- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 April 2015 15:36
- Hits: 1205
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook : Trading Range: 1,480-1,530
ยกเลิกกฎอัยการศึกหนุนการ Rebound เป้าหมาย 1,530/1,550 จุด: SET ปรับสูงขึ้น +0.63% ปิดที่ 1,505.94 จุด ด้วยปัจจัยหนุนจากความคาดหวังต่อการยกเลิกกฎอัยการศึก และใช้ ม.44 ในการควบคุมความสงบแทน อย่างไรก็ดีปริมาณการซื้อขายไม่สนับสนุนที่ 3.6 หมื่นล้านบาทเท่านั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,032 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้นมีจังหวะ “ฟื้นตัว” ต่อ จาก 1) รอการยกเลิกกฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการ 2) การเข้าซื้อของ Trigger Fund 5-6 พันล้านบาท 3) ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวในเดือน ก.พ. ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อหนุนสภาพคล่องในประเทศ 4) ญี่ปุ่นให้เวลา Charter Flight บินเข้าญี่ปุ่นต่อไปอีก 2 เดือนหนุน AOT และสายการบิน และ 5) SET เกิดสัญญาณ Morning Star เป็นสัญญาณ “กลับตัว” ทางเทคนิค
“ซื้อ” AOT และ “เก็งกำไร” AAV: พอร์ตหลักรอยืนยันการ “ฟื้นตัว” ไปก่อนเนื่องจากปริมาณการซื้อขายยังไม่สนับสนุน และแนะนำ “ซื้อ” AOT หลังทดสอบแนวรับ 275 บาท ยังไม่หลุด ขณะที่ญี่ปุ่นผ่อนผันให้ Charter Flight บินเข้าประเทศต่อไปอีก 2 เดือน รอกรมการบินพลเรือนไทยปรับปรุงคุณภาพ เป็นจังหวะ “ซื้อ” รวมไปถึง “เก็งกำไร” AAV ด้วยแนวต้าน 5.30
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BDMS, BLA, ICHI, KBANK, ROBINS, SAMART SCC และถือเงินสดในสัดส่วน 20% ของพอร์ต ต่อไป
AOT…มีโอกาส Rebound ได้ถึง 300 บาท ขณะที่ยังแนะนำ “ซื้อ” ทางพื้นฐานด้วยเป้าหมาย 380 บาท: AOT ปรับลดลงแรงเนื่องจากความกังวลต่อการประกาศยกเลิก Charter Flight บินเข้าประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เนื่องจากปัญหามาตรการความปลอดภัย อย่างไรก็ตามล่าสุดญี่ปุ่นผ่อนผันให้ Charter Flight สามารถบินเข้าประเทศได้ต่อไปอีก 2 เดือน รอกรมการบินพลเรือนแก้ไขปัญหามาตรฐานความปลอดภัยตาม ICAO ซึ่งเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นด้วยเป้าหมายการ Rebound บริเวณ 300 บาท (ดูกราฟหน้า Tactical Portfolio) ขณะที่ทางพื้นฐานยังแนะนำ “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐานที่ 380 บาท
BLA…ค่าเบี้ยประกันเติบโต 12.1% ในเดือน ม.ค.: BLA รายงานเบี้ยประกันเติบโต 12.1% y-y ในเดือน ม.ค. มากกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 9.5% และส่งผลให้ Market Share เพิ่มเป็น 13.7% แนะนำ “ซื้อ” BLA ต่อเนื่องด้วยเป้าหมายพื้นบาน 65 บาท จากแนวโน้มกำไรเติบโตแกร่ง 92% ปีนี้ และ 35% ปีหน้า ส่งผลให้ PE ลดลงอยู่ที่ระดับ 14.5-10.7x ในปี 2015-16 เท่านั้น ขณะที่ทางเทคนิคลุ้นทะลุแนวต้านระยะสั้นที่ 52 บาท
Technical : Technical SET range: 1,495-1,510
เลือกซื้อรายตัว: หลังจากที่ตลาดปรับตัวลงระยะสัปดาห์ทำจุดต่ำสุดใหม่และเริ่มมีแรงซื้อหุ้นกลับด้วยรูปแบบ Hammer ตามด้วยสัญญาณบวกจากเครื่องมือ DI+ ฟื้นตัวขึ้นในลักษณะ Bullish Divergence ทะลุผ่านยอดเดิมมาอยู่ที่ 17.5 จุด เป็นการเตือนว่าตลาดเริ่มมีแรงซื้อหนุนมากขึ้น รอการยืนยันดัชนี SET ขึ้นวันนี้ปิดเหนือแนว 1505-10 จุด เป็นสัญญาณบวกระยะสัปดาห์ แกว่งตัวขึ้นสู่เป้าหมายแนวต้านย่อยที่ 1530 จุด และรอโอกาสขึ้นไปสู่เป้าหมายสำคัญที่ระดับ 1550-55 จุด ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน จะเป็นจุดขายทำกำไรสำคัญ
หุ้นซื้อระยะสั้น: MONO กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 7-14 วัน ทะลุผ่านกรอบ Downtrend Line พร้อมปริมาณการซื้อขายสูงยืนยันการ Breakout มีแนวต้านแรกที่บริเวณ 4.00 บาท และถัดไปที่ 4.20 บาทBJC กลับตัวขึ้นด้วยรูปแบบ Double Bottom กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 วัน พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น มีแนวต้านแรกที่บริเวณ 38.00 - 39.00 บาท และมีเป้าหมายระยะกลางที่ 41.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “Trading” กรอบ 976-988 จุด สัญญา S50M15 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน โดยเราคาดการณ์สถานะ Long จะกลับมาได้เปรียบอีกครั้งหลังจากปรับสูงขึ้นทะลุแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 988 บาท
Gold Futures: แนะนำ “เปิด”/“ถือ” สถานะ Short โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 18,000 หรือ 17,800 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 18,500 บาท ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับลดลง US$2.1/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
Oil Futures: แนะนำ “เปิด”/“ถือ” สถานะ Short ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 1,750 เป็นเป้าหมายแรก และถัดไปที่ 1,700 และกำหนด Trailing Stop ที่ 1,850 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงต่อเนื่อง US$1.18/bbl เนื่องจากความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล