุดสมดุลของราคาน้ำมันดิบพิจารณาจากอุปสงค์น้ำมันดิบโลกเทียบกับต้นทุนส่วนเพิ่มในการขยายกำลังการผลิตของผู้ประกอบการ โดยอาศัยข้อมูลจากนักวิเคราะห์พลังงานทั่วโลกที่ติดตามหุ้นพลังงานกว่า 85 แห่ง คิดเป็น 90% ของอุปทานของผู้ผลิตที่ไม่ใช่กลุ่มโอเปก โดยสถานการณ์ที่ BoAML คาดว่าจะได้เห็นคือการปิดตัวลงต่อเนื่องของผู้เล่นที่ต้นทุนสูงตามมาด้วยการเกิดการควบรวมกิจการ (M&A) ในลักษณะปลาใหญ่กินปลาเล็กจนเหลือผู้เล่นที่สายป่านยาวพอที่จะยืนหยัดในการฟื้นตัวของราคาน้ำมันรอบนี้ ซึ่งมีจำนวนที่คาดการณ์ได้เมื่อพิจารณากระแสเงินสดของบริษัทจดทะเบียนที่ศึกษาติดตามดูดังกล่าว
ผลคือ BoAML ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ปัจจุบันต่ำเกินไป ราคาที่สมดุลในระยะยาวควรจะกลับมาอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2561 (Base case) อีกทั้งยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยของปี 2558 ขึ้นมาที่ 55 เหรียญต่อบาร์เรล จากเดิมที่ 52 เหรียญต่อบาร์เรล (จะ Peak สุดใน 4Q58 ที่ 60 เหรียญต่อบาร์เรล) และนำไปสู่การปรับประมาณการกำไรต่อหุ้นขึ้นหุ้นกลุ่มพลังงานในเอเชียขึ้นเฉลี่ย 12% เรามองว่าเป็นสัญญาณที่ดีหลัง BoAML (และเชื่อว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่) ได้ปรับลดประมาณการณ์กลุ่มพลังงานมากกว่า 50% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
โดยมีปัจจัยสำคัญที่ไม่ได้รวมในประมาณการและต้องติดตามคือ OPEC โดยเฉพาะซาอุดิอาราเบียซึ่งทิ้งราคาน้ำมันให้เคลื่อนไหวเสรี โดยมองว่าในระยะยาว เพื่อที่จะรักษาการขาดดุลงบประมาณของประเทศ ซาอุฯ มีโอกาสกลับมาลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน (เป็น Upside) หรือใช้วิธีกู้ยืม หรือกรณีเลวร้ายอาจขุดเจาะน้ำมันให้มากขึ้นไปอีก (เป็นความเสี่ยง)
ซึ่งมุมมองของ BoAML ก็มาเสริมกับนักวิเคราะห์พลังงานของเราที่มองว่าราคาน้ำมันดิบมาถึงจุดต่ำสุดแล้วและมีโอกาสค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆหลังจากนี้ โดยภาพรวมในเชิงกลยุทธ์เราจึงมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อกลุ่มพลังงาน มอง Downside ของ SET ที่เกิดจากกลุ่มพลังงานที่เคยเป็นตัวถ่วงเริ่มจำกัดแล้ว และสัญญาณการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของหุ้นกลุ่มพลังงานจะเป็นปัจจัยพยุง SET ได้สำหรับกลุ่มพลังงานที่แนะนำจะเป็น PTTGC BANPU BCP
• PTTGC (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 62 บาท) คาดพลิกเป็นกำไรใน 1Q58 จากค่าการกลั่นที่แข็งแกร่ง ขณะที่ราคาปัจจุบันซื้อขายเพียง PE’58 9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 11.3 เท่า
• BANPU (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 39 บาท) ได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเนื่องจากราคาถ่านหินจะเคลื่อนไหวสัมพันธ์กัน ซึ่งเป็น Upside เนื่องจาก ไม่ได้คาดหวังการฟื้นตัวของราคาถ่านที่โดดเด่นตั้งแต่ต้น โดยมองแค่กำลังการผลิตส่วนเพิ่มของธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เข้าใหม่ในปีนี้ก็สามารถหนุนผลประกอบการให้เติบโตได้ถึง 35% YoY
• BCP (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 36 บาท) แข็งแกร่งอยู่แล้วจากธุรกิจโรงไฟฟ้า อีกทั้งมีแผนขยายอีกกว่า 132 เมกะวัตส์ในปีนี้ แล้วยังได้อานิสงค์จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง จึงคาดกลับมาเป็นกำไรตั้งแต่ 1Q58


Smart Port Note
 Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.28
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.12
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.79
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.58
 หุ้นใน Smart Port ที่จะจ่ายปันผลได้แก่
17/04/2015 BBL 4.50 Baht per share
17/04/2015 MINT 0.25 Baht per share
27/04/2015 ROJNA 0.02 Baht per share
29/04/2015 SRICHA 1.55 Baht per share
30/04/2015 IVL 0.19 Baht per share
30/04/2015 IRPC 0.20 Baht per share
06/05/2015 AGE 0.0019 Baht per share
07/05/2015 KAMART 0.06 Baht per share
08/05/2015 CK 0.35 Baht per share

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!