- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 June 2014 16:29
- Hits: 2734
บล.ทรีนีตี้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Sideway up ยกเลิกเคอร์ฟิวอีก 20 จังหวัด
ตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยมีแรงขายทำกำไรเข้ามาเป็นระยะหลัง DJIA ทำ new high ไปก่อนหน้า ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีต่อเนื่อง โดยความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็กเดือน พ.ค. ทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ที่ระดับ 96.6 จุด ขณะที่สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน เม.ย. ปรับตัวเพิ่ม 1.1% สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาด Sideway up ขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1475-1480 จุด จากปัจจัยในประเทศ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดเป็น noise กดดันตลาด ทั้งนี้ เรายังคงมุมมองบวกต่อ Sentiment ของตลาด และความมั่นใจการลงทุนของต่างชาติที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลัง คสช. ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวอีก 20 จังหวัด คาดหุ้นกลุ่ม Domestic play เช่น ท่องเที่ยว รับเหมาฯ นิคมฯ และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ CENTEL, AAV, NOK, AOT, ITD, CK, STEC, AMATA, HEMRAJ, BBL, SCB, KBANK ยังคงเป็น theme หลักการเข้าลงทุนและคาดว่าจะปัจจัยสำคัญนำดัชนีขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1500 จุดในระยะกลาง
ขณะที่ มหกรรมฟุตโลกคาดว่าส่งผลบวกระยะสั้นต่อกลุ่มค้าปลีก โดย Top pick ของเราคือ CPALL เนื่องจากช่วงเวลาแข่งเป็นช่วงกลางดึก นอกจากนี้ ติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างพลังงานซึ่งคาดว่าน่าจะเห็นแนวทางใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ คาดหุ้นกลุ่ม PTT ยังคง underperform ตลาดจนกว่าจะมีความชัดเจน
คาดปัจจัยต่างประเทศเป็น noise กดดัน SET Index หลังธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลกปี 57 จากระดับ 3.2% เหลือเพียง 2.8% โดยเป็นการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษบกิจสหรัฐฯ (จาก 2.8% เป็น 2.1%) และจีน (จาก 7.7% เป็น 7.6%) ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง เรามองว่าอาจมีการพักฐานในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัว Sideways up ในช่วง 1-2 เดือนนี้ต่อไป โดยยังคงมองปัจจัยสนับสนุนหลักได้แก่ Fund flow ที่เตรียมไหลเข้าจากปรากฏการณ์ EUR carry trade และคาดการณ์การทำ QE ของ ECB ในช่วงถัดไป เมื่อบวกกับการมีส่วนร่วมของนักลงทุนในประเทศในระดับสูง น่าจะช่วยหักล้างแรงขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศในเดือนนี้ได้ ยังคงระดับเป้าหมายเดิมที่ 1480-1500 จุด และแนะนำให้เริ่มหันมา Switch การลงทุนเข้าสู่หุ้นกลุ่มขนาดใหญ่มากขึ้นโดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากน่าจะเป็นเป้าหมายหลักของ Fund flow และการทำ Window dressing ในช่วงถัดไป
Stock S R Comment
AAV 4.15 4.30 แนวโน้ม 2Q57F ฟื่นตัว การเมืองคลี่คลาย
CENTEL 35.00 37.50 อานิสงส์ การฟื้นฟูท่องเที่ยว ยกเลิกเคอร์ฟิว
SCB 169.50 175.00 คาดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะหนุนธุรกิจฟื้นตัวแรง
VGI 12.80 13.40 มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย
แนวรับ 1,456 แนวต้าน 1,482
หุ้นมีข่าว :
JAS ซื้อหุ้นคืน 1 พันล้านบาท : โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 10% ของหุ้นทั้งหมด (ซื้อคืนราว 7.1 ร้อยล้านหุ้น จาก 7.1 พันล้านหุ้น) โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อิงราคาซื้อคืนที่ 8.05 บาท จะซื้อหุ้นคืนได้ในจำนวนราว 1.24 ล้านหุ้น หรือราว 1.7% ของหุ้นทั้งหมดราคารวมผลกระทบจากการซื้อคืนอยู่ที่ราว 8.20 บาทโดยจะซื้อหุ้นคืนในช่วงระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2557โดยจะส่งผลกระทบต่อ EPS ทั้งปี 2557 (จากที่เราคาดการณ์ไว้) เดิม 0.50 บาท ปรับเป็น 0.51 บาท และกระทบราคาเป้าหมายจากเดิม 9.80 บาท ปรับเป็น 9.90 บาท
กสิกรไทยเร่งยอดขายประกัน ดันค่าฟีเพิ่ม : ผู้บริหาร KBANK ชี้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของคสช. หากมีการเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม จะช่วยให้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันผ่านธนาคารเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ไว้เติบโต 17% สำหรับเป้าหมายเบี้ยรับรวมปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 4.7-4.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 23% ขณะที่มองว่าภาพรวมธุรกิจประกันยังมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดทั้งปีธุรกิจประกันชีวิตจะมีอัตราเติบโตประมาณ 12% และธุรกิจประกันวินาศภัยมีอัตราเติบโตประมาณ 10% สำหรับความเห็นของเรามองว่าหากธุรกิจประกันมีการฟื้นตัวจริงจะเป็นผลดีต่อธนาคาร เนื่องจากในไตรมาสแรกที่ผ่านมาอัตราการเติบโตจากรายได้ค่าธรรมเนียมชะลอตัวลง ทำให้เราคาดทั้งปีเติบโตเพียง 12% เท่านั้น โดยหากเริ่มเห็นทิศทางของธุรกิจที่ดีขึ้น เราจะทบทวนประมาณการใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยปัจจุบันยังคงแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ KBANK ให้ราคาเป้าหมายที่ 204 บาท
VGI มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย : ตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ของสื่อโฆษณานอกสถานที่เป็น 50% จาก 30% ในปัจจุบัน ซึ่งจะมาจากการหาพันธมิตรร่วมทุนและการเข้าซื้อกิจการ โดยปัจจุบันมีการเจรจาอยู่หลายแห่ง แหล่งเงินทุนจากการแปลงสภาพ Warrant อายุ 4ปี จำนวน 12,000 ล้านบาท เฉลี่ย 3,000 ล้านบาทต่อปี และเงินสดในมือ ทั้งนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% แบ่งรายได้ของ BTS Related Media ที่มองว่าจะเติบโตได้ 22-24%, modern trade 5-9% และ Office Building & Other Media 7-10% และได้ประโยชน์การบันทึกกำไรและรายได้ปันผลของ MACO
ประเมินว่าโดยมองว่า ในช่วง 1Q57/58 เม็ดเงินจากการโฆษณาจะมีเข้ามามากขึ้น ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ ประกอบกับฟุตบอลโลกเข้ามาหนุน โดยในปี57/58 นี้ได้ตั้งงบลงทุนไว้ทั้งสิ้น 600 ล้านบาท แบ่งเป็นสื่อโฆษณาใน BTS 230 ล้านบาท, Platform Screen Door 290 ล้านบาท, สื่อ Modern Trade 50 ล้านบาท และสื่อ Office Building จำนวน 30 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD และ XW 9 ก.ค. 57 จ่ายเงินปันผล 0.13 บาทต่อหุ้น และ Warrant อัตรา 4:1 ราคา Median Consensus 10.57 บาท