- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 April 2015 19:12
- Hits: 1728
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อรายตัวที่มีข่าวบวก”
Foreign Stock Market
DJIA : 17,763.24 65.06
NASDAQ : 4,886.94 6.71
S&P500 : 2,066.96 7.27
FTSE : 6,833.46 23.96
NIKEI : 19,312.79 277.95
HSKI : 25,275.64 192.89
FTSTI : 3453.75 6.73
FBKLCI : 1831.97 5.66
Exchange Rate
(PER US$) 01-Apr 1-Apr
Yen 119.70 119.74
Baht (On-Shore) 32.50 32.44
Euro 1.08 1.09
US Bond Yield 2.47 2.53
MR 3.67 3.65
SD 1.36 1.36
Oil Market
BRENT 57.10 54.95
NYMEX-Crude Light 50.09 49.14
Gold & Silver Market
Gold-Comex 1208.20 1200.90
Silver-Comex 17.06 16.70
Baltic Dy Index
Baltic Dry Index 596.00 588.00
SET50 Futures Trading Vol (Contacts)
02-Apr Long Short Net
Institution 15,602 23,584 -7,982
Foreign 17,611 13,223 4,388
Customer 46,141 42,547 3,594
Trading Activities (Btm)
02-Apr Buy Sell Net
Institution 6,508 3,568 2,941
Prop Trade 5,568 4,833 735
Foreign 11,938 11,183 755
Customer 22,883 27,313 -4,430
Apr-15 (MTD)
Institution 11,261 5,925 5,336
Prop Trade 11,465 8,882 2,583
Foreign 19,794 21,194 -1,401
Customer 45,007 51,526 -6,518
Jan-Current (YTD)
Institution 295,231 286,067 9,163
Prop Trade 282,383 281,996 387
Foreign 648,979 659,936 -10,957
Customer 2,177,453 2,176,046 1,407
Top Net Buy (Btm)
1 CLSA 1,550
2 JPM 554
3 CNS 469
Top Net Sell (Btm)
1 KSS -914
2 FSS -774
3 RHBOSK -586
Top Active
Closed %Chg
1 PTT 328.00 1.23
2 ADVANC 246.00 2.07
3 IRPC 4.46 1.83
Top Picks–Fund
April 2015 :Fundamental : BTS, INTUCH,KBANK, RATCH, TRUEIF Dark
Horse: GL, SYNTEC
Top Picks -
Fund Today:
IVL
Top Picks-High
Div Yield :ADVANC, INTUCH, BTS, DCC,DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP,MODERN, TCAP, TISCO, TMT,BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : BH 16% STA 11% AOT 10%THCOM 8% DELTA 8%
Technical View ไม่ขาย ก็ต้องตามค่าบวกเท่านั้น
Support Resistance Stop loss
SET 1480,1460 1540,1550 หลุด 1510
SET50 980-970 1020-1030 หลุด 1000
Top Picks-Tech
Today:
DCC, SEAFCO, ADVANC, TOP,IVL, CSS, CENTEL, CWT
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อ 6.65 จุด ปิดที่ 1532.23 นำโดยหุ้นขนาดเล็กและหุ้นปันผลสูง เห็นได้จาก MAI Index และSETHD ที่ ปรับขึ้น 1.2% ขณะที่ SET บวกขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากกระแสข่าวว่าทางการอาจจะผ่อนคลายกฎ Trading Alert ประกอบกับมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมีหลังธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q58 นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2.9 พันล้านบาท นักลงทุนต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิกลุ่มละ 700 กว่าล้านบาท ส่วนรายย่อยขายสุทธิ
สำหรับวันนี้ข่าวที่เป็น Highlight เป็นเรื่องอิหร่านและชาติมหาอำนาจสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการจำกัดศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านหลังจากการที่การเจรจาดำเนินไปเป็นเวลาหลายวันก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง เพราะอิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ทองคำร่วงลง แต่ดาวโจนส์ปรับเพิ่ม อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี ไม่ว่าจะเป็นการขาดดุลการค้าที่ต่ำกว่าคาด และการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลง ระยะสั้นจึงคาดว่าจะยังเป็นบวกกับดัชนีฯตลาดหุ้นบ้านเราให้มี momentum ไปต่อได้ในระยะสั้น ส่วนตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเราเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ อย่างไรก็ตามยังวางใจเรื่องการที่ SET จะเดินหน้าปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ได้ เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกที่เด่นชัด ทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ ด้านต่างประเทศ ข่าวเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯคอยกดดันเป็นระยะๆ ก่อนปรับขึ้นจริง 3-6 เดือน ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังรอข่าวเรื่องการเร่งใช้จ่ายจากภาครัฐ และผลสะท้อนข่าวดีเรื่องยกเลิกกฎอัยการศึก ได้รับรู้ไปพอควรแล้ว จากนี้ไปต้องรอพิจารณาการใช้มาตรา 44 ว่าจะสัมฤทธิ์ผลขนาดไหน คาดว่าตลาดฯยังให้ความสนใจตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะทราบผลคืนนี้ สรุปคือ วันนี้อาจต้องระมัดระวันแรงขายทำกำไรก่อนหยุดยาว 3 วัน นั่นคือหาก SET ไปต่อ คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะๆ โดยในระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่งในกรอบ 1480-1550 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่แนะนำเดือน เม.ย.58 เน้นไปยังหุ้น defensive ได้แก่ BTS, INTUCH, KBANK, RATCH, TRUEIF Dark Horse: GL, SYNTEC
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวแบบลุ้นรีบาวด์สั้นๆ แล้วลงต่ำตามมาได้ ให้กรอบแนวต้านไว้ที่ 1,540-1,550 จุด โดยเน้นการซื้อตามค่าบวกของราคาหุ้นและตลาด การอ่อนตัวต่ำกว่า 1,510 ให้ลดพอร์ตตาม เพราะมีโอกาสลงไปที่ Low เดิม 1480 หรือทำ New Low
สำหรับหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New High ที่ยังอยู่ใน List คือ BEAUTY, MALEE, MAJOR ส่วนหุ้นเข้ามาใหม่ เป็น ADVANC, IVL,DCC, TOP, CENTEL และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ BANPU, MCS, ITD, GUNKUL หุ้นที่ตัดออกจาก List คือ BLA
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+/- อิหร่าน: บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นจำกัดโครงการนิวเคลียร์อิหร่านมีรายงานว่าอิหร่านและชาติมหาอำนาจสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการจำกัดศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากการที่การเจรจาดำ เนินไปเป็นเวลาหลายวัน ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังประกาศว่าจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์คาดว่า อิหร่านอาจจะเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ 1ล้านบาร์เรลต่อวัน หากชาติตะวันตกตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเราเห็นว่าปัจจัยที่เป็นบวกคือ ลดความขัดแย้งกัน แต่เป็นปัจจัยลบกับราคาน้ำมัน อาจกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานบ้านเราได้
- น้ำมันดิบ: ปรับลงสะท้อนข่าวอิหร่าน สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับลง 95 เซนต์ ปิดที่ 49.14 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 2.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.95 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกทั้ง EIAรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 มี.ค. พุ่งขึ้น4.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 471.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล
+ ดาวโจนส์: กลับมาปรับเพิ่มขึ้นได้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,763.24 จุด เพิ่มขึ้น 65.06 จุด หรือ +0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,886.94 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด หรือ +0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่2,066.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.27 จุด หรือ +0.35% ขานรับข่าวชาติมหาอำนาจและอิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งปรับตัวลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี
+สหรัฐ: ยอดขาดดุลการค้า ก.พ.58 สดใสขึ้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนก.พ.ลดลงสู่ระดับ 3.544 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 ซึ่งสะท้อนถึงการนำเข้าที่ลดลงมากกว่าการส่งออก
+สหรัฐ: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค.ลดลง 20,000 ราย อยู่ที่ 268,000 ราย ซึ่งใกล้เคียงระดับต่ำที่สุดในรอบ 16 ปี นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 285,000 ราย
• สหรัฐ: ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในวันนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 248,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 295,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.
-ทองคำ: ปรับลดหลังมีข่าวอิหร่านและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ระดับ 1,200.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
- ไทย : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.58 อยู่ที่ 77.7 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 9 เดือน โดยหลักมาจากเศรษฐกิจซบเซา ขณะที่สถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น ด้านดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 67.1 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 72.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 94.0 ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจฯมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุความเชื่อมั่นผู้บริโภค 2Q58 จะฟื้นไม่มาก แต่คาดว่าจะดีขึ้นใน 2H58 ซึ่งขึ้นกับการเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ
+ INTUCH : ลงทุนเพิ่มในธุรกิจชอปปิ้ง โดยร่วมทุนกับบริษัทฮุนไดโฮมช็อปปี้ เน็ตเวิอร์ค คอร์ปอเรชั่น ของเกาหลีตั้งบริษัทไฮ ชอบปิ้ง จำกัด ทางINTUCH ถือหุ้น 51% และฮุนไดฯถือ 49% ใช้เงินลงทุนในส่วนของ INTUCH255 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้า & บริการผ่านสื่อหลายช่องทางได้แก่ TV, โทรศัพท์มือถือ, อินเตอร์เน็ตผ่าน PC และสมาร์ทโฟน, สิ่งพิมพ์, แคตาล็อก เป็นต้น ในด้านสินค้าจะนำมาจากเกาหลี และประเทศอื่นๆ
ความเห็น Retail Research : นับเป็นก้าวที่ดีของบริษัท (จากก่อนหน้าเพิ่งประกาศลงทุนในธุรกิจเกมผ่านสมาร์ทโฟน) ซึ่งการจำหน่ายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนคาดว่ามีแนวโน้มเติบโตสูงมาก ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้า & บริการในช่องทางนี้มากขึ้น ขณะที่ฮุนไดฯเองก็มีประสบการณ์ในการทำตลาดในจีน และเวียดนามมาแล้ว จึงไม่น่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย เรามองว่า INTUCH มีนโยบายเชิงรุกในการลงทุนมากขึ้น และเชื่อว่าการลงทุนใหม่ๆ จะช่วยต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่เดิมและก่อให้เกิด Synergies มากขึ้น เรายังคงแนะนำซื้อ INTUCH ให้ราคาพื้นฐาน 90 บาท (ยังไม่รวมธุรกิจใหม่) คาดการณ์ Dividend Yield ปีนี้ 6%
+ อุตสาหกรรมการบินไทย: ลุ้นบพ.ญี่ปุ่นยอมไทยปลดล็อคห้ามบินนายกรัฐมนตรีจะออกทีวีเช้าวันที่ 3 เม.ย. แถลงเรื่องปัญหาถูกห้ามบินไปญี่ปุ่น เฉพาะเช่าเหมาลำ ด้านการลงนามเอ็มโอยูไทย-ญี่ปุ่นเจอโรคเลื่อนกรมการบินพลเรือนลุ้น ปลดปมการบินศุกร์นี้ "ประจิน" สั่งเร่งยกเครื่ององค์กรใหม่หวังทันเส้นตาย 60 วัน ชี้ไทยกำลังถูกแขวนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางทางอากาศ เราคาดว่าหากญี่ปุ่นยอมปลดล็อคชั่วคราว ก็จะเป็นข้อดีกับหลักทรัพย์สายการบินไทย เช่น AAV, NOK, THAI, BA รวมทั้งหลักทรัพย์เกี่ยวกับท่องเที่ยวต่างๆ เช่น AOT, MINT, CENTEL
+ BECL: ที่ประชุมผู้ถือหุ้นโหวตผ่านควบรวมกิจการ จะมีการเรียกประชุมร่วมทั้งสองบริษัทภายใน ก.ค.58 นี้ คาดกันว่าหุ้นใหม่หลังควบรวมจะเริ่มซื้อขายได้ประมาณ ส.ค.58 นี้ และมีโอกาสเข้าคำนวณ SET50
ความเห็น Retail Research : ผลกระทบกับ BECL ในระยะสั้นคือ มีโอกาสจะจ่ายปันผลได้น้อยลง เมื่อรับผลขาดทุนจาก BMCL เข้ามา แต่จะดีในระยะกลางถึงยาว มีโอกาสจะเติบโตในผลกำไรได้ เมื่อการบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง เริ่มเปิดให้บริการ ซึ่งเป็นประมาณปลายปี 59 ส่วนการแก้ปัญหาปันผลน้อยลงคือ เปิดนโยบายจ่ายปันผลให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ในกรณีผลการดำเนินงานไม่ดี ก็สามารถขายเงินลงทุนใน TTW และ CKP บางส่วนมาช่วยบรรทัดสุดท้ายในงบได้ คงคำแนะนำ ซื้อ BECL ราคาพื้นฐาน 42.90 บาท
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : Tel 7835
[email protected]