- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 March 2015 17:32
- Hits: 1178
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาดสัปดาห์หน้าเตรียมลุ้นแกว่งบวกกลับขึ้นได้…รอขายบวก!
กลยุทธ์ : แม้ SET จะยังไหลลงลึกกว่าคาด และมีจังหวะแกว่งตัวด้านลบต่อเนื่องอยู่ แต่หลังจากปรับลงมาแล้วถึง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน คาดว่าสัปดาห์หน้าจะอยู่ในช่วงรีบาวด์กลับขึ้นด้านบวกได้ ดังนั้นยังแนะนำให้เน้นถือไว้ก่อนเช่นเดิม เพื่อรอจังหวะขายทำกำไรในช่วงบวกต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SGP, RICH, AOT(short)
แนวโน้ม : วานนี้ SET ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาน่าผิดหวัง รวมทั้งตัวเลขส่งออกของบ้านเราที่ต่ำกว่าคาดมากพอควร และในภาคบ่ายยังมีแรงกดดันจากข่าวซาอุฯ และชาติพันธมิตรอาหรับได้เปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฏในเยเมนด้วย ส่งผลให้ SET ยังไหลลงทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่องและหลุดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1500 จุดอีกด้วย ขณะที่เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปก็แกว่งตัวผันผวนโดยเน้นหนักทางด้านลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเช่นกัน ทำให้ SET ยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลบต่อได้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งเริ่มมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นได้บ้าง ซึ่ง FSS ก็ยังคาดหมายโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งตัวด้านบวกของ SET ตั้งแต่สัปดาห์หน้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นในจังหวะตลาดเป็นลบจะซื้อเพิ่มหรือไม่ก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้ขาย ควรถือเพื่อรอรอบรีบาวด์ก่อนค่อยพิจารณาจังหวะขายดีกว่า
แนวรับ 1495-1493 , 1490-1483 จุด
แนวต้าน 1500-1510 , 1513-1520 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในปริมาณที่หนาแน่น โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในไต้หวัน US$348.9 ล้าน เกาหลีใต้ US$170.9 ล้าน ไทย US$36.7 ล้าน อินโดนีเซีย US$25.2 ล้าน และเวียดนาม US$12.4 ล้าน ขณะที่ซื้อฟิลิปปินส์ US$34.8 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะยังไหลออกต่อเนื่อง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) เหตุในเยเมนกระทบชั่วคราว สถานการณ์ในเยเมนหลายวันที่ผ่านมาทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นกว่า 6% เกือบแตะ US$60 ต่อบาร์เรล และอาจขยับขึ้นอีกตามความรุนแรงของสถานการณ์ เราเชื่อว่าผลกระทบจำกัดเพราะเยเมนเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายเล็ก ผลิตเพียง 1.25 แสนบาร์เรล/วัน ลดลงจาก 3 แสนบาร์เรล/วันในปี 2010 ช่องแคบ Bab el-Mandeb ที่อยู่ใกล้เคียง มีการขนส่งน้ำมันดิบผ่านช่องแคบนี้วันละ 3.3-3.8 ล้านบาร์เรล (6-8% ของทั่วโลก) ยังเลี่ยงการขนส่งไปอ้อมแอฟริกาได้ ซึ่งทำให้ค่าขนส่งเพิ่มเพียง US$3-4 ต่อบาร์เรลเท่านั้น หุ้นกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ได้รับอานิสงส์ในระยะนี้ แต่เป็นลบกับกลุ่มท่องเที่ยว และขนส่ง
(-) ส่งออกของไทย 2-3 เดือนข้างหน้ายังลำบาก ส่งออก ก.พ. -6.1% Y-Y ทำให้ยอด 2M15 -4.8% Y-Y ถูกกดดันจากราคาสินค้าส่งออกที่ลดลง (น้ำมันสำเร็จรูป ยางพารา ทองคำ) ตลาดส่งออกทั้งจีน ญี่ปุ่น และยุโรป หดตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะจีนที่ยังหดตัวแรง ยกเว้นสหรัฐและ CLMV ที่ยังโตได้ แนวโน้มส่งออกใน 2-3 เดือนข้างหน้ายังเหนื่อยตามทิศทางราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ ถ้าทั้งปีจะโต 0.8% ตามธปท.คาด ยอดส่งออก 10 เดือนที่เหลือต้องมีมูลค่าเฉลี่ย US$1.95 หมื่นล้าน/เดือน ค่อนข้างท้าทาย แนะเลี่ยงกลุ่มเกษตรและโภคภัณฑ์ (น้ำมัน โรงกลั่น ปิโตรเคมี และเหล็ก)
(-) ญี่ปุ่นสั่งระงับเพิ่มเที่ยวบินไทย หลังจาก ICAO เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานของกรมการบินพลเรือนไทยตั้งแต่ต้นปีนี้ และจะสรุปผลอย่างเป็นทางการ พ.ค. นี้ ล่าสุดญี่ปุ่นไม่รอผลการตรวจสอบ แต่ห้ามสายบินไทยที่บินไปญี่ปุ่นคือ THAI, Thai Smile (THAI ถือ 100%), NokScoot (NOK ถือ 47.5%), Thai AirAsia X เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เส้นทางบิน ขนาดเครื่องบิน และสายการบินใหม่ การจำกัดการทำธุรกิจเป็น sentiment ลบต่อ THAI, NOK ยกเว้น AAV ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Thai AirAsia X และยังมีเส้นทางหลักคือจีน และถูกสุ่มตรวจจากจีนแล้ว ไม่พบปัญหาใดๆ
(+) ADVANC แนวโน้มกำไรปกติ 1Q15 แม้จะลดลง 1% Q-Q ตามฤดูกาล แต่น่าจะเติบโต 4% Y-Y จากรายได้ Non Voice ที่โตในอัตราเร่ง ชดเชยรายได้ Voice ที่ลดลงต่อเนื่อง รวมถึงโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Lava จอใหญ่ได้รับการตอบรับดีเกินคาด และแม้ว่าค่าดูแลซ่อมแซมโครงข่ายจะเพิ่มขึ้นหลังพ้นช่วงการันตี 2 ปีแรกของผู้ติดตั้งเสา แต่ชดเชยได้จาก Regulatory Cost ที่ลดลง ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 300 บาท
(+) TPIPL ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 2.50 บาทต่ำกว่า Book value สิ้นปี 2014 ที่ 2.84 บาท/หุ้น และมี PBV สิ้นปีนี้เพียง 0.8 เท่า และยังสะท้อนเฉพาะมูลค่าของธุรกิจซีเมนต์และเม็ดพลาสติกที่เราประเมินไว้ 2.48 บาท/หุ้น โดยไม่ได้ให้มูลค่ากับธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ 163MW ซึ่งเราประเมินมูลค่า 1.02 บาท/หุ้น โดยปีนี้เป็นปีแรกที่ TPIPL จะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าขยะ 73MW (อีก 90MW จะเริ่มจ่ายไฟกลางปี 2017) ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์มีการขยายกำลังการผลิต 4.5 ล้านตัน/ปี เริ่มผลิต มิ.ย. นี้ ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิปี 2015-16 โตก้าวกระโดดเฉลี่ย 65% ต่อปี เรายังคงแนะนำซื้อ เป้าหมาย 3.50 บาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนลบต่อเนื่องโดยนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางหลังซาอุฯเปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฏในเยเมน
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเช่นกันโดยได้รับแรงกดดันจากการสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้เป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นคาดว่าจำกัดจากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่กดดัน
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดที่ 51.43 เหรียญ/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางส่งผลต่ออุปทานที่อาจลดลง
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,204.80 ดอลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.80 เหรียญ/ออนซ์ โดยนักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นหลังซาอุฯเปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฏในเยเมน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27 มี.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ก.พ.)
- สหรัฐ: 4Q14GDP (final) (ตลาดคาด 2.4% ดีขึ้นจากครั้งก่อนที่ 2.2%)
30 มี.ค. - สหรัฐ Pending home sales (ก.พ.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
31 มี.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.
- สหรัฐ: S&P/CaseShiller 20-City Index (ม.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
1 เม.ย. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
- จีน: Manufacturing PMI (มี.ค.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (มี.ค.), การจ้างงานภาคเอกชน (มี.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (มี.ค.)
2 เม.ย. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์และอินเดีย ปิดทำการวันนี้
- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, Factory orders (มี.ค)
3 เม.ย. - วัน Good Friday ตลาดหุ้นที่ปิดทำการวันนี้มีสหรัฐ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สิงคโปร์
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research