- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 April 2015 17:00
- Hits: 1735
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือต่อ (Trim/Stop ถ้าต่ำกว่า 1510)'
Foreign Stock Market
DJIA : 17,698.18 -77.94
NASDAQ : 4,880.23 -20.66
S&P500 : 2,059.69 -8.20
FTSE : 6,809.50 36.46
NIKEI : 19,034.84 -172.15
HSKI : 25,082.75 181.86
FTSTI : 3447.02 0.01
FBKLCI : 1826.31 -4.47
Exchange Rate
(PER US$) 31-Mar 1-Apr
Yen 120.02 119.70
Baht (On-Shore) 32.52 32.50
Euro 1.07 1.08
US Bond Yield 2.53 2.47
MR 3.71 3.67
SD 1.37 1.36
Oil Market
BRENT 55.11 57.10
NYMEX-Crude Light 47.60 50.09
Gold & Silver Market
Gold-Comex 1183.20 1208.20
Silver-Comex 16.60 17.06
Baltic Dy Index
Baltic Dry Index 602.00 596.00
SET50 Futures Trading Vol (Contacts)
01-Apr Long Short Net
Institution 26,576 28,610 -2,034
Foreign 20,898 9,519 11,379
Customer 48,030 57,375 -9,345
Trading Activities (Btm)
01-Apr Buy Sell Net
Institution 4,753 2,357 2,395
Prop Trade 5,897 4,049 1,848
Foreign 7,856 10,011 -2,155
Customer 22,124 24,212 -2,088
Apr-15 (MTD)
Institution 4,753 2,357 2,395
Prop Trade 5,897 4,049 1,848
Foreign 7,856 10,011 -2,155
Customer 22,124 24,212 -2,088
Jan-Current (YTD)
Institution 288,722 282,499 6,223
Prop Trade 276,815 277,163 -348
Foreign 637,041 648,753 -11,712
Customer 2,154,570 2,148,733 5,837
Top Net Buy (Btm)
1 SCBS 521
2 CS 423
3 CLSA 266
Top Net Sell (Btm)
1 KS -567
2 UBS -546
3 UOBKHST -458
Top Active
Closed %Chg
1 TRUE 13.00 4.00
2 JAS 5.65 -1.74
3 AOT 291.00 3.93
Top Picks–Fund
April 2015 :
Fundamental : BTS, INTUCH,KBANK, RATCH, TRUEIF Dark
Horse: GL, SYNTEC
Top Picks -
Fund Today:SYNTEC
Top Picks-High
Div Yield :ADVANC, INTUCH, BTS, DCC,DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP,MODERN, TCAP, TISCO, TMT,BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : THCOM 38%, VGI 33%, QH21%, ROBINS 20%, STA 17%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นบวก แต่ต้องระวังการแกว่งตามมา
Support Resistance Stop lossSET 1480,1460 1530-40,1550 หลุด 1510SET50 980-970 1020-1030 หลุด 1000
Top Picks-Tech
Today :GL, TPIPL, ITD, GUNKUL,BIGC, CBG, MCS, CWT
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้น 19.64 จุด ปิดที่ 1525.58 โดยความวิตกเกี่ยวกับปมปัญหา CIAO ผ่อนคลายลงหลัง JCABของญี่ปุ่นผ่อนปรนให้เที่ยวบินประจำและเช่าเหมาลำเข้าญี่ปุ่นได้อีก 2 เดือนแต่ต้องตรวจสายการบินจากไทยทุกเที่ยว รวมถึงการยกเลิกกฎอัยการศึกและการออก Trigger Fund ของสถาบันในประเทศ
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อหลักมาจากแรงซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ราคาลดลงมามาก แต่หุ้นขนาดใหญ่ปรับขึ้นไม่มาก (เห็นได้จาก MAI Index ที่ปรับขึ้นOutperform ชัดเจน) และนักลงทุนต่างชาติสบโอกาสพลิกเป็นขายสุทธิ 2.16 พันล้านบาท นอกจากนั้นตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่สำรวจโดยADP ออกมาน้อยกว่าคาด ทำให้กังวลว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรมี.ค.ที่จะออกมาวันศุกร์นี้จะต่ำกว่าที่ประเมินไว้หรือไม่ โดยเรามองว่าถ้าตัวเลขต่ำกว่า 2 แสนตำแหน่งหรือมากกว่า 3 แสนตำแหน่งจะเป็นลบ (ตัวเลขต่ำก็วิตกเศรษฐกิจชะลอ ตัวเลขสูงก็กลัวเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว) แต่ถ้าอยู่ในระดับ2.5+/- ตำแหน่ง (เดือนก.พ.อยู่ที่ 295,000 ตำแหน่ง) จะค่อนไปทางบวก สำหรับเรื่องดอกเบี้ยเฟด คาดว่าจะเข้ามากดดันเป็นระยะก่อนการปรับขึ้น 3-6เดือน ซึ่งเป็นนโยบายของเฟดที่จะทำให้ตลาดปรับตัวและไม่ Surprise เมื่อดอกเบี้ยขึ้นจริง โดยภาพรวม ในระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่งในกรอบ1480-1550 จุด สำหรับการลงทุนในเดือนเม.ย.58 เราเน้นไปยังหุ้น Defensive โดย Top Picks เดือนนี้เป็น BTS, INTUCH, KBANK, RATCH, TRUEIFและ Dark Horse คือ GL, SYNTEC
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดโดยรวมพลิกเป็นบวก แต่ยังไม่ทิ้งแกว่งและลงต่ำต่อ ให้กรอบแนวต้านไว้ที่ 1530-1540, 1550 จุด โดยเน้นการซื้อตามค่าบวกของราคาหุ้นและตลาด การอ่อนตัวต่ำกว่า 1510 ให้ลดพอร์ตตาม เพราะมีโอกาสลงไปที่ Low เดิม 1480 หรือทำ New Lowสำหรับหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New High ที่ยังอยู่ใน List คือ BEAUTY, MALEE, BLA, MAJOR ส่วนหุ้นเข้ามาใหม่ เป็นBANPU, MCS, ITD, GUNKUL และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ TTCL, DELTA, AP, PTG, TPIPL
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงต่อแต่น้อยกว่าวันก่อนหน้า โดยดัชนี DJIA ปิดลดลง 77.94 จุด หรือ -0.44% ดัชนี NASDAQ ลดลง 20.65 จุด หรือ -0.42% ดัชนี S&P500 ลดลง 8.20 จุด หรือ -0.40% ปัจจัยกดดัน คือตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่น้อยกว่าคาด
- สหรัฐ : การจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มน้อยกว่าคาด ผลการสำรวจของADP ระบุว่าภาคเอกชนของสหรัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 189,000 รายในเดือนมี.ค. 58 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.58 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ราย ซึ่งข้อมูลนี้ทำให้ตลาดจับตาว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ที่จะออกในวันศุกร์นี้จะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 248,000 ตำแหน่งหรือไม่ (เดือนก.พ.58 จ้างงานเพิ่ม 295,000 ตำแหน่ง)
- สหรัฐ : ดัชนีภาคการผลิตมี.ค.58 ของ ISM ลดลง ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่าดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 51.5 ลดลงจากระดับ 52.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากยอดสั่งซื้อชะลอตัว
•/- สหรัฐ : เฟดแอตแลนตาคาดธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.ปีนี้ ทั้งนี้แม้ว่าเศรษฐกิจใน 1Q58 จะเติบโตชะลอตัวลง แต่คาดว่าจะขยายตัวแกร่งในระยะต่อไป ซึ่งความเห็นนี้สอดคล้องกับเฟดสาขาริชมอนด์
+ สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังปริมาณการผลิตน้ำมันสหรัฐลดลง โดยWTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.09 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ปรับขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.1 ดอลลาร์/บาร์เรลหนุนโดยรายงานของ EIA ที่ระบุว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 มี.ค.ของสหรัฐลดลง 36,000 บาร์เรล สู่ระดับ9.386 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.58และเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐ ณ วันที่ 27 มี.ค. ลดลง 21 แห่ง สู่ระดับ 1,048 แห่ง
• แต่...ระยะทางของการปรับขึ้นของน้ำมันยังจำกัด เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นต่ออีก 4.8 ล้านบาร์เรล (สิ้นสุด 27 มี.ค.58) เป็น471.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงมีโอกาสที่อิหร่านจะส่งน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันถ้าชาติตะวันตกผ่อนคลายการคว่ำบาตร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นอย่างจำกัด(อังกฤษ, จีน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหรัฐ, เยอรมนี และอิหร่าน เดินหน้าเจรจาประเด็นนิวเคลียร์อิหร่านต่อในวันนี้ ในเบื้องต้นมีข่าวว่าอิหร่านยอมรับเรื่องการลดขนาดโครงการสร้างเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม แต่ยืนยันจะวิจัยและพัฒนาการปั่นเหวี่ยงแยกสารความเร็วสูงต่อไป)
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบมิ.ย.พุ่งขึ้น 25 ดอลลาร์ หรือ2.11% ปิดที่ 1,208.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• Wealth Perspective–เมษา : เลือกซื้อโดยเน้นไปยังหุ้น Defensiveในเดือนนี้จะมีการทำ Preview ผลประกอบการ 1Q58 ของบจ.ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการซื้อขาย แต่คาดว่ามีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับลดคาดการณ์กำไรในบางกลุ่มที่อิง Domestic Demand นอกจากนั้นการเปิดประมูล4G ทำให้หุ้นกลุ่มสื่อสารคึกคักขึ้น แต่เห็นว่ายังสร้างมูลค่าเพิ่มแท้จริงไม่มากในระยะแรก เพราะมีค่าเสื่อมราคาจากการลงทุนสูง และธุรกิจก็แข่งขันมากด้วย การขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือนเม.ย.58 มีผลต่อ SETIndex ราว 16 จุด (คำนวณจากเงินปันผลที่เป็นเงินสดและหุ้นปันผลที่ตีมูลค่าตามราคาตลาด) ความกังวลเรื่องเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเข้ามาเป็นระยะ นักลงทุนต่างชาติเหลือซื้อสุทธิในตลาดไทยเพียง 4.9 หมื่นล้านบาท(ตัวเลขสะสม 10 ปี) ทำให้ความเสี่ยงจากแรงขายมีน้อยลง เราประเมินSET Index Target ปี 58 เท่ากับ 1597 จุด (ให้สมมติฐาน EPS ตลาดปีนี้95.5) กลยุทธ์ : เลือกซื้อ โดยเน้นไปยังกลุ่ม Defensive โดยหุ้น Top Picksของเดือนเม.ย.58 คือ BTS, INTUCH, KBANK, RATCH, TRUEIF และหุ้นDark Horse เป็น GL, SYNTEC
• AIRA ลุยธุรกิจสินเชื่อรายย่อยผ่านบริษัทไอร่า แอนด์ ไอฟุล โดยบริษัทร่วมทุนนี้มี AIRA ถือหุ้น 30%, ไอฟูล คอร์ปอเรชั่นถือหุ้น 49% และนักลงทุนไทย 21% ซึ่งไอฟูลฯ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในญี่ปุ่นซึ่งคาดว่าบริษัทร่วมทุนนี้จะเริ่มดำเนินการปล่อยสินเชื่อในไทยตั้งแต่ 3Q58เป็นต้นไป (ขณะนี้อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตจากธปท. คาดว่าจะได้รับภายใน 1-2 เดือนจากนี้) ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปี 58 เท่ากับ 1 พันล้านบาทเปิดสาขา 20 แห่งในกระเทพฯและปริมณฑล เน้นลูกค้าระดับกลาง และขยายสินเชื่อเป็นไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า
ความเห็น Retail Research : เป็นบวกกับ AIRA ที่มีการขยายฐานธุรกิจการเงินออกไป ลดการพึ่งพิงธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีความผันผวน รวมทั้งน่าจะได้ประโยชน์เรื่องต้นทุนการเงินที่ต่ำจากญี่ปุ่นด้วย แต่ผลดีจากธุรกิจใหม่ๆยังเข้ามาไม่มากในปีนี้ ทำให้หุ้นยังมี Valuation สูง โดยในปี 57 บริษัทมีรายได้รวม 863 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท (EPS : 0.02 บาท/หุ้น) มูลค่าหุ้นทางบัญชีเท่ากับ 0.41 บาท/หุ้น สำหรับปี 58 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้และกำไรไว้ที่ 15-20% ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E สูงกว่า 100 เท่า และ P/BV ประมาณ 8.4 เท่า ขณะที่เฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 19 เท่าและ 2.85 เท่า ตามลำดับ
• BJC : ที่ปรึกษาการเงินอิสระแนะให้ผู้ถือหุ้นโหวตคว่ำมติซื้อเมโทรเวียดนาม 100% เนื่องจากมีเงื่อนไขการเข้าทำรายการตามสัญญาลงทุนฉบับใหม่ที่มีความเสี่ยงและอาจเกิดผลลบต่อฐานะการเงิน ผลดำเนินงานและสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญได้ ซึ่งเงินลงทุนในเมโทรเวียดนามอยู่ที่ 2.36 หมื่นล้านบาท (รวมสิทธิการเช่าวงเงิน1.94 พันล้านบาทด้วย) ทั้งนี้เมโทร เวียดนามมีผลประกอบการเป็นขาดทุนสุทธิ และอาจไม่สามารถพลิกฟื้นเป็นกำไรได้เร็ว ซึ่งจะกระทบกับกำไรและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของ BJC เมื่อมีการทำงบการเงินรวม
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]