- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 March 2015 17:32
- Hits: 1611
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET แกว่งตัวกรอบแคบ
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นกลาง มองกรอบเคลื่อนไหว 1511 – 1530 จุด
SET มีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้าง อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 2 ปียังคงปรับลง
ต่อเนื่องมาที่ 1.9% ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี บ่งบอกถึงสภาพคล่องทางการเงินในประเทศยังอยู่ระดับสูง และนักลงทุนต่างชาติและสถาบันกลับมาซื้อสุทธิพร้อมกันอีกครั้งราว 700 ล้านบาทจะช่วยผ่อนคลายบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ปริมาณซื้อขายที่เบาบางลงเหลือเพียง 3.5 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าระดับปกติที่ 5 หมื่นล้านบาทและใกล้เคียงระดับต่ำสุดที่เกิดขึ้นช่วงต้นปี บ่งบอกว่าแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มนำตลาดเริ่มลดลง จึงควรเห็นการรีบาวน์ในระยะสั้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันดิบ Brent เริ่มทรงตัวแถว US$54 บาร์เรล และกลุ่มสื่อสาร-ธนาคารขนาดใหญ่ที่มีประเด็นการจ่ายเงินปันผลรออยู่ (กลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่ ขึ้น XD สัปดาห์หน้า ตามด้วยกลุ่มธนาคารขึ้น XD ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.) แต่แรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ดำรงต่อเนื่องในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะกดดันจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนรายย่อย การรีบาวน์จะจำกัดและมีโอกาสพลิกผันได้ทุกเมื่อ ทางเทคนิค การเคลื่อนไหวของ SET ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1530 จุด ยังแสดงถึงการพักฐาน เพิ่มโอกาสปรับลดมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมบริเวณ 1511 จุด
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ชะลอการลงทุน หรือรักความเสี่ยงเน้นรอซื้ออ่อนตัวเพื่อลุ้น
รีบาวน์ให้กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1530 จุด หากปิดบริเวณนี้ได้จะเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคระยะสั้น แนะนำถือครองหุ้นไปรอขายวันถัดไป
Top Daily Pick: AP (ยอดขายม.ค.-ก.พ.เติบโตโดดเด่นกว่ากลุ่ม บ่งบอกการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ให้อัตราผลตอบแทนปันผลระหว่างกาลราว 3.7% ขึ้น XD 7 พ.ค. จะจำกัด downside) /INTUCH (ผลประกอบการปี 58 จะกลับมาเติบโตโดดเด่นจากทั้ง ADVANC และ THCOM และอัตราผลตอบแทนปันผลจูงใจกว่า 6% จะจำกัด downside)
Technical Pick : DEMCO VTE MINT AOT SCB
Theme Play: PLAT (เข้ามาซื้อขายเป็นวันแรกด้วยราคา IPO ที่ 7.4 บาท หรือ 47xP/E’57 สะท้อนความคาดหวังเชิงบวกต่อการเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต ราคาหุ้นจะแกว่งตัวแรง) /กลุ่มสื่อสาร (ADVANC INTUCH) ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องปี 58 ปันผลจูงใจราว 5-6% ต่อปี /กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN) /กลุ่มธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) และพัฒนาที่อยู่อาศัย (AP) จิตวิทยาเชิงบวกจากการปรับลดดอกเบี้ย
ของกนง. /หุ้นแนะนำเดือนมี.ค. (AP BANPU ICHI SNC THCOM)
พอร์ตลงทุน
Trading BANPU HEMRAJ KAMART M NBC SNC TUF
Growth KAMART IVL AOT PTTEP EFORL
Dividend ADVANC BBL EGCO MODERN PTTGC RML SRICHA
Quant MAJOR HANA MODERN BECL EGCO BIGC RATCH
รายงานวันนี้
Update : กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (น้ำหนักการลงทุน “เท่าตลาด”) ยอดที่อยู่อาศัยจดทะเบียนเดือน ม.ค. เทียบกับรายปีทำได้ดี
Strategy Talk
นัยการปรับลดคาดการณ์ GDP ของธปท.ต่อตลาดหุ้นไทย
ในการแถลงการณ์รายงานนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน มีนัยสำคัญพอสรุปได้คือ (1) ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 58 จาก 4.0% ลงมาที่ 3.8% สะท้อนเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยูโร, อุปสงค์ในประเทศอ่อนแรงกว่าที่คาด และการใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มล่าช้ากว่าที่คาดโดยเฉพาะงบลงทุนการข้อกำกัดด้านประสิทธิภาพการเบิกจ่าย รวมถึงราคาน้ำมันในตลาดโลกต่ำกว่าที่คาด (2) ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 58 จาก 1.2% ลงมาที่ 0.2% ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 1.0-4.0% จากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศต่ำกว่าคาด โดยมีแนวโน้มกลับเข้าใกล้เป้าหมายในปี 59 แต่ยังคงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานตรมประมาณการเดิมที่ 1.2% (บ่งบอกว่ายังไม่เกิดภาวะเงินฝืด)
เราเชื่อว่าประมาณการ GDP ปี 58 มีความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดลงในแถลงการณ์ครั้งต่อไปราวเดือนมิ.ย. ด้วยสาเหตุหลักจากความอ่อนแอของภาคส่งออก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP ถึงราว 60-70% ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาค เรายังไม่เห็นการฟื้นตัวของภาคส่งออกที่จะมาหนุนการฟื้นตัวของ GDP โดยเดือนม.ค.ส่งออกกลับติดลบถึง 3.5%YoY ทั้งที่ส่งออกเดือนม.ค. 57 เป็นเดือนที่มูลค่าส่งออกเกือบต่ำสุดของปี ขณะที่เดือนก.พ.มีแนวโน้มที่ติดลบต่อเนื่อง เราเชื่อว่าเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน มากกว่าเรื่องการชะลอตัวของการค้าโลก สังเกตจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยตั้งแต่ปี 55 เป็นต้นมามีแนวโน้มถดถอยลงสวนทางกับประเทศส่งออกหลักอาทิ เกาหลีใต้ ไต้หวันและมาเลเซียที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ในเชิงกลยุทธ์การประกาศตัวเลขส่งออกเดือนก.พ. ที่คาดจะประกาศในสัปดาห์นี้ หากคงติดลบระดับใกล้เคียงเดือนม.ค. (-3.5%) จะกดดันจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น และจะนำไปสู่การปรับลดมุมมองต่อประมาณการ GDP รวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียนในระยะต่อไป นักลงทุนระยะสั้นจึงควรระวังความผันผวนช่วงการประกาศตัวเลขส่งออกเดือนก.พ. รวมถึงของเดือนถัดๆไป ขณะที่นักลงทุนระยะกลางควรรอให้ SET ปรับลดลงสะท้อนความคาดหวังต่อการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนลงมาสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น โดยเรามองจุดเข้าสะสมหุ้นอีกครั้งที่บริเวณ 1445 จุดลงมา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นราวเดือนพ.ค.ที่มีการประกาศงบ 1Q58 เรียบร้อยแล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตของภาคส่งออกกับ GDP ของไทย
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา SNC (+0.65%)
วันนี้แนะนำ “ตัดขาดทุน” ICHI โดยให้ผลขาดทุนราว 9% แนะนำสลับจาก BCP ไป “ซื้อ” KAMART และ BANPU โดย KAMART คาดประเด็นร้ายจบ ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะกลับมาเติบโตเด่นตามการกระตุ้นยอดขายด้วยการเริ่มหันมาโหมโฆษณา ส่วน BANPU คาดกำไรปี 58 เติบโตเด่น +35% YoY จากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะมาหนุนการเติบโต อีกทั้งมี Upside จากแผนนำ BanpuPower เข้าตลาด
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.28
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.76
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.81
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.42
หุ้นใน Smart Port ที่จะจ่ายปันผลได้แก่
26/03/2015 ADVANC 5.96 Baht per share
09/04/2015 MAJOR 0.55 Baht per share
10/04/2015 BANPU 0.70 Baht
17/04/2015 BBL 4.50 Baht per share
17/04/2015 BIGC 2.62 Baht per share
27/04/2015 EFORL 0.01 Baht per share
29/04/2015 SRICHA 1.55 Baht per share
30/04/2015 M 1.00 Baht per share
30/04/2015 MODERN 0.30 Baht per share
30/04/2015 IVL 0.19 Baht per share
07/05/2015 KAMART 0.06 Baht per share
08/05/2015 NBC 0.02 Baht per share