- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 10 April 2015 17:58
- Hits: 1777
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“สุขสันต์เทศกาลสงกรานต์”
เน้นซื้อ/ถือค่าบวก
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดทรงตัวที่ 1545.11 มูลค่าซื้อขายซบเซา โดยเป็นการเลือกซื้อ/ขายหุ้นเป็นรายบริษัทกระจายไปในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ และเน้นไปที่หุ้นขนาดเล็ก เห็นได้จาก MAI Index ที่บวกขึ้น 0.7% ขณะที่ SET50, SET100 และ SETHD Indexลดลง นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนก่อนวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ นักลงทุนสถาบันในประเทศ พอร์ตบล. และต่างชาติรายงานเป็นซื้อสุทธิแต่กลุ่มละไม่มาก ส่วนรายย่อยขายสุทธิ
ในต่างประเทศมีข่าวบวกเรื่องเศรษฐกิจประเทศเยอรมนี (พี่ใหญ่ในยูโรโซน) ฟื้นตัวดี OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็น +1.7% จากเดิม +1.1%ด้านกรีซก็ชำระหนี้ให้ IMF 458 ล้านยูโรไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาว่ากรีซจะได้รับเงินกู้ช่วยเหลือรอบใหม่หรือไม่ โดยทางกลุ่มเจ้าหนี้เร่งให้กรีซเสนอแผนปฎิรูปอีกรอบ ส่วนในประเทศ ไม่ได้มีประเด็นใหม่มาก แต่ปมปัญหา ICAO ผ่อนคลายลงไปบ้างหลังจากบางประเทศยืนยันไม่ระงับการบินของไทย เช่น จีน รวมทั้งรัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง สำหรับการ Preview กำไร 1Q58 บจ.จะคึกคักหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยรวมวันนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ในกรอบแคบก่อนหยุดยาว
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ โดยอาจมีรีบาวด์สั้นก่อนลงต่ำต่อ การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก SET และราคาหุ้น แนวต้านระยะสั้น 1550-1560, 1570 การอ่อนตัวต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ 1525 ดูไม่ดี ควรลดพอร์ตตาม
หุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high ที่อยู่ใน List ได้แก่ BEAUTY, IVL, DCC, CENTEL, TCC, BCP, S
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
•/- กรีซ : เมื่อ 9 เม.ย.58 ได้ชำระหนี้ครบกำหนดให้ IMF มูลค่า 458ล้านยูโรแล้ว ทางกลุ่มประเทศยูโรโซนยืนยันให้กรีซยื่นแผนปฎิรูปภายใน6 วันทำการเพื่ออนุมัติเงินกู้ช่วยเหลือรอบใหม่ ด้านกรีซกล่าวว่าจะขอเงินช่วยเหลือก่อนที่จะมีประชุมรมว.คลังวันที่ 24 เม.ย.58
+ เยอรมนี : OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP Growth ปีนี้เป็น
+1.7% (เดิม +1.1%) ทั้งนี้ยอดส่งออกเดือนก.พ.58 กลับมา +1.5% จากม.ค.ที่ -2.1% ด้านผลผลิตภาคอุตสาหกรรมก.พ. +0.2%MoM
• อังกฤษ : ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% เป็นไปตามคาด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้เป็นการประชุม BOE ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในวันที่ 7พ.ค. สำหรับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของอังกฤษนั้นถือว่ามีการเติบโตดีกว่ายูโรโซน นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบดต 3% แม้ว่าจะชะลอไปบ้างในช่วงต้นปีก็ตาม
• สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงานอ่อนกว่าคาดเล็กน้อย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุด 4 เม.ย.58 เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 281,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
+ จีน : ทางการอาจออกมาตรการช่วยธนาคารพาณิชย์เรื่องตัดหนี้เสีย แหล่งข่าวในวงการธนาคารกล่าวว่ากระทรวงการคลังของจีนกำลังศึกษามาตรการใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารในการตัดหนี้เสียภายหลังจากที่ทางการจีนได้เปิดโอกาสให้ธนาคารในประเทศสามารถตัดหนี้เสียในเงินกู้ขนาดเล็กมาแล้วเมื่อช่วงต้นปี 57 ทั้งนี้แม้ว่าหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์จีนที่รายงานออกมาจะต่ำที่ 1.25% ในสิ้นปี 57 แต่ก็เพิ่มขึ้นจาก 1.0% ในสิ้นปี 56 และขณะนี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น โดยดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 56.22 จุด หรือ
+0.31% ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 23.74 จุด หรือ +0.48% ดัชนี S&P500เพิ่มขึ้น 9.28 จุด หรือ +0.45% ตอบรับกรีซไชำระคืนเงินกู้ให้กับ IMFมูลค่า 458 ล้านยูโรแล้ว แต่การปรับขึ้นยังไม่มากเพราะตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย กลุ่มที่หนุนตลาด คือ พลังงาน กลุ่มที่ถ่วงเป็นค้าปลีก
+ สัญญาน้ำมันดิบรีบาวด์ โดย WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่56.57 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเป็นการรีบาวด์ทางเทคนิคหลังร่วงแรง ทั้งนี้ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากอุปทานที่สูง
- ราคาถ่านหิน NEX : ณ 9 เม.ย.58 ร่วงแรง 5.8 US$ เป็น 54.6US$/ตัน จากสัปดาห์ก่อนที่ 60.4 US$/ตัน โดยเป็นผลจากการตัดราคาของจีน และราคาที่ตกลงซื้อขายของ JPU ต่ำลง รวมทั้งอุปสงค์ถ่านหินในเอเชียและการนำเข้าของจีนที่อ่อนแอก็กดดันราคาด้วย (หมายเหตุ : NEX= Newcastle Export Index)
- สัญญาทองคำ COMEX ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ -0.79% ปิดที่1,193.60 ดอลลาร์/ออนซ์ (สัญญาส่งมอบมิ.ย.58)
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• ธปท.ยืนยันเศรษฐกิจไทยยังไม่ชะงักงัน แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อพิจารณาจากตัวเลขส่งออกที่ติดลบใน 1Q58 (ตลาดคาด -4%YoY)และเม็ดเงินลงทุนภาครัฐและเอกชนยังเข้าสู่ระบบไม่มาก อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยไม่ได้แย่กว่าประเทศอื่นในภูมิภาค เพราะส่งออกของมาเลเซีย,สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ ก็ติดลบเช่นกัน ส่วนประเด็นค่าเงินก็มีผลต่อการส่งออกไม่มาก เพราะมาเลเซียที่ค่าเงินอ่อน 3.6%YTD (ไทยแข็งค่า1%YTD) แต่ส่งออกก.พ.ของมาเลเซียก็ติดลบ 10% (ไม่รวมการส่งออกน้ำมัน) ดังนั้นจึงมองว่าการส่งออกที่ชะลอมาจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าซบเซาเป็นหลัก จับตาเศรษฐกิจไทย 2Q58 ว่าจะฟื้นดีขึ้นหรือไม่ ถ้ายังซบเซาต่อ ภาพรวมจีดีพีทั้งปี 58 ก็อาจโตไม่ถึง 3.8%
• นักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มเห็นว่าธปท.ควรใช้นโยบายการเงินผ่อนปรนเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจภายในซบเซาค่อนข้างมาก และอัตราเงินเฟ้อต่ำ ซึ่งการลดดอกเบี้ยได้แค่ไหนก็ต้องดูค่าเงินบาทด้วย ถ้าแข็งค่ากว่าภูมิภาคมากก็ปรับลงได้มาก
+ จีนยืนยันไม่ระงับเที่ยวบินไทย...อ่อนตัวเป็นจังหวะซื้อลงทุน AAVทั้งที่เป็นเที่ยวบินในเส้นทางประจำและเส้นทางแบบเช่าเหมาลำ หลังจากไทยไม่ผ่านมาตรฐานการกำกับการบินของ ICAO ซึ่งส่วนนี้ยืนยันว่าผลกระทบต่อ AAV นั้นจำกัด (โดย AAV มีเที่ยวบินแบบประจำไปจีน แต่ไม่มีแบบเช่าเหมาลำ บริษัทมีแผนขอขยายเส้นทางการบินไปจีนช่วง4Q58 ซึ่งคาดว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายลงแล้ว) และผลประกอบการปี 58 พลิกฟื้นเป็นกำไรได้ดี ประมาณการไว้ที่ 1.6 พันล้านบาท ทั้งนี้ 1) เที่ยวบินที่ไปจีนของบริษัทยังเดินหน้าได้ปกติ, 2) บริษัทไม่มีเที่ยวบินไปประเทศที่ถูกระงับ เช่น เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยในส่วนนี้ดำเนินการโดยไทยแอร์เอเซียเอ็กซ์ ที่เป็นบริษัทร่วมทุนของแอร์เอเซีย มาเลเซีย และผู้ลงทุนไทยและ 3) ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง เชิงกลยุทธ์ การอ่อนตัวของราคาหุ้นเป็นจังหวะซื้อลงทุนใน AAV ให้ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท
LPN : จะพัฒนาที่ดินสำนักงานทรัพย์สินฯย่านซอยไผ่สิงโต (ฝั่งถนนรัชดาภิเษก) ใกล้ MRT สถานีศูนย์ประชุมสิริกิติ์ บนพื้นที่ประมาณ 600ตารางวา พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมตามแนวคิดชุมชนน่าอยู่ของบริษัทสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี+ต่ออายุ 30 ปี ราคา 1.3-1.4 ล้านบาท/ยูนิต
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]