- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 March 2015 17:51
- Hits: 1721
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เลือกซื้อค่าบวก...อ่อนตัวรอรับที่ 1500 หรือต่ำกว่า"
Top Picks-Fund March 2015 : Fundamental : AP, AOT, INTUCH, TOP Dark Horse: SEAFCO, VNG
Top Picks -Fund Today: AOT
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : KKP 16%, STPI 14%, TUF 12%, KBANK 12%, TRUE 10%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นลบ แต่มีโอกาสรีบาวด์ก่อนลงต่ำต่อ
Support Resistance Stop loss
SET 1500,1480-60 1530-1540 ค่าลบ
SET50 990-980 1010-1020 ค่าลบ
Top Picks-Tech Today : SAWAD, SCC, PREB, PTG, MINT, OFM, AOT, GLOBAL
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ปรับลดลง 9.95 จุด ปิดที่ 1520.01 ซึ่งเป็นระดับเกือบต่ำสุดของวัน นักลงทุนยังคงขายหุ้นปรับพอร์ตต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ปรับขึ้นมามาก ขณะที่ตลาดไม่มีข่าวใหม่ที่มีนัยสำคัญเข้ามา ความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจซบเซายังคงมีอยู่ สถาบันในประเทศและต่างชาติซื้อสุทธิแต่ไม่มาก พอร์ตบล.และรายย่อยขายสุทธิ
ในระยะสั้นมากตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ ปัจจัยที่ติดตามคือผลการเจรจาระหว่างผู้นำกรีซและเยอรมนีเกี่ยวกับประเด็นขัดแย้งในแผนปฎิรูปกรีซเพื่อขอรับความช่วยเหลือรอบใหม่ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจประเทศชั้นนำต่างๆ ส่วนในประเทศยังเป็นลักษณะของการเลือกซื้อ/ขายรายบริษัท ทั้งนี้ควรระวังแรงขายหุ้นที่มี Valuation สูงในช่วงตลาดปรับฐาน ส่วนการทยอยซื้อลงทุน เน้นเลือกเป็นรายบริษัทที่มีปัจจัยกระตุ้น การเติบโตของกำไรในปี 58-59 ไปได้ดี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง สภาพคล่องในการซื้อขายสูง ซึ่งหนึ่งในหุ้นที่น่าสนใจ คือ AOT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นลบ แต่ยังไม่ทิ้งการรีบาวด์ก่อนลงต่ำต่อ แนวต้านระยะสั้น 1530-1540 จุด เน้นซื้อตามด้วยค่าบวกของดัชนีและราคาหุ้น ค่าลบดูไม่ดี โดยแนวรับของ SET อยู่ที่ 1500, 1480, 1460 จุด
สำหรับการ SCAN หาหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ใน List เป็น GLOBAL, RATCH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BLA, MINT, MEGA, CBG หุ้นที่หลุด List เป็น TOP ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit เป็น SAT, OFM
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
สหรัฐ : ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ. +1.2% สู่ระดับ 4.88 ล้านยูนิต แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 4.9 ล้านยูนิต
- สหรัฐ : กิจกรรมการผลิตเดือนก.พ.อ่อนตัวลง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศประจำเดือนก.พ.ร่วงลงสู่ระดับ -0.11 จาก -0.10 ในเดือนม.ค. อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของการผลิต, การบริโภค และการสร้างบ้าน
กรีซ : จับตาผลประชุมผู้นำกรีซและเยอรมนี นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเจรจากับนายกรัฐมนตรีกรีซเพื่อหาทางออกของความขัดแย้งเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในการประชุมครั้งล่าสุด ทางด้าน ECB กล่าวว่าพร้อมให้การสนับสนุนธนาคารกรีซถ้ามีการเจรจาระหว่างกรีซกลับกลุ่มเจ้าหนี้อีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัวเล็กน้อย โดยดัชนี DJIA ลดลง 11.61 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NASDAQ ลดลง 15.45 จุด หรือ -0.31% ดัชนี S&P500 ลดลง 3.68 จุด หรือ -0.17% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโตน้อยกว่าคาด แต่โดยรวมยังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวได้ดีในช่วง 1Q58 นอกจากนั้นยังรอดูผลเจรจากรีซด้วย
สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อย โดยสัญญา WTI ส่งมอบพ.ค.เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ ปิดที่ 47.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 55.92 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ด้วยอุปทานน้ำมันดิบที่สูงมากทำให้การปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบจะไม่มาก โดยมีแนวโน้มจะแกว่งในกรอบที่ไม่กว้างเป็นหลัก
สัญญาทองคำตลาด COMEX ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยสัญญาส่งมอบเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ +0.26% ปิดที่ 1,187.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยหนุนราคาทองคำระยะสั้น คือ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
รัฐบาลจะลงทุนใน Data Center (IDC) 3-4 หมื่นล้านบาท และให้ส่วนราชการทุกแห่งหยุดการลงทุนใน IDC ของหน่วยงานเพื่อเปลี่ยนมาใช้ IDC ส่วนกลาง หากต้องการใช้ช่วงนี้ให้เช่าจากภาคเอกชนไปก่อน ทั้งนี้ยกเว้นก.คลังและก.กลาโหมที่ไม่ต้องใช้ IDC กลางรัฐบาลเพราะมีข้อมูลด้านความมั่นคงของประเทศ คาดว่าจะเปิดประมูลใน 3Q58 และเสร็จโครงการภายใน 12 เดือน และเริ่มใช้ในปี 59
สัปดาห์นี้อาจจะมี Window Dressing หรือการทำราคาปิดงวดไตรมาสแรกของปี 2558 เข้ามาช่วยหนุนตลาดในช่วงปลายสัปดาห์
/- กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : ธุรกิจอยู่ในช่วงประคองตัว ทาง Retail Research ประเมินว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะไม่คึกคัก เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ขณะที่อุปทานที่พักอาศัยและพื้นที่ให้เช่าทยอยเข้ามาเพิ่ม ภาคธุรกิจชะลอการขยายงานเพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตยังต่ำ (อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.58 อยู่ที่ 60-61% เท่านั้น ซึ่งปกติแล้วต้องถึงระดับ 70+% จึงจะเห็นการขยายกำลังการผลิต) อัตราการเช่ามีแนวโน้มทรงตัว-ลดลงในบางทำเล
ธุรกิจที่พักอาศัยแนวราบ ยอดขายค่อยเป็นค่อยไป และดูเหมือนว่าจะชะลอลงหลังผ่านกลาง 1Q58 มาแล้ว ส่วนคอนโดมิเนียม พบว่าระดับกลาง-ล่างขายได้ช้าลงไปมาก จะมีเฉพาะคอนโดระดับบนที่ยังไปได้ดี โดยเฉพาะทำเลที่ใกล้ BTS และ MRT
สำหรับการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมยังไม่ดี แม้ว่าจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายปี 57 ถึงต้นปี 58 แต่ในเดือนก.พ.-มี.ค.58 ก็แผ่วลงไปอีก
ในเชิงกลยุทธ์เราปรับลดน้ำหนักลงทุนเป็น Neutral จากเดิม Overweight โดยฝ่ายวิจัยฯ DBSV ประมาณการว่ากำไรสุทธิกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเติบโตเพียง 8% ลดลงจากปี 57 ที่ขยายตัว 17% ขณะที่ P/E กลุ่มอยู่ที่ 13 เท่า ทั้งนี้ P/E ของกลุ่มถูกดึงขึ้นโดยหุ้น AMATA, LH, HEMRAJ, CPN, ROJNA, PF, NOBLE, PRIN และ WHA ซึ่งมี P/E เป็นเลขสองหลัก ขณะที่หุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้มี P/E ต่ำเป็นเลขหลักเดียว ได้แก่ RML, SIRI, LALIN, SC, PS, SPALI, AP, QH และ LPN
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความมั่นคงของธุรกิจ, อัตราการเติบโตและความต่อเนื่องของกำไรสุทธิในปี 58-59, Dividend Yield และสภาพคล่องในการซื้อขายแล้ว เราให้หุ้น Top Picks เป็น AP, PS, QH และ LPN
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]