- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 March 2015 16:14
- Hits: 1706
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET lndex : รีบาวน์ในกรอบ
ทิศทางตลาด : SET เมื่อวันศุกร์ปิดที่ระดับ 1,529.96 จุด ลดลง 2.17 จุด (-0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 44,752 ล้านบาท โดยในช่วงเช้า SET มีแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ แต่ยังยืนเหนือ 1520 จุด ขณะที่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา ดันดัชนีแตะระดับสูงสุดของวันที่ 1535 จุด
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวโน้มปรับขึ้น หลังสามารถฟื้นตัวที่บริเวณ 1520 จุดเมื่อวันศุกร์ คาดว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1540 - 1545 จุด ขณะที่แนวรับยังคงอยู่บริเวณ 1520 จุด
Top 5 Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
JAS ลุ้นรีบาวนด์ แต่ถ้าหลุด 5.70 มีโอกาสปรับลงต่อ 5.70 / 5.00 6.20 / 6.50
TRUE รีบาวน์ หากยืนเหนือ 13 บาทได้ 12.70 / 12.40 13.30 / 13.70
ADVANC ปรับฐาน 245 / 240 252 / 256
ITD รีบาวน์ 7.45 / 7.00 8.15 / 8.50
KBANK ปรับฐานระยะสั้น 227.00 / 223.00 231.00 / 235.00
KAMARTS (KAMART TB; THB 7.65) - ซื้อ
แนวต้าน : 8.20 และ 8.50
แนวรับ : 7.60 และ 7.50
ราคาหุ้นปรับขึ้น หลังปรับฐานที่บริเวณ 7.40-7.60 บาท คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิม 8.20 และ 8.50 บาท หากราคายืนเหนือ 7.65 บาทได้แข็งแกร่ง
RSI ฟื้นตัว
แนะนำซื้อ KAMART โดยมีแนวรับระยะสั้น 7.60 และ 7.50 บาท และมีแนวต้านที่ 8.20 และ 8.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.50 ลงไป
Tirathai (TRT TB; THB 6.20) - ซื้อ
แนวต้าน : 6.40 และ 6.60
แนวรับ : 6.15 และ 6.10
ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 6.40 บาท หากราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 และ 75 วันที่ 6.25 และ 6.30 ตามลำดับ
MACD แนวโน้มบวก
แนะนำซื้อ TRT โดยมีแนวรับระยะสั้น 5.95 และ 5.85 บาท และมีแนวต้านที่ 6.40 และ 6.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.05 บาท ลงไป
Analysts :
Pormvilai Samtusatharom +662 657-9230 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ดัชนี ซึมๆช่วงต้นเม.ย.
ทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ยังมีสิทธิที่จะขึ้นไปเล่นในระดับ 1550-1560 จุด ได้ แต่ต้องรอลุ้นตัวเลขการส่งออก-นำเข้า ดัชนีการลงทุนและบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเราคาดว่าตัวเลขจะยังออกมาไม่ดีแต่คงส่งผลต่อดัชนีไม่มากนัก เนื่องจากมองว่าตลาดจะไปตีความว่าโอกาสที่ กนง.จะลดดอกเบี้ยและจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า แต่หากออกมาดี ดัชนี SET จะตอบสนองในเชิงบวกในช่วงสั้นๆ ส่วนการทำปิดงบรายไตรมาส ยังมีโอกาสเกิดขึ้นสูง
สำหรับทิศทางดัชนี SET ในช่วงต้นถึงกลาง เม.ย.จะเต็มไปด้วยความผันผวน เนื่องจากเป็นช่วง Low season ของการลงทุนแต่จะคึกคักบางอุตสาหกรรมอย่าง ที่เกี่ยวโยงการท่องเที่ยว ประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญ คือ การประกาศงบ Q1/15 ของกลุ่มสถาบันการเงิน ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นจากค่า Consensus จาก MSCI Thailand Financial พบว่ายังทรงๆและลดลง สะท้อนมุมมองที่ว่าภาคการเงินยังอยู่ในภาวะซึมตัวและยังไม่ฟื้นตัวโดยเฉพาะอัตราการขยายตัวของสินเชื่อและสัญญาณการเกิด NpL แต่อาจจะออกมาดีในส่วนของสินเชื่อขนาดย่อย หากผลดำเนินงานโดยรวมของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังทรงและซึมลง โอกาสที่จะเห็นดัชนี SET ซึมลงมีโอกาสสูง แต่หากออกมาดีกว่าคาด ดัชนี SET จะยืนและค่อยๆปรับตัวขึ้น
นอกเหนือจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลดำเนินงาน Q1/15 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปัจจัยสำคัญที่ยังกดตลาดหุ้นไทย คือ แนวโน้มเม็ดเงินไหลเข้า ยังไม่เห็น หากจะมีก็เป็นเพียงการ Trading ของนักลงทุนต่างชาติ สัญญาณดังกล่าวอาจดูได้จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันของ MSCI พบว่าตลาดที่เคย Outperform ในช่วงต้นปีอย่างตลาดหุ้นอาเซียนเกิดมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันดัชนีเริ่มติดลบ ขณะที่บางตลาดที่เคย Underperform อย่าง เอเชียเหนือ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี ดัชนีเริ่มปรับตัวสูงขึ้น นอกนั้นเปรียบเทียบจากดัชนีตลาดหุ้นพัฒนาแล้วเทียบตลาดเกิดใหม่ พบว่าดัชนีตลาดหุ้นพัฒนาแล้วปรับตัวขึ้นในแดนบวก ขณะที่ตลาดเกิดใหม่เริ่มปรับตัวลง ดูจากรูปด้านซ้าย
ทิศทางเม็ดเงินไหลเข้าและออก ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลตอบแทนจากการถือสกลุเงินบาทและกำไรโดยรวมของตลาด โดยทั้ง 3 ประเด็นนี้ดูเหมือนเราจะด้อยกว่าที่อื่นทั้งอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ต่ำคู่แข่งในภูมิภาค ขณะที่ค่าเงินบาทยังแข็งกว่าคู่แข่ง ซึ่งเป็นผลจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด จากการหดตัวของการนำเข้า (สินค้าทุน) ส่วนกำไรของตลาดแม้จะดีขึ้นคือขยายตัวถึงประมาณ 20% แต่เป็นผลจากฐานปีที่แล้วต่ำมาก สัญญาณที่บ่งบอกว่ากำไรของตลาดยังไม่ดีขึ้น คือ Earning revision ratio ที่กำลังผงกหัวลงรอบใหม่หลังจากดีดตัวขึ้นมาในช่วงสั้นๆ ตรงนี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มการปรับลดกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ (รูปด้านขวา)
คาดทิศทางดัชนี SET .ในวันนี้จะดีดตัวกลับตามดัชนีในภูมิภาคหลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวและราคาน้ำมันดีดตัวกลับ แต่ปริมาณการซื้อขายคาดยังเบาบาง จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1538-1544 ส่วนแนวรับที่ 1525-1520 จุด.
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
lnvestment Strategy
กลยุทธ์: ทิศทางเม็ดเงินไหลเข้าและออก ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลตอบแทนจากการถือสกลุเงินบาทและกำไรโดยรวมของตลาด โดยทั้ง 3 ประเด็นนี้ดูเหมือนเราจะด้อยกว่าประเทศอื่นทั้งอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ต่ำคู่แข่งในภูมิภาค ขณะที่ค่าเงินบาทยังแข็งกว่าคู่แข่ง ส่วนกำไรของตลาดแม้จะดีขึ้นคือขยายตัวถึงประมาณ 20% แต่เป็นผลจากฐานปีที่แล้วต่ำมาก สัญญาณที่บ่งบอกว่ากำไรของตลาดยังไม่ดีขึ้น คือ Earning revision ratio ที่กำลังผงกหัวลงรอบใหม่หลังจากดีดตัวขึ้นมาในช่วงสั้นๆ ตรงนี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มการปรับลดกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คาดทิศทางดัชนี SET ในวันนี้จะดีดตัวกลับตามดัชนีในภูมิภาคหลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวและราคาน้ำมันดีดตัวกลับ แต่ปริมาณการซื้อขายคาดยังเบาบาง จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1538-1544 ส่วนแนวรับที่ 1525-1520 จุด
Themes play :
KTC : เราแนะนำ ซื้อ KTC ที่ราคาเป้าหมาย 120 บาท โดยเชื่อว่าสถานะที่แข็งแกร่งจะช่วยให้บริษัทสามารถผ่านพ้นช่วงเศรษฐกิจซบเซาด้วยคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและการมีอัตราการตั้งสำรองหนี้สูญที่อยู่ในระดับสูง เราประมาณการว่า KTC จะมีกำไรต่อหุ้นเติบโตเฉลี่ย 18.6% ในปี FY15-17 อิงสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อ 8-9% และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เร่งตัวขึ้น 10.5-12.0% โดยมีปัจจัยผลักดันจากการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกของธุรกิจบัตรเครดิตและมีงบดุลที่แข็งแกร่ง แม้ราคาหุ้น KTC จะ outperform ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา แต่เรามองว่า KTC ยังมีราคาถูกและมูลค่าหุ้นยังไม่สะท้อน ROE ที่สูงถึง 26% ในปี FY15 เราจึงคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นในเร็ว ๆ นี้เมื่อประเมินจากส่วนลดของการประเมินมูลค่าหุ้น เมื่อเทียบกับ SAWAD และ MTLS
Opportunity Day :
23 มี.ค. : CHG TPCH SENA TRC PT PTL
24 มี.ค. : UREKA APCO JSP LDC GCAP TAKUNI SPA
25 มี.ค. : EPG CENTEL TRU
26 มี.ค. : PPS PM BJC ANAN FUTUREPF
ประเด็นในสัปดาห์
23 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนก.พ. โดยตลาดคาด 4.92 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 4.82 ล้านยูนิต
24 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนก.พ. โดยตลาดคาด -0.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.1%, ตัวเลข Markit US Manufacturing PMI เดือนมี.ค. โดยตลาดคาด 54.6 จากเดือนก่อนหน้าที่ 55.1 และตัวเลข New Home Sales เดือนก.พ. โดยตลาดคาด 467,000 ยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 481,000 ยูนิต
Trading Portfolio: ถือ - JAS MINT
Fundamental Stock :
KTC : Initiation - ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคชั้นนำ (แนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 120 บาท)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวต้าน 1540-1545 จุด และมีแนวรับ 1520 จุด
KAMARTS (KAMART TB; THB 7.65) - ซื้อ
Tirathai (TRT TB; THB 6.20) - ซื้อ
SET lndex : แนวรับ 1520 แนวต้าน 1540-1545
Retail Research Team