- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 April 2015 17:02
- Hits: 1048
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มอ่อนแรง คาดมีลุ้นพักตัวลงได้ ดังนั้นน่ารอซื้อช่วงลบ!
กลยุทธ์ : SET บวกต่อเนื่องขึ้นเร็วและแรงพอควรแล้ว ทำให้ต้องระวังแรงขายกดดันให้มีจังหวะปรับพักตัวลงก่อนไว้ด้วย ดังนั้นจังหวะซื้อเรายังแนะนำให้รอช่วงลบดีกว่า และถ้าเทรดดิ้งตามรอบอยู่สามารถดูจังหวะทำกำไรช่วงบวกบ้างเพื่อลดความเสี่ยง นอกจากเป็นส่วนลงทุนจึงจะเน้นถือต่อเนื่อง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TICON, MINT, KCE(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET เริ่มแกว่งผันผวนและมีจังหวะปรับตัวย้อนลบภายในกรอบแกว่งเดียวกับวันก่อนหน้า (7 เม.ย.) แสดงถึงแรงขายทำกำไรที่ยังมีออกมากดดันต่อเนื่อง หลังยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนนี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดเป็นบวกเล็กน้อยได้ จากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากรายงานการประชุมล่าสุดไม่มีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยให้เห็น แต่ดัชนีดาวโจนส์ก็ไหลลงจากการบวกขึ้นไปกว่า 100 จุดในช่วงต้นชั่วโมง โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แม้ว่าส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวกได้ต่อ แต่กรอบการขึ้นก็ถือว่าไม่ได้กว้างนัก และยังมีแรงขายกดดันให้ผันผวนอยู่บ้าง ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสแกว่งพักตัวลงก่อนได้ หลังจากที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายเดือนก่อน ดัชนีก็ขยับบวกต่อเนื่องขึ้นมาพอควรแล้ว อย่างไรก็ตามเราคาดว่ากรอบการปรับลงยังค่อนข้างจำกัด และมีสิทธิพลิกกลับไปขยับบวกต่อได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นยังเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวได้
แนวรับ 1542-1538 , 1536-1530 จุด
แนวต้าน 1548-1552 , 1555-1558 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$222.4 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$7.8 ล้าน และเวียดนาม US$2.8 ล้าน แต่ซื้อเกาหลีใต้ US$70.4 ล้าน ไทย US$61.8 ล้าน และ อินโดนีเซีย US$19.9 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ทรงตัว Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) รายงานการประชุม Fed เป็นบวกกับสินทรัพย์เสี่ยง เพราะมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจเป็น ก.ย. หรือ 3Q15 เป็นต้นไป ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังได้อานิสงส์จากคาดการณ์ว่าจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงที่ laggard กว่าตลาดหุ้นจีนและมี PE ที่ถูกกว่ามาก แต่วันนี้กลุ่มพลังงานอาจถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลงแรงกว่า US$3/บาร์เรลจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งสูงขึ้น
(0) คาดกำไรกลุ่มแบงก์ 1Q15 เพิ่ม 8% Q-Q และ 6% Y-Y กำไรที่เพิ่ม Q-Q เพราะค่าใช้จ่ายลดตามฤดูกาลและการตั้งสำรองลดลง ที่เพิ่ม Y-Y เพราะรายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม แต่ถือว่าเป็นไตรมาสที่น่าผิดหวังเพราะการลงทุนมาช้ากว่าคาด ทำให้สินเชื่อ (ไม่รวม BTMU) น่าจะลดลง 0.5% YTD และการลดอัตราดอกเบี้ยจะกระทบ NIM ใน 1Q15-2Q15 ก่อนหน้านี้เราปรับประมาณการกำไรกลุ่มแบงก์ปีนี้ลงแล้ว แต่ราคาหุ้นก็ได้ปรับลงสะท้อนไปแล้วบางส่วน ทำให้ PBV ล่าสุดอยู่ที่ 1.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 1.6 เท่า จึงยังให้น้ำหนัก Overweight แนะนำค่อยๆทยอยสะสม Top pick ยังเป็น KBANK (ราคาเป้าหมาย 260 บาท) และ KTB (เป้าหมาย 26.80 บาท) สำหรับการเก็งกำไรผลประกอบการในระยะสั้น KBANK และ TMB (เป้าหมาย 3.40 บาท) น่าสนใจที่สุด
(+) จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตดีใน 1Q15 โฆษกกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเผยว่าในช่วง 1Q15 จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโต 23% Y-Y เป็น 7.8 ล้านคน คิดเป็น 28% ของคาดการณ์ทั้งปีของเราที่ 28 ล้านคน +13% Y-Y แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มท่องเที่ยวน่าจะโดดเด่นใน 1Q15 โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับฐานกำไรที่ต่ำใน 1Q14 ซึ่งมีผลของการเมืองเต็มไตรมาส เรายังคงน้ำหนัก Overweight โดย Top Pick เป็น ERW (เป้าหมาย 5.70 บาท) และ AAV (เป้าหมาย 6.90 บาท)
(0) การประมูล 4G อาจล่าช้ากว่ากำหนด หลังซุปเปอร์บอร์ด กสทช. เห็นว่าไม่ควรประมูลคลื่น 1800 MHz ใบละ 12.5 MHz เพราะจะมีเศษคลื่น 2.5 MHz ที่ใช้งานไม่ได้ และทั้ง 2 ใบอนุญาตจะถูกคั่นกลางด้วยคลื่นของ DTAC ที่จะหมดสัมปทานปี 2018 หากมีการจัดสรรคลื่นใหม่ การประมูล 4G จะล่าช้าไปถึง ม.ค.-ก.พ. 2016 จากที่กำหนดไว้ พ.ย.-ธ.ค.นี้ ADVANC อาจถูกกดดันมากสุดจากข่าวนี้แต่เรามองเป็นโอกาสในการซื้อ
(0) TUF เราคาดกำไรปกติ 1Q15 ลดลง 15% Q-Q จากราคาปลาทูน่าทรงตัวในระดับต่ำค่อนข้างนาน ทำให้ธุรกิจทูน่าแบรนด์มีการแข่งขันสูงขึ้น ขณะเดียวกันราคากุ้งอ่อนตัวจาก Supply ที่เพิ่มขึ้น แต่กำไรปกติจะกลับมาฟื้นตัวใน 2Q-3Q15 ตามฤดูกาล เรายังคาดกำไรปกติปีนี้โต 36% Y-Y บนสมมติฐานควบรวม Bumble Bee ตั้งแต่ 4Q15 ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนเพื่อซื้อ Bumble Bee แล้วและคาดว่าจะกำหนดสัดส่วนและราคาประมาณ พ.ค.-มิ.ย. และเพิ่มทุนแล้วเสร็จ ก.ค. เรายังคงราคาเป้าหมาย 25 บาท และยังคงแนะนำซื้อ แต่ราคาหุ้นในระยะสั้นจะยังถูกกดดันจากสัดส่วนเพิ่มทุนที่ยังไม่ชัดเจนและกำไรที่ไม่ดีนักใน 1Q15
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้โดยนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้เช่นกันโดยได้รับแรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการของรอยัล ดัทช์ เชลล์กับบีจี กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นดีลครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมพลังงาน
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดในแดนบวกนำโดยตลาดหุ้นฮ่องกง
ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิมในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดที่ 50.42 เหรียญ/บาร์เรล ร่วงลง 3.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,203.10 ดอลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.50 เหรียญ/ออนซ์ โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ FED จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือน มี.ค. ซึ่งออกมาหลังจากตลาดปิดทำการ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 เม.ย. - ฟิลิปปินส์: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- สหรัฐ: รายงานการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 17-18 มี.ค. 2015
10 เม.ย. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.), ยอดสินเชื่อ (มี.ค.)
- สิงคโปร์: 1Q15 GDP
13 เม.ย. - จีน: ดุลการค้า (มี.ค.)
14 เม.ย. - อินเดีย: ตลาดการเงินปิดทำการ
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (มี.ค.
- ยูโรโซน: Industrial Production (ก.พ.)
15 เม.ย. - จีน: 1Q15 GDP, ยอดค้าปลีก (มี.ค.)
- ยูโรโซน: ดุลการค้า (ก.พ.), ECB ประชุม
16 เม.ย. - สหรัฐ: Beige Book, Housing starts & Building permits (มี.ค.)
17-23 เม.ย. - ไทย: กลุ่มธนาคารทยอยประกาศผลประกอบการ 1Q15
17 เม.ย. - สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
20 เม.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (มี.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research