- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 March 2015 17:09
- Hits: 1490
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'รอดูผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้า'
Top Picks-Fund March 2015 : Fundamental : AP, AOT, INTUCH, TOP Dark Horse: SEAFCO, VNG
Top Picks -Fund Today: NWR (ดูรายละเอียดใน Company Focus วันนี้)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : BIGC 34%, BAY 21%, ESSO 17%, ADVANC 13%, BJC 12%, RATCH 12%, TTW 10%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นบวกเล็กๆ แต่ยังต้องระวังการอ่อนตัวต่อหลังรีบาวด์
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1550,1560-70 หลุด 1530
SET50 ซื้อค่าบวก 1020-30,1040 หลุด 1005
Top Picks-Tech Today : ASK, NWR, AP, SGP, CBG, CWT, WORK, BEAUTY
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SEAFCO (ปรับจาก Fully Valued เป็น ถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1534-1549 จุด ปิดตลาดทรงตัวที่ 1544.34 จุด โดยหุ้นกลุ่มสื่อสารที่จ่ายปันผลดี เช่น INTUCH, DTAC มีแรงซื้อเข้ามา กลุ่มรับเหมาก่อสร้างขยับบวกเล็กน้อย จากการที่กระทรวงคมนาคมจะนำโครงการรถไฟทางคู่ (จิระ-ขอนแก่น) เข้าพิจารณาในครม.เดือนมี.ค.58 และจะเปิดประมูลเดือนก.ค.นี้ นักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศขายสุทธิกลุ่มละประมาณ 400 กว่าล้านบาท
ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยซื้อสุทธิ
ระยะสั้นมาก Sentiment ดีขึ้นหลังกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วผ่อนคลายลงเมื่อยอดค้าปลีกเดือนก.พ.58 ของสหรัฐหดตัวต่อเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ตามต้องติดตามผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้าว่าจะส่งสัญญาณที่เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยอย่างไร (เฟดจะยังใช้คำว่า "อดทน" รอพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อหรือไม่) และนโยบายด้านการลดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐ ส่วนการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ทรอยก้ายังไม่คืบหน้า ส่วนในประเทศ รัฐบาลชะลอโครงการหวยออนไลน์, จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ออกไปก่อน ขณะที่ BTS ยังไม่ปรับขึ้นค่าโดยสาร ทั้งนี้เพราะภาวะเศรษฐกิจรวมยังไม่ดี โดยธปท.จะปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยอีกครั้งในวันที่ 20 มี.ค.นี้ กลยุทธ์ : เลือกซื้อเป็นรายบริษัท โดยหุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น NWR
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ แนวต้านระยะสั้นมาก 1550, 1560-1570 จุด แนวฟิวเตอร์ที่ไม่ควรหลุด 1530 เน้นซื้อตามด้วยค่าบวกเป็นหลัก ค่าลบดูไม่ดี หลุดฟิวเตอร์ควรลดพอร์ตตามหรือ Stop Loss
สำหรับการ SCAN หาหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ใน List เป็น ASK, BEAUTY, KTP, CWT ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TCC หุ้นที่หลุด List เป็น NMG, IFS ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้ว และอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ EPG
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- ยูโรโซน : ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมม.ค.58 ลดลง 0.1%MoM แต่เพิ่มขึ้น 1.2%YoY โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเปราะบาง และการอ่อนค่าของเงินยูโรยังไม่ช่วยกระตุ้นภาคส่งออกมากนัก
- สหรัฐ : ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ของสหรัฐลดลง 0.6%MoM สู่ระดับ 4.37 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%MoM ซึ่งการจับจ่ายใช้สอยผู้บริโภคคิดเป็นประมาณ 60% ของ GDP สหรัฐ
+ สหรัฐ : ภาคแรงงานฟื้นตัวดีต่อเนื่อง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุด 7 มี.ค. ลดลง 36,000 ราย สู่ระดับ 289,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 305,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : บวกขึ้นจากความวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วผ่อนคลายหลังยอดค้าปลีกเดือนก.พ.58 แย่กว่าคาด ดัชนี DJIA ปิดที่ 17,895.22 จุด พุ่งขึ้น 259.83 จุด หรือ +1.47% ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 43.35 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 25.71 จุด หรือ +1.26%
- สัญญาน้ำมันดิบยังอ่อนแอ : โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเม.ย.ลดลง 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 57.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำเด้งแต่น้อย โดยสัญญาที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ระดับ 1,151.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
นายกฯให้ชะลอการพิจารณาเรื่องจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในครม.ออกไปก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ค่อยดีนัก จึงอาจเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมในการเพิ่มภาระภาษีให้ประชาชน และเมื่อเศรษฐกิจเติบโตดีแล้วค่อยนำเรื่องนี้มาพิจารณาดำเนินการอีกครั้ง
BTS ยืนยันยังไม่ปรับขึ้นราคาค่าตั๋วโดยสาร (ปัจจุบันอยู่ที่ 15-42 บาทต่อเที่ยว) ภาครัฐ & เอกชนเร่งทำระบบตั๋วร่วม โดยรัฐถือหุ้นไม่เกิน 50% เพื่อไม่ให้เป็นรัฐวิสหกิจ
ชะลอหวยออนไลน์ เนื่องจากต้องตรวจสภาพเครื่องขายหวย 5.5 พันเครื่องให้เรียบร้อยก่อน (ทาง LOXLEY กล่าวว่าในเบื้องต้น 70% ใช้งานได้)
+ อุตสาหกรรมไก่ : คาดอุปทานล้นเกินจะคลี่คลายลงในอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้านี้ เนื่องจากขณะนี้มีโรคไข้หวัดนกแพร่ระบาดในแหล่งที่เป็นปู่ย่าและพ่อแม่พันธุ์ไก่ทั้งในยุโรปและสหรัฐ (ล่าสุดมีข่าวว่าทางการเนเธอร์แลนด์สั่งให้กำจัดไก่ที่มีเชื้อไข้หวัดนกไปหลายแสนตัว ด้านทางการฮ่องกงประกาศระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกและไข่จากเมืองบูน เคาน์ตี้ รัฐอาร์คันซอส์ของสหรัฐ และรัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกชั่วคราวจากรัฐไอดาโฮและวอชิงตันของสหรัฐแล้ว) ซึ่งไทยก็มีการระงับการนำเข้าปู่ย่าและพ่อแม่พันธุ์ในบางพื้นที่ของสหรัฐและยุโรปเช่นกัน ยังผลให้ปริมาณผลผลิตไก่ในอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้ามีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ความเห็น Retail Research : เป็นข่าวบวกกับผู้ประกอบการไก่ เช่น GFPT, CPF โดยคาดว่าราคาไก่ในประเทศที่ตกต่ำเพราะประสบปัญหาอุปทานสูง โดยกลุ่มสหฟาร์มผลิตไก่เพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนตัวต่อวันในช่วงที่ผ่านมา จากก่อนหน้าผลิตที่ 2-2.5 แสนตัวต่อวัน และน้ำหนักไก่ต่อตัวเพิ่มขึ้นในช่วงอากาศเย็น กำลังจะค่อยๆ คลี่คลายลงเพราะปริมาณนำเข้าปู่ย่าและพ่อแม่พันธุ์ที่จำกัดลงมากทำให้อุปทานใหม่จะเกิดขึ้นได้น้อย ทำให้ราคาไก่มีโอกาสที่จะปรับขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 40 บาท/กก.ได้อีกครั้ง ราคาหุ้น GFPT และ CPF ที่ปรับลดลงแรงเป็นโอกาสในการทยอยซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาว (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Sector Focus ด้านใน)
+ โครงการลงทุนภาครัฐกำลังจะคืบหน้ามากขึ้นหลังล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมจะนำโครงการรถไฟทางคู่ (จิระ-ขอนแก่น) 185 กม. วงเงินลงทุน 2.6 หมื่นล้านบาท เข้าพิจารณาในครม.เดือนมี.ค.58 และจะเปิดประมูลเดือนก.ค.นี้ โดยขณะนี้เรื่องผ่านการพิจารณาของคสช.แล้ว รอเสนอคนร.หรือซูเปอร์บอร์ดอนุมัติ
ความเห็น Retail Research : แม้ว่าการพัฒนาโครงการขนส่งจะล่าช้า (เดิมโครงการนี้จะเข้าพิจารณาในครม.เดือนม.ค.58 แต่ล่าช้ามาประมาณ 2 เดือน) แต่หลังจากนี้ไปคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าของโครงการต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง & วัสดุก่อสร้าง ที่จะมีโอกาสได้งาน/ยอดขายเข้ามาเพิ่มในอนาคต และการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่จะช่วยกระตุ้นให้บริษัท SME ที่อยู่ใน Supply Chain ขยับตัวตามไปด้วย หุ้นเด่นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คือ CK ส่วนเก็งกำไรเป็น NWR สำหรับหุ้นเด่นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง คือ SCC
+ SEAFCO : ผู้บริหารประเมินธุรกิจปี 58 ยังไปได้ดีและมีโอกาสเติบโต โดยนโยบายบริษัทคือเน้นรับงานที่มีมาร์จิ้นดี ทำธุรกิจแบบพันธมิตร โดยปีนี้เพิ่มเครื่องจักร 4 ชุดรองรับงานที่คาดว่าจะเข้ามาเพิ่ม ยังไม่มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน คาดรายได้ปี 58 จะเติบโต 15% ณ สิ้นปี 57 มี Backlog 1.04 พันล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาไตรมาสละ 500 ล้านบาทในปีนี้ (รวมงานที่ประเทศพม่าด้วย) ที่ผ่านมา % ความสำเร็จของานที่ประมูลอยู่ที่ราว 30%
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค [email protected]