- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 March 2015 15:02
- Hits: 1956
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : แนวรับ 1515 แนวต้าน 1537 และ 1544
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 15131.50 จุด เพิ่มขึ้น 18.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,385 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1515 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1540-1544 จุด
Daily : ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1505-1515 จุดที่เปิดช่องว่างเอาไว้ และมีแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1537 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1544 จุด ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวของ SET Index มีแนวรับสำคัญที่ 1500 จุด
กลยุทธ์ : SET Index ฟื้นตัวที่แนวรับ 1505-1515 จุด แต่มีแนวต้านในระยะสั้นที่ 1537 จุดที่เส้นแนวโน้มขาลง ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1544 จุด แต่โครงสร้างในระยะยาวยังคงเคลื่อนไหวอยู่แนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1500 จุด
Asia Fund Flow : 18 มีนาคม 2558
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 266 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 349 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 31 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 3 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 31 ล้านเหรียญ
Most Active Value : แนวรับ แนวต้าน
TRUE ทดสอบแนวต้านที่ 13.00-13.20 ถ้าไม่ผ่าน รอซื้อคืนที่แนวรับ 12.50 12.50 / 12.00 13.00 / 13.20
IFEC ขายที่แนวต้าน 15.00 แนวรับ 14.00 และ 13.00 14.50 / 14.00 15.00 / 15.40
ADVANC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 252-254 แนวรับ 247 และ 244 248 / 247 250 / 252
JAS แนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้าน 7.20 และ 7.50 7.10 / 7.00 7.20 / 7.25
BBL แนวต้านสำคัญ 186-187 ถ้าผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อ แนวต้านถัดไป 195 184 / 182 186 / 187
SCC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 530 และ 540 แนวรับ 520 และ 514 520 / 514 526 / 530
ITD ฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญ 7.70 แนวต้าน 8.40 เป็นจังหวะขายทำกำไร 7.90 / 7.80 8.10 / 8.20
KBANK สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 230 และ 236 224 / 220 230 / 236
PTT สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 330 และ 340 แนวรับ 320 324 / 320 330 / 340
KTB แนวโน้มขึ้นทดสอบ 23.50 และ 24.00 แนวรับสำคัญ 22.70 23.00 / 22.80 23.40 / 23.60
Demco (DEMCO TB; THB 14.20) – ซื้อ
แนวต้าน : 15.00 และ 16.00 / แนวต้านสำคัญ 16.50
แนวรับ : 14.20 และ 14.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ DEMCO โดยมีแนวรับที่ 14.20 และ 14.00 และมีแนวต้านที่ 15.00 และ 16.0 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.80 ลงไป
GFPT (GFPT TB; THB 11.90) – ซื้อ
แนวต้าน : 13.00 และ 13.60
แนวรับ : 11.90 และ 11.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้นที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงหลังจากปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับสำคัญ
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 30
แนะนำซื้อ GFPT โดยมีแนวรับที่ 11.90 และ 11.60 และมีแนวต้านที่ 13.00 และ 13.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 11.50 ลงไป
Analysts : Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ทิศทางดัชนี SET หลังประธาน FED ออกมาพูดทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยและก็ไม่ทิ้งโอกาสในการขึ้นในกลางปี โดยได้ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเป้าหมายเงินเฟ้อลง ส่งผลให้ตลาดตีความว่า FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีนนี้ จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นระยะสั้น และจะขึ้นไปเล่นกันที่กรอบ 1550+/- จุดจนกว่าจะถึงปลายเดือน ที่ดัชนีอาจจะกลับมาคึกคักและผันผวนแรงๆอีก วันนี้คาดดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นต่อหลังได้รับแรงหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ ข่าวการประมูล 4G ในเดือน ส.ค.และการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน โดยมีแนวต้านที่ 1545-1550 จุด ส่วนแนวรับที่ 1525-1520 จุด
Themes play :
ICHI : เราแนะนำ ซื้อ ICHI โดยมีราคาเป้าหมาย 26.10 บาท โดยเรามีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการดำเนินงานของบริษัทในอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งการเข้าสู่ตลาดน้ำผลไม้ในประเทศ ด้วยแบรนด์ "ไบเล่" (เริ่มขาย มี.ค.15) รวมทั้งการขยายตลาดไปยังต่างประเทศในกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย (เริ่ม 2Q15) เราคาดว่าในปี 15 รายได้ของบริษัทจะเติบโตได้ 22% yoy จากการเพิ่มปริมาณขายในสินค้าทุกประเภท แต่ทางด้านกำไรสุทธิ จะเพิ่มขึ้น 8% น้อยกว่าการเติบโตของรายได้ เนื่องจากเราประเมินว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากการเปิดตลาดในประเทศอินโดนีเซียในช่วง 2 ปีแรก แต่กำไรจะกลับมาโต 26% ในปี 16-17 จากการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20% เป็น 1.2 พันล้านขวด และ 200 ล้านกล่อง ต่อปี โดยรวมแล้วเราคาดรายได้และกำไรของ ICHI ยังคงเติบโตได้ 18% และ 17% CAGR FY15-17 ตามลำดับ
Opportunity Day :
19 มี.ค. : DRT NDR ICHI MBKET AIT QTC TKT
23 มี.ค. : CHG TPCH SENA TRC PT PTL
24 มี.ค. : UREKA APCO JSP LDC GCAP TAKUNI SPA
25 มี.ค. : EPG CENTEL TRU
26 มี.ค. : PPS PM BJC ANAN FUTUREPF
ประเด็นในสัปดาห์
23 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนก.พ. โดยตลาดคาด 4.94 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 4.82 ล้านยูนิต
24 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนก.พ. โดยตลาดคาด -0.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.1%
24 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit US Manufacturing PMI เดือนมี.ค. โดยตลาดคาด 55.3 จากเดือนก่อนหน้าที่ 55.1
24 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข New Home Sales เดือนก.พ. โดยตลาดคาด 475,000 ยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 481,000 ยูนิต
Trading Portfolio: ถือ - JAS MINT
Fundamental Stock :
SAT : Flash Note - เริ่มเห็นการฟื้นตัวชัดเจน (แนะนำ : ซื้อราคาเป้าหมาย 20.50บาท)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวต้านในระยะสั้นที่ 1537 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1544 จุด แต่โครงสร้างในระยะยาวยังคงเคลื่อนไหวอยู่แนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1500 จุด
Demco (DEMCO TB; THB 14.20) - ซื้อ
GFPT (GFPT TB; THB 11.90) - ซื้อ
SET Index : แนวรับ 1515 แนวต้าน 1537 และ 1544
Retail Research Team
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ปรับตัวขึ้นต่อแต่ยังไม่ไกล
การอ่อนตัวของค่าเงินสกลุต่างๆเทียบดอลลาร์สหรัฐ เริ่มปรากฏให้เห็นชัดมากขึ้นหลังธนาคารกลางใหญ่ๆใช้นโยบาย QE แนวโน้มดังกล่าวยังคงมาแรง โดยเฉพาะการแข่งขันเรื่องค่าเงิน จากรูปด้านซ้าย จะพบว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของกลุ่มยูโร ส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินยูโรอ่อนตัวเทียบดอลลาร์ซึ่งอ่อนตัวถึง 12.6% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มีการมองกันว่าค่าเงินยูโรเทียบดอลลาร์น่าจะอ่อนไปที่ระดับ 1 ยูโรต่อ 1 ดอลาร์หรือต่ำกว่า หากทิศทางค่าเงินส่วนใหญ่ยังแข่งกันอ่อนตัว เพื่อเร่งกระตุ้นการส่งออก ค่าเงินบาทไทยก็น่าที่จะอ่อนตัวลงไปมากกว่า 33 บาท ปัจจุบันค่าเงินบาทและเปโซเทียบดอลลาร์ แข็งตัวมากกว่าค่าเงินในกลุ่มอาเซียนอย่าง อินโดนีเชีย มาเลเชีย สิงคโปร์
ทิศทางค่างินบาทหากยังแข็งตัวเทียบภูมิภาค ภาคการส่งออกน่าจะยังฟื้นตัวช้ากว่าคาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงและต้องอ่อนในระดับแข่งกับค่าเงินคู่แข่งได้ น่าจะส่งผลต่อกลุ่มดัชนีบางกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนตัว อย่าง กลุ่มส่งออกทั้งอาหารทะเลแช่แข็ง ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์และรถยนต์ ซึ่งสามารถดูได้จากดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจจะมีเหตุผลอื่นสนับสนุนด้วยอย่าง กลุ่มชิ้นส่วนทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว
ดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ของไทย เมื่อเทียบกับดัชนี กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดฟิลาเดลเฟียของสหรัฐ จะพบว่าเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันมาโดยตลอด โดยรอบล่าสุดดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนของไทย ขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2012 ถึงปัจจุบัน (ให้ค่าสหสัมพันธ์ในทางเดียวกันถึง 0.9654 ความถี่รายสัปดาห์) โดยขึ้นสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปีซึ่งเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ขึ้นสร้างสถิติสูงสุด นั่นอาจจะกำลังบ่งบอกว่าเป็นกลุ่มหนึ่งที่จะได้ประโยชน์จากการแข่งขันเรื่องการอ่อนตัวของค่าเงินรอบใหม่ (ดูรูปด้านขวา)
หุ้นในกลุ่มนี้ถึงแม้จะได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวของค่าเงิน แต่ด้วยราคาหุ้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนกำไรทำไม่ทัน ส่งผลให้ค่า P/E เริ่มแพง กลยุทธ์การลงทุนอาจต้องรอให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงต่ำกว่าปัจจุบัน สัญญาณดูได้จากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลางทั้ง HANA DELTA SVI และ KCE
ส่วนทิศทางดัชนี SET หลังประธาน FED ออกมาพูดทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยและก็ไม่ทิ้งโอกาสในการขึ้นในกลางปี โดยได้ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเป้าหมายเงินเฟ้อลง ส่งผลให้ตลาดตีความว่า FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีนนี้ จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นระยะสั้น และจะขึ้นไปเล่นกันที่กรอบ 1550+/- จุดจนกว่าจะถึงปลายเดือน ที่ดัชนีอาจจะกลับมาคึกคักและผันผวนแรงๆอีก วันนี้คาดดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นต่อหลังได้รับแรงหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ ข่าวการประมูล 4G ในเดือน ส.ค.และการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน โดยมีแนวต้านที่ 1545-1550 จุด ส่วนแนวรับที่ 1525-1520 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]