- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 June 2014 14:03
- Hits: 2620
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มแกว่งพักตัวลงต่อเนื่อง..ให้เป็นโอกาสได้ทยอยซื้อช่วงลบแล้ว!!
กลยุทธ์ : เนื่องจากเราคาดว่า SET จะยังแกว่งพักตัวลงอีกสักพัก ก่อนที่จะกลับไปเป็นขาขึ้นรอบใหม่ได้ในช่วงหน้า ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นจังหวะในการเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อช่วงลบได้ โดยใช้วิธีทยอยตั้งรับ แต่หลังจากซื้อแล้วให้เน้นเป็นถือลงทุน หรือเทรดดิ้งกรอบกว้าง ส่วนถ้าจะจับจังหวะเข้าเทรดดิ้งช่วงสั้นลุ้นรีบาวด์แนะนำให้รอแถว 1440 จุดหรือใกล้เคียงดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : RML, TCC, TUF(buy back)
แนวโน้ม : SET ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขายวานนี้จะมีจังหวะบวกขึ้นเล็กน้อยให้เห็นอยู่อีกก็ตาม แต่กรอบการขึ้นเริ่มลดระดับลงและสุดท้ายยังย้อนลงมาปิดที่ระดับต่ำสุดของวัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีจังหวะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงลงบ้าง หลังตลาดหุ้นไทยขยับบวกขึ้นมามากพอควร โดยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน ซึ่งตลาดหุ้นต่างประเทศในระยะหลังก็จะมีลักษณะการเคลื่อนไหวอ่อนแอคล้ายคลึงกัน ก่อนที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศยิ่งแย่ลงอีก หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับสูงขึ้น รวมทั้งยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรักด้วย ทำให้ FSS ยังคงคาดว่า SET จะอยู่ในช่วงแกว่งพักตัวลงต่อเนื่องอีกสักพัก ก่อนที่จะกลับไปแกว่งขึ้นรอบใหม่ในช่วงหน้า ดังนั้นจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อเฉพาะช่วงตลาดเป็นลบในลักษณะทยอยเข้ารับเช่นเดิม
แนวรับ 1454-1450 , 1447-1442 จุด แนวต้าน 1460-1462 , 1466-1470 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบางมาก โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$52.6 ล้าน เวียดนาม US$1.9 ล้าน และเกาหลีใต้ US$0.3 ล้าน แต่ขายสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$37.4 ล้าน และไทย US$4.7 ล้าน ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์หยุดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) รื้อโครงการน้ำใหม่ การประชุมการบริหารจัดการน้ำบ่ายวานนี้ คสช.ให้จัดทำแผนบริหารน้ำขึ้นใหม่ให้ครอบคลุมการแก้ปัญหาทั้งระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว และต้องแก้ปัญหาได้จริง เอกชนที่ชนะประมูลไปแล้ว ไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐได้ เป็นข่าวลบต่อ ITD (ราคาเป้าหมาย 5.15 บาท) ที่ร่วมกับ China Power ชนะประมูลในโมดูล A1, A2, A4, B1 และ B3 วงเงินรวม 1.06 แสนล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเฉพาะในส่วนของ ITD คือ 5.03 หมื่นล้านบาท แต่ไม่กระทบกับคาดการณ์กำไรปกติและราคาเป้าหมายของเรา เพราะไม่ได้รวมโครงการน้ำในประมาณการ
(+) หุ้นที่เกี่ยวข้องกับบอลโลกเริ่มขยับ แต่ระวังตลาดพัก สถิติการจัดบอลโลก 5 ครั้งล่าสุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วงแข่งบอลโลกลดลงเฉลี่ย 4% จากในช่วง 1 เดือนก่อนหน้า ส่วน SET ปรับลงเฉลี่ย 2.3% ทั้งที่ปีอื่นๆ ช่วงเวลานี้ (มักจัดกลางปี) SET แกว่งออกไปในโทนบวกเล็กน้อย มีกลุ่มที่บวกสวนตลาดได้เพียง 2 กลุ่มคือกลุ่มบันเทิง +1.4% กลุ่มค้าปลีก 1.8% สำหรับฟุตบอลโลกปีนี้เริ่มแข่งตั้งแต่ 12 มิ.ย.-13 ก.ค. คาดว่าหุ้นที่จะได้ประโยชน์ซึ่งอาจเป็นประเด็นเก็งกำไรระยะสั้นได้แก่ CPALL, MINT, CENTEL, SINGER
(0) กทค.ปรับเกณฑ์ประมูลคลื่น 1800MHz (4G) หากจำนวนผู้เข้าประมูลน้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนใบอนุญาต ให้เลื่อนวันรับสมัครไป 30 วัน หากขยายวันแล้ว ยังไม่มีผู้ประมูลมาเพิ่ม กสทช.จะยืนยันเปิดการประมูลต่อไป แต่เราเชื่อว่าการประมูลครั้งนี้จะไม่มีปัญหาเหมือนการประมูล 3G ครั้งก่อนที่ผู้เข้าประมูลมี 3 รายเท่ากับใบอนุญาตที่มี 3 ใบ เพราะการประมูล 4G ครั้งนี้มีใบอนุญาต 2 ใบ (ใบละ 12.5MHz ราคาประมูลใบละ 11,600 ล้านบาท) และเชื่อว่าทั้ง 3 รายจะเข้าร่วมประมูล โดยที่ ADVANC มีความจำเป็นมากกว่ารายอื่นที่ต้องประมูลให้ได้เพราะสัมปทานปัจจุบัน 900MHz จะหมดในปี 2015 ส่วน DTAC เหลืออายุสัมปทาน 1800MHz ยาวกว่าคือสิ้นสุดในปี 2018
(+) TKT เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 3 บาทจาก 2.30 บาท จากการปรับ PBV ขึ้นจาก 1 เท่าเป็น 1.3 เท่า ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากถือ เพราะกำไรที่จะเริ่มฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ 3Q14 ทั้งจากอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัว และ TKT เองจะมีรายได้จากการขายแม่พิมพ์มากขึ้นในงวด 2H14 ซึ่งจะทำให้กำไรครึ่งปีหลังโตสูงกว่ากลุ่ม (การขายแม่พิมพ์มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงราว 20-25% ส่วนชิ้นส่วนพลาสติกที่มีกำไรขั้นต้น 14%) เราปรับกำไรสุทธิปี 2014 ขึ้น 25% เป็น 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% Y-Y พลิกจากปีก่อนที่หดตัว 52% Y-Y อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิ 2Q14 จะยังแย่ลง Q-Q และ Y-Y ตามฤดูกาล
(0) รายชื่อหุ้นที่จะนำเข้า-เอาออก SET50 และ SET100 เริ่มใช้ 2 ก.ค. - 31 ธ.ค. 2014 สำหรับ SET50 คาดว่าจะนำเข้ามาคำนวณใหม่ ได้แก่ KKP และ M ส่วนหุ้นเอาออกได้แก่ CK และ THAI สำหรับ SET100 หุ้นที่คาดว่าจะนำเข้ามาคำนวณใหม่ ได้แก่ ANAN, BJCHI, DEMCO, M, MC, MEGA, NOK, NYT, SUPER, THREL และ UMI ส่วนหุ้นเอาออกได้แก่ CHG, DCC, JMART, MBK, N-PARK, SC, SF, SSI, SVI, TASCO และ THRE ทั้งนี้ ตลาดฯจะประกาศรายชื่อกลางเดือน มิ.ย. นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงต่ออีก 109.69 จุด โดยนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงในอิรักที่รุนแรงมากขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาด
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในกรอบแคบๆ โดยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนออกมาตรงกับที่นักวิเคราะห์คาด โดยทำระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวลดลง โดยบรรยากาศการลงทุนเป็นลบจากสถานการณ์ตึงเครียดในอิรัก รวมถึงนักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. ของจีน
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.53 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. พุ่งขึ้น 2.13 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 106.53 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียดในอิหร่านซึ่งกดดันปัจจัยอุปทาน
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 12.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,274.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังการร่วงลงของตลาดหุ้นทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852