- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 June 2014 16:50
- Hits: 3019
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
พักตัวระยะสั้น
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป หลังธนาคารปรับลดคาดการณ์จีดีพี และหุ้นสายการบินในยุโรปลดคาดการณ์กำไร
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ : USA ยอดค้าปลีก พ.ค. +0.5%m-m (Vs 0.1%) Japan: Core Machine orders เม.ย. คาด 10.8%m-m (vs 19.1%) ผลประชุมธนาคารกลาง อินเดีย เกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 7.5% 2.5% ตามลำดับ
-วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติขายอีก -173 ลบ. (ขายสะสม 2 วัน รวม -987 ลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศขายต่อ -624 ลบ. (ขายสะสม 6 วันรวม -4.15 พันลบ.)
+การเมือง คสช. เร่งพิจารณาโครงการภาครัฐฯ มูลค่าเกิน 1 พันล้านบาท จับตาโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน
คาดดัชนีฯ วันนี้ พักตัวระยะสั้น แนวต้าน 1470/1485 จุด แนวรับ 1460/1450 จุด หลังปัจจัยหนุนจากภายนอกแผ่วลง แต่มุมมองบวกในประเทศยังมีต่อเนื่อง ช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มธนาคาร คาดแรงขายกลุ่มสื่อสารเริ่มชะลอลงหลังลงแรง 2 วันติด
กลยุทธ์: เก็งกำไร หุ้นที่มีประเด็น CENTEL MINT CPALL ADVANC TRUE (บอลโลก) SAMART AJD (คูปองซื้อกล่องรับทีวี) AMATA DEMCO AIE GUNKUL SPCG (มาตรการ คสช.) ASP MBKET (กลุ่มหลักทรัพย์) และเพิ่มเติม TICON PTTEP BBL SCC TUF (หุ้นถูกในแง่ PBV น้อยกว่า mean+0.5SD)
หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ UTP TSF THREL SPCI TRUE PS GOLD AP BWG หุ้นที่ลงกว่า 3.5% ได้แก่ SIM BEC DTAC DEMCO SMM TAE TH
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ JAS+448 TRUE+391 PTTEP+313 SCB+234 IVL+233 ด้านขาย ADVANC-278 INTUCH - 150 KBANK-106
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ TRUE 444 ADVANC 249 DTAC 61
Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ พักตัวระยะสั้น แนวต้าน 1470/1485 จุด แนวรับ 1460/1450 จุด หลังปัจจัยหนุนจากภายนอกแผ่วลง แต่ปัจจัยหนุนในประเทศยังมีต่อเนื่อง แนะนำ เก็งกำไร หุ้น Event Plays และสะสมหุ้นราคายังต่ำเทียบมูลค่าพื้นฐาน
คาดดัชนีฯ วันนี้ พักตัวตามตลาดต่างประเทศ แนวต้าน 1470/1485 จุด แนวรับ 1460/1450 จุด หลังตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับลง หลักๆ มาจากกลุ่มสายการบินที่ปรับลดคาดการณ์กำไร แต่แนวโน้มเศรษฐกิจยังเป็นทิศทางบวกแม้ธนาคารโลกปรับลดจีดีพีโลกลงวานนี้ โดยต่างชาติยังซื้อหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคาร และพลังงานบางตัว ด้านปัจจัยบวกในประเทศยังเป็นเรื่องมาตรการคสช. ต่างๆ ส่วน Events Play แนะเก็งกำไร ได้แก่ Window Dressing และ กระแสฟุตบอลโลก 12 มิ.ย. – 13 ก.ค. (หุ้น SET50/SET100 reshuffle แนะ Sell เมื่อข่าวจริงประกาศ) และเพิ่มเติมหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และทยอยสะสมหุ้นราคาถูกเทียบ PBV
กลยุทธ์: Trading Buy หุ้นที่มีประเด็น แนะนำ CENTEL MINT CPALL ADVANC TRUE (บอลโลก) SAMART AJD (คูปองซื้อกล่องรับทีวี) AMATA DEMCO AIE GUNKUL SPCG (มาตรการ คสช.) ASP MBKET (กลุ่มหลักทรัพย์) ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK (Window dressing)
ทยอยสะสม TICON PTTEP BBL SCC TUF (หุ้นถูกในแง่ PBV น้อยกว่า mean+0.5SD)
+ ปัจจัยในประเทศ – คสช. ยังเดินหน้าออกมาตรการใหม่ๆ ต่อเนื่องหลังพิจารณาสิทธิประโยชน์บอร์ดรัฐวิสาหกิจ โดยประเด็นน่าจะอยู่ที่การพิจารณาโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทที่นัดหารือวันนี้ ว่าจะเดินหน้าโครงการใดบ้าง คาดหุ้นกลุ่มรับเหมายังผันผวนต่อ ส่วนหุ้น RS วานนี้ดีดตัวหลังศาลปกครองตัดสินชนะคดี แต่ได้ตกลงกับกสทช. ภายหลังยอมรับค่าเยียวยาเพื่อถ่ายทอดครบ 64 แมตช์ คาดทำให้ยอดขายกล่องไม่เป็นตามเป้า แต่จะได้เงินชดเชยจากกสทช. แทน (โดยทาง RS เรียกร้อง 700 ล้านบาท ขณะที่ประเมินค่าลิขสิทธิ์ที่ประมาณ 550 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังต้องรอสรุปผลวันนี้) แนะระมัดระวังการเก็งกำไร ส่วนหุ้นกลุ่มสื่อสาร ทั้ง ADVANC INTUCH DTAC ปรับลงแรง 2 วันติด หลังมีโบรกต่างชาติปรับลดคำแนะนำลง แต่คาดแรงขายน่าจะเริ่มชะลอลง แนะทยอยสะสม ADVANC INTUCH มองพื้นฐานของบริษัทยังดี รวมถึงปันผลที่จ่ายระดับสูง
ส่วนหุ้นที่เคยแนะเก็งกำไรประเด็น SET50/SET100 reshuffle แนะรอขายเมื่อประกาศรายชื่อจริง ซึ่งคาดเป็นช่วงปลายสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า จากสถิติย้อนหลังโดยเฉลี่ยราคาปรับลงหลังทราบผล (sell on fact)
+/- ปัจจัยต่างประเทศ – ตลาดหุ้นต่างประเทศวานนี้ปรับลงนำโดยหุ้นยุโรป หลังหุ้นสายการบิน เช่น ลุฟท์ ฮันซ่า ปรับลดคาดการณ์กำไรปีนี้และปีหน้าลง และหุ้น Boeing ในสหรัฐฯ ร่วงลง โดยตลาดยังถูกกดดันจากข่าวธนาคารโลกปรับคาดการณ์จีดีพีโลกลง เหลือ 2.8% จากที่เคยคาดไว้ 3.2% ในเดือน ม.ค. ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาหลังดัชนีฯ ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทางเทคนิค ระยะเดือนยังคงเป็นสัญญาณขาขึ้นและมีแนวโน้มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเดิม 1500 จุด โดยสัญญาณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เกิด Bullish Pattern และมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านของ Fibonanci บริเวณ 1485 จุดและแนวต้านเดิม 1500 จุด (อาจเป็นคลื่นแรกหรือคลื่นที่ 3 ของ Elliot Wave ขาขึ้น) อย่างไรก็ดี สัญญาณชี้นำหลายตัว เช่น RSI , Modified Stoch เริ่มเข้าเขต Overbought Area แล้ว ส่งผลให้ มีโอกาสเช่นกันที่ดัชนีฯ จะเกิดการปรับฐานลงมาที่บริเวณ 1447/1435 จุด ซึ่งจะเป็นจุดซื้อเพิ่มรอบใหม่
ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตานโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการรัฐขนาดใหญ่
ประเด็นการเมือง (Update):
สบอช.เผย คสช. นัดหารือโครงการน้ำ 3.5 แสนลบ., เตรียมชี้แจงรายละเอียด สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) เผยว่า คสช. นัดหารือ รายละเอียดของโครงการบริหารจัดการน้ำ มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ในช่วงบ่ายวันนี้ (12 มิ.ย.) ซึ่งสบอช.จะชี้แจงข้อมูลรายละเอียดของโครงการ ทั้งหมดให้ คสช.รับทราบ เพื่อประกอบการพิจารณาจะเดินหน้าโครงการต่อไปอย่างไร โดยโครงการนี้แบ่งออกเป็น 9 โมดูลและเปิดให้บริษัทเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศประมูล เพื่อหาผู้ดำเนินการในแต่ละโมดูลไปแล้ว แต่โครงการทั้งหมดต้องชะลอออกไป หลังศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ภาครัฐไปดำเนินการรับฟังความเห็นของประชาชนก่อน
2. หุ้นที่ยังซื้อขายที่ PBV ต่ำกว่า mean+0.5SD และมีอัพไซด์สูงกว่า 8% แนะทยอยสะสม TICON PTTEP BBL SCC TUF
3. รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ :
พฤหัสบดี: USA ยอดค้าปลีก พ.ค. +0.5%m-m (Vs 0.1%) Japan: Core Machine orders เม.ย. คาด 10.8%m-m (vs 19.1%) ผลประชุมธนาคารกลาง อินเดีย เกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 7.5% 2.5% ตามลำดับ
ศุกร์ : USA เงินเฟ้อ พ.ค. 0.1%m-m (Vs 0.5%) ดัชนีราคาผู้ผลิต พ.ค. คาด 0.1%(vs 0.6%) ดัชนีวัดความเชื่อมั่นของ ม. มิชิแกน มิ.ย. คาด 83 (Vs 81.9) EU:ดุลการค้า เม.ย. คาดเกินดุล 15.5 bn ยูโร (Vs 15.2 bn. ยูโร) China: Industrial Production พ.ค. คาด 8.6%y-y (Vs 8.7%) ยอดค้าปลีก พ.ค. คาด 12.2% y-y (Vs 11.9%)
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
ดัชนี ความเชื่อมั่นผู้ผลิตญี่ปุ่นดิ่งลงใน Q2 แต่คาดฟื้นตัวใน Q3 ดัชนีผลสำรวจธุรกิจ (BSI) สำหรับความเชื่อมั่นในบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ดิ่งลงสู่ -13.9 ในไตรมาสเดือน เม.ย. - มิ.ย. จาก +12.5 ในไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ภาคเอกชน คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นจะพุ่งขึ้นสู่ +16.0 ในไตรมาสเดือน ก.ค.- ก.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
อังกฤษ เผยผลผลิตอุตฯขยายตัวสูงสุด 3 ปี ใน เม.ย. ขณะศก.ฟื้นตัววงกว้าง ทางการอังกฤษรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 3.0 % ต่อปีในเดือน เม.ย. ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ และเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุด นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2011
นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ในช่วงไตรมาสเดือน ก.พ. - เม.ย. ยังอยู่ในระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2010 ด้วย
สหรัฐ เผยยอดขาดดุลงบประมาณลดลงในเดือนพ.ค. กระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยยอดขาดดุลงบประมาณลดลงมากกว่า 6% จากปีก่อนสู่ระดับ 1.30 แสนล้านดอลลาร์ ในเดือน พ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า สหรัฐจะขาดดุลงบประมาณ 1.31 แสนล้านดอลลาร์ในเดือน พ.ค. หลังจากขาดดุล 1.39 แสนล้านดอลลาร์ ในเดือน พ.ค. 2013
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่
วันทำการที่ผ่านมา ดัชนี DJIA ปิดลบ 102.04 จุด หรือ 0.60% สู่ระดับ 16,843.88 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดร่วงลง 6.90 จุด หรือ 0.35% สู่ระดับ 1,943.89 จุด และ Nasdaq ปิดลดลง 6.06 จุด หรือ 0.14% สู่ระดับ 4,331.93 จุด จากการที่กระทรวงการคลังสหรัฐ เผยยอดขาดดุลงบประมาณลดลงมากกว่า 6% จากปีก่อนสู่ระดับ 1.30 แสนล้านดอลลาร์ ในเดือน พ.ค. โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะขาดดุลงบประมาณ 1.31 แสนล้านดอลลาร์ ในเดือน พ.ค. รวมถึงนักลงทุนเกิดความวิตกกังวล หลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ลงสู่ระดับ 2.8% จากที่เคยประเมินไว้ในเดือน ม.ค. ที่ระดับ 3.2% และยังปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาลงสู่ระดับ 4.8% ในปีนี้ จากคาดการณ์ไว้ในเดือน ม.ค. ที่ระดับ 5.3% ซึ่งนับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาขยายตัวต่ำกว่า 5% แต่คาดเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มนี้จะขยายตัวขึ้น 5.4% และ 5.5% ในปี 58 และ 59 ตามลำดับ
-ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้น FTSE ปิดลบ 34.68 จุด หรือ 0.50% สู่ 6,838.87 จุด ดัชนี CAC40 ปิดปรับลง 39.89 จุด หรือ 0.87% สู่ 4,555.11 จุด และ DAX ปิดร่วงลง 78.99 จุด หรือ 0.79% สู่ 9,949.81 จุด หลังจากลุฟท์ฮันซาประกาศว่าทางสายการบินจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายผลกำไรสำหรับในช่วง 2 ปีข้างหน้า ซึ่งการดิ่งลงของราคาหุ้นลุฟท์ฮันซา ส่งผลให้หุ้นสายการบินแห่งอื่นๆ ดิ่งลงตามไปด้วย และการดิ่งลงอย่างรุนแรงของหุ้นบริษัทโรลส์-รอยซ์ หลังจากมีการยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบิน รวมถึงนักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลว่างงานของอังกฤษ
+ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเล็กน้อย
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบก.ค. ปิดบวก 0.43 ดอลลาร์ สู่ 109.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ก.ค. ปรับเพิ่มเล็กน้อย 0.05 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 104.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่นักลงทุนในตลาดน้ำมันยังมีความวิตกต่อสถานการณ์รุนแรงในอิรักที่อาจจะบานปลาย รวมถึงสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เผยตัวเลขสต๊อคน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มิ.ย. ระบุว่ามีสต๊อคน้ำมันดิบลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ 386.9 ล้านบาร์เรล, สต๊อคน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้ 0.9 ล้านบาร์เรล สู่ 119 ล้านบาร์เรล, สต๊อคน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ 213.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันดิ่งลง 2.9% สู่ 87.9%
+ราคาทองคำปรับเพิ่ม
วันทำการที่ผ่านมา ราคาสัญญาทองเดือน ส.ค. ปิดตลาดปรับขึ้น 0.1% สู่ 1,261.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.8% จากเคยประเมินไว้ในเดือน ม.ค. ที่ระดับ 3.2%
-ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดร่วงลง
วันทำการที่ผ่านมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดร่วงลง 31 จุด หรือ 3.09% มาที่ระดับ 973 จุด
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270