- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 April 2015 15:39
- Hits: 1191
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนี เปิดตลาดบวกเล็กน้อย ก่อนที่จะแกว่งตัวลงเข้าสู่แดนลบ ซึ่งเป็นแรงขายจากหุ้นในกลุ่มแบงก์และอาหารกดดัชนีทำจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1540.25 จุด ลดลง 4.86 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มสื่อสารและพลังงานกลับช่วงท้ายตลาดทำให้ดัชนีมายืนในแดนบวกได้อีกครั้ง กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ที่ 1540.25-1549.66=9.41 จุด ดัชนีจะทำปิดที่ 1547.83 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด (+0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 30,299 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนี ยังคงพักตัวต่อเนื่องเพียงกรอบแคบ ๆ แค่ 9 จุด ด้วยการทำ High-Low ที่ต่ำลงจากวันก่อนหน้าพร้อมกับทำจุดต่ำที่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน (1545) แต่ช่วงท้ายตลาดมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันดัชนีให้กลับมายืนและปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันอีกครั้ง ทำให้สัญญาณเริ่มกลับมาดี โดยเฉพาะค่าของ MACD ที่กลับมายืนเหนือ Zero line ได้เป็นวันที่ 2 ถึงแม้ภาพโดยรวมของดัชนีจะไม่ลงแรง แต่ก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ ด้วยอิทธิพลของเส้นค่าเฉลี่ย 75//200 วันกดอยู่ ดังนั้นดัชนีจะน่าแกว่งตัวในกรอบ 1530-1550 จุด
กลยุทธ์ : รอซื้อที่แนวรับ
Support 1520 // 1500 // 1480 จุด Resistance 1550 // 1560 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (10 เม.ย.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,547.83 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด หรือ 0.18% มูลค่าการซื้อขาย 30,299.10 ล้านบาท ดัชนีฯแกว่งในกรอบแคบจากการซื้อขายที่เบาบางเป็นวัสุดท้ายก่อนเข้าวันหยุดยาว และไมมีปัจจัยบวกที่จะเข้ามากระตุ้นให้นักลงทุนถือครองหุ้นข้ามวันหยุด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ -ในช่วง 10-15 เม.ย. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใน ดัชนี Dow Jones ปรับตัวสูงขึ้น 0.8% การเคลื่อนไหวในแต่ละวันไม่มากนัก ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญคือยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาด ทำให้ช่วงเวลาที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยถูกคาดว่าจะยืดออกไปอีก ด้านดัชนีตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1.2% เนื่องจากผลประกอบการและแนวโน้มเศรษฐกิจ และตอบรับผลบวกจากการประชุมธนาคารกลางยุโรปในคืนที่ผ่านมา ที่อาจยืดการใช้ QE หลังครบอายุเดือน ก.ย.ปีหน้าออกไปอีก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นทั้งสองโซน มีปัจจัยในเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและผลประกอบการเข้ามาช่วยหนุนตลาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI (May) ของสหรัฐฯ - ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $56.39 หรียญ/บาร์เรล สูงขึ้นจากราคาปิดของวันที่ 9 เม.ย. อยู่ $5.6 เหรียญ หรือ 11% เป็นผลจากเงินดอลล่าร์อ่อนค่า ปริมาณผลิตน้ำมันของสหรัฐฯลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการใช้แท่นผลิตน้ำมันของสหรัฐฯที่ลดลงด้วย (ตัวเลขใช้แท่นผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงจากปลายปีก่อน 50% แล้ว)
น้ำมัน- IEA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2558 จะขยายตัวมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากอุณหภูมิที่ลดลง และการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก
จีน- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า GDP จีนขยายตัว 7.0% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี แต่เท่ากับที่ประมาณการไว้ของปีนี้
เศรษฐกิจโลก- IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวปานกลาง 3.5% ในปี 2558 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือน ม.ค. และคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในปี 2559 จาก 3.4% ในปี 2557
ตลาดหุ้นไทย- กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยว่า ตลท. ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการสกัดการเก็งกำไร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการออก 3 มาตรการดูแลหุ้นที่มีการเก็งกำไรอย่างผิดปกติ โดยยังคงเหลืออีก 2 มาตรการที่ยังไม่ได้มีการบังคับใช้ และเชื่อว่าเพียงพอต่อการดูแลราคาหุ้นที่ผิดปกติ
ทิศทางตลาดหุ้นไทย แม้ตลาดจะขาดปัจจัยหนุนในประเทศที่ชัดเจน อีกทั้งสัปดาห์นี้จะมีการซื้อขายเพียง 2 วันเท่านั้น แต่ ด้วยปัจจัยบวกจากต่างประเทศ คือราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลายๆแห่งที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ จะหนุนให้ดัชนีฯเมื่อปิดตลาดมีโอกาสที่จะสูงขึ้นจากวันก่อน
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสองวันนี้ ยังเน้นลงทุนช่วงสั้นๆ ด้วยข่าวเฉพาะกลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนกลุ่มแรก เป็นกลุ่มกลุ่มที่จะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันและปิโตรเคมี (PTTEP, TOP , IVL , BANPU) ถัดมาก คือกลุ่มที่มีรายได้จากต่างประเทศ ที่ได้อานิสงค์จากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดีและรับผลบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ได้แก่ HANA , DELTA, CCET , TUF หุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งเริ่มมีการเก็งกำไรในเรื่องงบการเงิน Q1 ได้แก่ BBL, KTB , SCB และกลุ่มที่มีข่าวบวกอื่นๆ เช่น THCOM เป็นต้น
Stock in Focus :
CKP-: (ราคาปิด 17.50 บาท; ราคาที่เหมาะสมเฉลี่ยจาก Bloomberg 17.30 บาท) CKP เป็นหุ้นที่บริษัทในกลุ่ม CK ถือหุ้นรวมกัน 80% ธุรกิจหลักคือลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ผลิตแล้วตามส่วนผู้ถือหุ้น 347 MW (100% = 755 MW) ในปี 2557 บริษัทฯ รับรู้รายได้แบบเต็มปีของโรงไฟฟ้าหลักๆ 2แห่ง ทำให้มีกำไร 472 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 115% …. ช่วงปี 2558-59 จะยังไม่มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่นับตั้งแต่ปี 2560-61 กำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (จะเข้าถือหุ้น 30%) และโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น เฟส 2 (ถือหุ้น 65%) ซึ่งมีกำลังการผลิตตามส่วนของการถือหุ้นสองแห่งรวมกัน 464 MW เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 134% ด้านกำไร จะขยับขึ้นไปราวๆ 3 พันล้านบาทต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 6 เท่าตัว ซึ่งยังไม่รวมโรงไฟฟ้าอื่นๆที่ยังสร้างไม่เสร็จและกำไรเจรจาซื้อหุ้นอีกจำนวนหนึ่ง …. ราคาหุ้นปัจจุบัน อาจดูว่าสูง มี P/E ถึง 40 เท่า แต่เมื่อกำไรที่จะโตแบบก้าวกระโดดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะทำให้ค่า P/E ลดระดับลงมาต่ำกว่า 10 เท่า (หลังเพิ่มทุน RO) …. CKP จะมีการเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 0.34 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นเพิ่มทุน 3 บาท (ราคาพาร์ 1 บาท) และให้ warrant ควบกับหุ้นเพิ่มทุน 1 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 warrant ราคาใช้สิทธิแปลงเป็นหุ้นแม่ 6 บาท ขึ้น "XR" ในวันที่ 23 เม.ย.58 ส่วนวันที่จะมีการแตกพาร์ จาก 5 บาท เป็น 1 บาท มีผลในวันที่ 20 เม.ย.58
News Release :
KBANK-TMB กำไรสนั่น ทั้งกลุ่มหม่ำ4.76หมื่นล.รายได้ค่าฟีหนุน - BBL, KTB ขึ้น XD อาทิตย์หน้า
+ แบงก์ TMB แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/58 วันนี้ (16 เม.ย.) คาดกำไรเพิ่มเกือบ 40% ขณะที่ KBANK จะมีกำไรมากสุดในกลุ่มฯ เป็นครั้งแรกกว่า 1.22 หมื่นล้านบาท โบรกฯมองทั้งสองตัวเด่นสุดในกลุ่มธนาคาร ส่วนกำไรทั้งกลุ่มฯ จะอยู่ที่ 4.76 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 2.30% ส่วน BBL และ KTB จะขึ้น XD อาทิตย์หน้า(ข่าวหุ้น)
TTCL จ่อเซ็นอีก 6 พันล้านราคาเป้าหมาย 36.70 บาท
+ TTCL เตรียมเซ็นงานก่อสร้างโรงงานเคมีลาวมูลค่า 6,000 ล้านบาทไตรมาส 2/58 ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินเมียนมาร์รับรู้รายได้ปี 2559 ฟากโบรกเกอร์แนะนำ "ซื้อ" เป้าหมาย 36.70 บาท ตุนงานกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท ช่วยผลักดันรายได้ช่วง 3-4 ปีหน้า(ข่าวหุ้น)
TRC พ้นคุกแคชฯวันนี้ PLANB ขยายเวลาเพิ่ม
+ " TRC พร้อมเทรดสนั่นหลังหลุดเกณฑ์ Cash Balance วันนี้ ผู้บริหาร TRC ลั่นเตรียมเซ็นรับงานก่อสร้างถนน 1,200 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น "โปแตชอาเซียน" ไม่ต่ำกว่า 25% ส่วน PLANB ร้อนแรงไม่หาย เจอขยายเวลาเพิ่มไปจนถึงสิ้นเดือน(ข่าวหุ้น)
CPALL เป้า 54 บ.งบไตรมาส1แจ่มกำไรเพิ่มขึ้น 21%
+ CPALL ไตรมาส 1/58 ลุ้นกำไรสุทธิ 3,031 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% ได้ยอดขายโต แถมบุ๊คสาขาใหม่ เชื่อทั้งปี 58 กำไรสุทธิ 13,488 ล้านบาท เติบโต 32.8% พร้อมเชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 54 บาท(ข่าวหุ้น)
5 หุ้นเด่นหลังสงกรานต์ลุย SENA-PTG และ SAT
+ โบรกฯเปิดโผหุ้นเด่นหลังสงกรานต์ SENA-PTG-SALEE-CSS และ SAT น่าเก็บ ส่วนทิศทางดัชนีหุ้นไทยช่วง 2 วันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ (16-17 เม.ย. 58) คาดแนวต้าน 1,560 จุด แนวรับ 1,530 จุด หากดัชนีหลุด 1,530 จุด หุ้นไทยอาจมีการปรับฐานรอบใหม่(ข่าวหุ้น)
RICHY โค้งแรกรายได้โดดเด่น แบ็กล็อกทะลัก-ปั๊มกำไรแกร่ง
+ RICHY ฟุ้งผลงาน Q1/2558 ยังโดดเด่น หลังเร่งโอนกรรมสิทธิ์จาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 900 ล้านบาทได้ตามแผน มั่นใจรายได้ทั้งปีนี้ไม่พลาดเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,350 ล้านบาท จ่อเริ่มรับรู้รายได้โครงการริชพาร์ค@เจ้าพระยา มูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาท ตั้งแต่ Q3/2558 เป็นต้นไป ด้านโบรกเคาะราคาเป้าหมาย 3.80 บาท ส่องกำไรปี 2558-2559 เติบโตแข็งแกร่ง(ทันหุ้น)
'EPCO'ผลงานโตแรง3ปี ทุ่มงบฮุบโรงไฟฟ้า 100 MW
+ EPCO ติดปีกโชว์กำไรเทิร์นอะราวด์ 3 ปีซ้อน หลังทุ่มงบ 1 พันล้านบาท ลุยเดินหน้าเจรจาเทกโอเวอร์ และร่วมทุน หวังโกยค่าไฟเข้ากระเป๋า 100 เมกะวัตต์ พร้อมปั้นบริษัทย่อยเข้าตลาดซดกำไรก้อนใหญ่เต็มมือ ส่วนปี 2558 กำไรทำสถิติพุ่ง 30% หลังบุ๊กรายได้โรงไฟฟ้า 30 เมกกะวัตต์ ตั้งป้อมเจรจาโซลาร์ภาครัฐอื้อซ่า เปิดฉากซื้อพอร์ตไบโอแมสภาคใต้ มองต้าน 7.60 บาท(ทันหุ้น)
EPG โรดโชว์ฮ่องกง-สิงคโปร์ส่งซิกธุรกิจขาขึ้น-โบรกอัพเป้า
+ EPG เอ็มดี "เฉลียว วิทูรปกรณ์" เตรียมเก็บกระเป๋าบินโรดโชว์ สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐ กลางปีนี้ อวดธุรกิจแข็งโป๊กส่งซิกผลงานเจิดจรัสทุกหน่วยธุรกิจ แถมการเข้าเทก TJM หนุนผลงานอนาคตเติบโตก้าวกระโดดชัวร์พร้อมตั้งเป้างบปี 2558-2559 เติบโตทะลุ 10% จาก 6.5 พันล้านบาทในงวดปี 2556-2557 ฟากโบรกปรับเพิ่มราคา 10.80 บาท จากเดิม 10.00 บาท(ทันหุ้น)
TRC ดี๊ด๊าหลุดแคชบาลานซ์ ผลงานโตแรง-เป้า 13.20 บาท
+ TRC ดี๊ด๊าหลุดแคชบาลานซ์ พร้อมด้วย AIE-APCO-BGT-KCM-THANA และ TSF จับตาผลงาน TRC ปีนี้โตแรง กำไรโตไม่ต่ำกว่า 20% รายได้แตะ 3,900 ล้านบาท ตุนงานในมือกว่า 7,000 ล้านบาท ขณะที่เล็งประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 5-6 หมื่นล้านบาท มั่นใจได้รับงาน 50% ด้านโบรก แนะซื้อเป้า 13.20 บาท(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์