- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 March 2015 16:49
- Hits: 1394
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +259.83, NASDAQ +43.35, S&P +25.71, FTSE +39.56, CAC -10.42 และ DAX -6.60 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีก - กพ. ลดลง 0.6% สู่ระดับ 4.37 แสนล้านUSD โดยลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสะท้อนภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้คาดว่าเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยอดค้าปลีกที่ลดลงดังกล่าว ยังช่วยสกัดการแข็งค่าของเงินสหรัฐฯ ด้วย จากความกังวลก่อนหน้าว่าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มบริษัทส่งออก นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุด ลดลง 36,000 ราย สู่ระดับ 289,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน เมย. -US$1.12 อยู่ที่ US$47.05 ต่อบาร์เรล
ภายใต้ความกังวลอุปทานน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่ความต้องการส่งสัญญาณชะลอตัว โดยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังไม่มีแนวโน้มลดปริมาณผลิตลง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ – กพ. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
......ราคาทองคำส่งมอบเดือน เม.ย. +US$1.3 อยู่ที่ US$1,151.9 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -414 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -8,767 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับขึ้น ภายใต้ปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะต่อประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ลดความกังวลลง หลังตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯ ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ตามยังแนะติดตาม (1) การประชุมเฟด (17 – 18/3/58) ว่าจะมีการส่งสัญญาณออกมา? และ (2) สถานการณ์ในกรีซ ภายใต้ประเด็นต่อรองเพิ่มเติมก่อนหนี้จะครบกำหนดอีกครั้งประมาณมิย.’58 ซึ่งอาจสร้างความ
ผันผวนให้กับตลาดฯ ต่อมาตรการรัดเข็มขัดซึ่งเป็นเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซ รวมถึงแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ ที่ทาง EU, ECB และ IMF จะพิจารณา
.....แต่คาดการเคลื่อนไหวของตลาดฯ อาจอยู่ในกรอบแคบ โดยคาดยังคงได้รับปัจจัยลบจาก Fund Flow หลังต่างชาติกลับขายสุทธิ อีกกว่า 400 ล้านบาท และแนะติดตามค่าเงินบาท โดยล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.82 บาท ทรงตัวจากเมื่อวานนี้
.....รวมถึงประเด็นที่กระทรวงการคลังจะนำแผนการกู้เงินเพื่อลงทุนเพิ่มเติมในปีงบประมาณ’58 ต่อครม. ในสัปดาห์หน้า จำนวน 57,000 ล้านบาท แบ่งเป็น (1) โครงการบริหารจัดการน้ำ ประมาณ 23,000 ล้านบาท และ (2) โครงการซ่อมสร้างถนน ของกระทรวงคมนาคม อีกประมาณ 34,000 ล้านบาท ซึ่งคาดทำให้มีความต้องการยางมะตอย และคาดมีแรงเก็งกำไรในหุ้น TASCO ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยางมะตอยรายใหญ่ในประเทศ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.10% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.45 อยู่ที่ 15.42
หุ้นแนะนำ : SEAFCO
ประเด็นที่ต้องติดตาม (13 - 17 มีค.’58)
13/3/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - กพ. (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น- มีค.
17/3/58 : ประชุมเฟด (วันแรก)
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788