- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 June 2014 16:37
- Hits: 2820
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today's Selection : CPALL, CENTEL, BGH, RS
Follow Buy : -
Follow Sell : -
เคลื่อนไหวผันผวน
ตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดในแดนลบ หลังธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลกปี 57 จากระดับ 3.2% เหลือเพียง 2.8% โดยปรับลดคาดการณ์ GDP ของตลาดเกิดใหม่เป็น 4.8% จากระดับ 5.3% ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีปัจจัยลบต่างประเทศเข้ามากดดัน แม้ไม่มีปัจจัยในประเทศกดดัน แต่เรามองว่าตลาดตอบรับประเด็นบวกไประดับหนึ่งแล้วในระยะสั้น โดยหลังจากนี้ คาดว่าตลาดจะค่อยๆ sideway up หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมา
อย่างไรก็ตาม เรามองว่า 2 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามบรรยากาศการลงทุนต่างประเทศ ขณะที่ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ที่ระดับ 32.44-32.48 บาทต่อดอลลาร์ โดยเรายังคงมุมมองบวกต่อ Sentiment ของตลาด และความมั่นใจการลงทุนของต่างชาติ คาดหุ้นกลุ่ม Domestic play เช่น ท่องเที่ยว รับเหมาฯ นิคมฯ และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญหนุนตลาดในระยะกลาง ขณะที่ Top Pick กลุ่มค้าปลีกของเราขณะนี้ คือ CPALL จากเทศกาลฟุตบอลโลกที่จะเริ่มต้นในคืนนี้ ขณะที่เรามองว่า หุ้นกลุ่ม PTT เริ่มทรงตัว หลังสะท้อนกระแสการปรับปรุงโครงสร้างพลังงานในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะเห็นแนวทางราคา LPG ดีเซล เบนซินที่ชัดเจนขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยเรามองว่า PTTEP และ TOP จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงโครงการสร้างพลังงานไทย
คาดหุ้นกลุ่ม commodities มีแรงกดดัน หลังธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 57 ของประเทศกำลังพัฒนา โดยราคาน้ำมันดิบ ค่าระวางเรือ สินแร่ และถ่านหิน ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นปัจจัย sentiment เชิงลบกดดัน BANPU, EARTH, TTA, PSL ทั้งนี้ ยังต้องติดตามตัวเลขศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ (1) ยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. (2) PPI เดือน พ.ค. (3) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือน มิ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัว Sideways up ในช่วง 1-2 เดือนนี้ต่อไป โดยยังคงมองปัจจัยสนับสนุนหลักได้แก่ Fund flow ที่เตรียมไหลเข้าจากปรากฏการณ์ EUR carry trade และคาดการณ์การทำ QE ของ ECB ในช่วงถัดไป เมื่อบวกกับการมีส่วนร่วมของนักลงทุนในประเทศในระดับสูง น่าจะช่วยหักล้างแรงขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศในเดือนนี้ได้ ยังคงระดับเป้าหมายเดิมที่ 1480-1500 จุด และแนะนำให้เริ่มหันมา Switch การลงทุนเข้าสู่หุ้นกลุ่มขนาดใหญ่มากขึ้นโดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากน่าจะเป็นเป้าหมายหลักของ Fund flow และการทำ Window dressing ในช่วงถัดไป
Stock S R Comment
CPALL 45.50 47.50 บอลโลกหนุนยอดขาย ready to eat
CENTEL 34.50 36.50 อานิสงส์ การฟื้นฟูท่องเที่ยว ยกเลิกเคอร์ฟิว
BGH 16.50 17.10 ขึ้นแท่นเบอร์1 ด้วย Brand แข็งแกร่ง ขยายธุรกิจต่อเนื่อง
RS 9.00 9.60 รับข่าวดี 2 ต่อ ชนะคดี-เงินชดเชย หนุน 2Q57 ดีที่สุดของปี
แนวรับ 1,450 แนวต้าน 1,482
หุ้นมีข่าว :
คสช. เล็งเก็บเพิ่มเงินเรียกเก็บน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมัน คาดกระทบ BCP และ PTT : พล.อ.อ. ประจิน เตรียมหารือคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อเรียกเก็บเงินในส่วนของน้ำมันดีเซลเพิ่ม จากระดับปัจจุบันที่ 0.25 บาทต่อลิตร โดยสถานะกองทุนน้ำมันปัจจุบันติดลบ 7.5 พันล้านบาท เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันดีเซลของผู้ประกอบการอยู่ที่ 2.20 บาทต่อลิตร จากที่ควรจะได้รับที่ 1.50 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง เบื้องต้น เราประเมินกำไรสุทธิ ต่อปีของ BCP และ PTT จะลดลงราว 840 ล้านบาท และ 2,130 ล้านบาท ตามลำดับ ภายใต้สมมติฐาน ปรับลดค่าการตลาด 0.70 บาทต่อลิตร และปริมาณขายปลีกน้ำมันดีเซลของ BCP และ PTT ที่ 1,500 ล้านลิตร และ 3,800 ล้านลิตรต่อปี
ทั้งนี้ แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม PTT จนกว่าจะมีความชัดเจนด้านพลังงาน
SINGER มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% : ผู้บริหาร SINGER กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีสินค้าเชิงพาณิชย์มียอดขายเติบโตประมาณ 20% โดยสินค้าในกลุ่มหยอดเหรียญมีมาร์จิ้นสูง ขณะที่สินค้ากลุ่มครัวเรือนยอดขายลดลงประมาณ 10% จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะทำให้สัดส่วนสินค้าเชิงพาณิชย์สูงถึงประมาณ 65% จากยอดขายทั้งหมด โดยปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตที่ประมาณ 10%YoY โดยจะควบคุมค่าใช้จ่ายและเน้นสินค้าเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ปีนี้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากเดิม 8% ในด้านภาคครัวเรือนต้องรอการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง สำหรับประมาณการการเติบโตของบริษัทตรงกับที่เราทำไว้ อย่างไรก็ตามหากในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว มีโอกาสที่เราจะปรับประมาณการขึ้นได้ โดยปัจจุบันยังคงแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมายที่ 22 บาท
RS ชนะคดี-คสช.ประสานคืนความสุขเตรียมถ่ายทอดฟรีทีวีครบ 64 นัด พร้อมรับเงินชดเชย : วานนี้ (11 มิ.ย. 57) หลัง RS ชนะคดี must Have คือ RS ไม่จำเป็นต้องถ่ายสดฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวีครบทั้ง 64 นัด ทั้งนี้ล่าสุดทาง คสช. ประมานงานให้ กสทช. หาแนวทางคืนความสุข เจรจาเพื่อให้ทาง RS ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้ครบ 64 นัด โดยเตรียมนำเงินกองทุนฯที่มีอยู่ราว 2 หมื่นล้านบาทจ่ายชดเชยให้ ซึ่งจะมีการประชุมบอร์ดและแถลงในวันนี้ ในเรื่องจำนวนเงินการจ่ายชดเชย ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจาก ททบ. 5 ว่าจะแถลงข่าวโครงการ "ททบ.5 คืนความสุขคนไทยส่งใจไปบอลโลก" เพื่อจัดถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 เพิ่มเติมอีกจำนวน 42 นัด เมื่อรวมกับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ที่จะถ่ายทอดสด 22 นัด จึงทำให้ประชาชนได้รับชมฟุตบอลโลกรวม 64 นัด ทั้งนี้ประเมินว่าใน 2Q57 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของผลการดำเนินงานของ RS เนื่องจากเทศกาลฟุตบอลโลกหนุนรับข่าวดีทั้งชนะคดีและได้เงินชดเชย อย่างไรก็ตามในระยะหลังจากฟุตบอลโลกจบ จะไม่มีรายได้พิเศษเข้ามาหนุน และยังเสี่ยงต่อการลงทุนทำคอนเทนท์ทีวีดิจิตอลและธุรกิจเพลงที่อยู่ในภาวะซบเซา Median Consensus 8.60 บาท
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932)
E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]