WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -200.19, NASDAQ -46.55, S&P -18.35, FTSE -118.39, CAC -49.88 และ DAX -119.84 ภายใต้ปัจจัยกดดันจาก (1) หุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลง (2) ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯ เช่น ดัชนีราคาบ้าน – มค. ที่เพิ่มขึ้นเพียง 4.5%yoy หลังปรับขึ้น 4.6% เมื่อธค. ที่ผ่านมา และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - มีค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 46.3 จากระดับ 45.8 เมื่อกพ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่กค.’52 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค – มีค. อยู่ที่ 101.3 เพิ่มขึ้นจาก 98.8 เมื่อกพ. และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 96.8 และ (3) ประธานเฟด ริชมอนด์ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วขึ้น หลังคาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราว่างงานของสหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้
  .....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากความกังวล (1) ภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของยูโรโซน หลังอัตราว่างงานยูโรโซน – กพ. อยู่ที่ 11.3% แม้เป็นระดับต่ำสุดนับแต่พค.’55 แต่ต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.2% และ (2) ภาวะเงินฝืดของยูโรโซน หลังอัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นในกลุ่มยูโรโซน – มีค. อยู่ที่ระดับติดลบ 0.1%
  …..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ค. -US$1.08 อยู่ที่ US$47.60 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความวิตกกังวลภาวะอุปทานพลังงานในตลาดโลกที่สูงเกินไป หลังกลุ่มโอเปกซึ่งผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 1 ใน 3 ของผลผลิตทั่วโลก มียอดการผลิตน้ำมัน - มีค. เพิ่มขึ้น 481,000 บาร์เรล อยู่ที่ 31.029 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่สค.’56 รวมทั้งการคาดการณ์ว่ายอดส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล/วัน หากชาติมหาอำนาจมีมติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
  ......ราคาทองคำส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$2.1 อยู่ที่ US$1,183.2 ต่อออนซ์ จากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,032 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -8,456 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : คาดยังผันผวน? คาดมีโอกาสปรับลงตามตลาดต่างประเทศ ภายใต้ปัจจัยกดดันจาก (1) ความไม่แน่นอนว่าเฟดจะมีการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังล่าสุดเจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นขัดแย้งกันระหว่างขึ้น / ไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่จากถ้อยแถลงเฟดจากการประชุมก่อนหน้านี้ (17 – 18/3/58) ยังไม่มีการส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างน้อยในรอบการประชุมเดือนเม.ย. (28 – 29/4/58) อย่างไรก็ตามล่าสุดตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ (2) ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน
  ....ขณะที่มีประเด็นที่ยังต้องจับตาดูหลังจากนี้และคาดอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาด โดยเฉพาะสถานการณ์ในกรีซ ภายใต้ประเด็นต่อรองเพิ่มเติมก่อนหนี้จะครบกำหนดอีกครั้งประมาณมิ.ย.’58 ต่อมาตรการรัดเข็มขัดซึ่งเป็นเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซ รวมถึงแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ
  .....ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศคาด (+) จาก Fund Flow ล่าสุดต่างชาติซื้อสุทธิ ประมาณ 1,000 ล้านบาท และประเด็นการยกเลิกกฎอัยการศึก ที่อยู่ระหว่างทูลเกล้าฯ อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจไทย? หลัง ธปท.และหลายหน่วยงานออกมาปรับลดเป้าหมาย GDP ปี’58 ลง
  ....ยังแนะเก็งกำไร (1) TASCO ที่คาดได้รับประโยชน์จากงบประมาณโครงการซ่อมสร้างถนน ของกระทรวงคมนาคม ประมาณ 34,000 ล้านบาท (2) หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะ UNIQ ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และกำหนดลงนามในสัญญาก่อสร้างในวันที่ 3 เมษายนนี้ (3) การประมูล 4G เริ่มมีความชัดเจน ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ADVANC

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 1.93% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.78 อยู่ที่ 15.29

หุ้นแนะนำ : IRPC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (1 – 3 เมย.’58)
  1/4/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน - มีค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย - มีค. (3) ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง - กพ (4) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต - มีค. (5) สต็อกน้ำมัน
  2/4/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - กพ. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ค - มีค. (4) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน - กพ.
  3/4/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - มีค.

หุ้นแนะนำ
IRPC : ราคาเป้าหมาย (ปี’58) 5.10 บาท
  แนวโน้มผลการดำเนินงานปี ’58 คาดฟื้นตัวโดดเด่น จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตลดลง ขณะที่ค่าการกลั่นและส่วนต่างปิโตรเคมียังคงอยู่ในระดับสูง และคาดว่าจะบันทึกกลับค่าเผื่อหนี้สงสัญจะสูญจากการซื้อที่ดินของ TPI Aromatics ประมาณ 3,430 ล้านบาท
  คาดหลังโครงการปรับปรุงโรงกลั่น UHV เสร็จสิ้นในช่วง 3Q/58 คาด (1) ผลผลิตน้ำมันเตาซึ่งมีส่วนต่างการกลั่นติดลบลดลงจากเดิม 23% เหลือเพียง 8% และ (2) วัตถุดิบในการผลิต propylene เพิ่มขึ้นอีก 320,000 ตัน ซึ่งใช้ในการผลิต Polypropylene ที่ความต้องการของตลาดยังดี โดยรวมคาดหลังจากโครงการ UHV เสร็จสิ้นจะช่วยเพิ่มส่วนต่างการกลั่นให้กับ IRPC อีกประมาณ 1.0-1.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และคาดได้รับผลเต็มที่ในปี ’59

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!