- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 March 2015 19:20
- Hits: 1599
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เน้นซื้อด้วยค่าบวกเป็นหลัก"
Top Picks-Fund March 2015: Fundamental : AP, AOT, INTUCH, TOP Dark Horse: SEAFCO, VNG
Top Picks -Fund Today: SPF (ดูรายละเอียดได้ใน Company Foucs วันนี้)
Top Picks-High Div Yield: ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : MAKRO 32%, SCCC 28%, BJC 25%, TTCL 23%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นลบ แต่มีโอกาสรีบาวด์ก่อนลงต่ำต่อ
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1570-1580 ค่าลบ
SET50 ซื้อค่าบวก 1040-1050 ค่าลบ
Top Picks-Tech Today : GL, ITD, SAMTEL, TCC, CWT, MILL, TSR, SST
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้: ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน: ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิด -8.58 จุด ที่ 1559.71 มูลค่าซื้อขายลดลงเป็นประมาณ 4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนที่ขายปรับพอร์ตไปแล้วก็ Wait & See ว่าจะมี Fund Flow ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นหรือไม่หลังยุโรปทำ QE ขณะเดียวกันภาพสัญญาณทางเทคนิคก็เป็นลบเพิ่มด้วย นักลงทุนสถาบันในประเทศนำขายสุทธิ 1.9 พันล้านบาท รายย่อยนำซื้อสุทธิ 1.7 พันล้านบาท ส่วนต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิเพียงเล็กน้อย
สำหรับวันนี้ตลาดไม่ได้มีปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญ ตลาดหุ้นเอเชียมีรีบาวด์เล็กๆ โดยข่าวการเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมนีของ ECB ยังไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดมากนัก การลงทุนในตลาดหุ้นต่างๆ เน้นไปยังการเลือกซื้อเป็นรายบริษัทมากกว่า เช่น ในสหรัฐก็เลือกซื้อหุ้นที่มีข่าวเข้าซื้อกิจการ และหุ้น Apple ที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ & การเข้าไปคำนวณในดัชนี DJIA เป็นต้น สำหรับในประเทศ ประเด็นที่ติดตาม คือ ผลประชุมกนง.ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ก่อน รวมถึงภาษีที่ดิน & สิ่งปลูกสร้าง ซึ่งตลาดที่ขาดปัจจัยบวกกระตุ้นก็ต้องระวังการอ่อนตัวจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.58 ด้วย กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงเน้นเลือกซื้อเป็นรายบริษัท หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น SPF ซึ่งได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และให้ปันผลสูง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้นมากสัญญาณเปลี่ยนกลับมาเป็นลบอีกครั้ง แต่ก็มีโอกาสรีบาวด์ก่อนลงต่ำต่อ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนีและราคาหุ้น แนวต้านระยะสั้นมากอยู่ที่ 1570-1580 จุด ค่าลบควรชะลอการลงทุน เพราะการหลุด 1560 จุดและติดลบต่อทำให้มีโอกาสเกิด New Low ที่ต่ำกว่า 1545 จุด โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1520-1510 หรือต่ำกว่า สำหรับการ SCAN หาหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high พบว่า หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RCI, AAV, GENCO หุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ CHG, FORTH, SYNTEC, UNIQ หุ้นที่หลุด List -ไม่มี- และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ KTB, AP, CBG
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ ECB เริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมนีเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการ QE ส่งผลให้ Bond Yield ของเยอรมนีและยูโรโซนอ่อนตัวลง ทั้งนี้ ECB หวังว่ามาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวดีขึ้น ล่าสุดได้ปรับประมาณการตัวเลข GDP Growth ปี 58 ของยูโรโซนขึ้นเป็น +1.5% จากเดิม +1.0% โดยกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากค่าเงินอ่อน คือ ส่งออก & ท่องเที่ยว และภาคธุรกิจได้รับประโยชน์จากต้นทุนการเงินที่ต่ำลง ขณะที่ภาคการเงินได้อานิสงค์จากอุปทานเงิน (Money Supply) ที่มากขึ้น
กรีซ : จะเจรจาเรื่องแผนปฎิรูปพุธนี้ คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคจากกรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในวันพุธที่ 11 มี.ค.58 ที่กรุงบรัสเซลส์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก EU, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
+ ตลาดหุ้นสหรัฐรีบาวด์ โดยดัชนี DJIA บวกขึ้น 138.94 จุด หรือ +0.78% ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 15.07 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 8.17 จุด หรือ +0.39% โดยมีข่าวควบรวมกิจการหนุน (อัลโค อิงค์จะเข้าซื้อกิจการบริษัทอาร์ทีไอ อินเตอร์เนชันแนล เมทัลส์ อิงค์ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และไซมอน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป เสนอซื้อกิจการเมซีริช มูลค่า 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์) และหุ้นแอปเปิลปรับขึ้นต่อหลังจะเข้าไปคำนวณในดัชนี DJIA และเปิดตัว"แอปเปิล วอทช์" นาฬิกาอัจฉริยะ
/- สัญญาน้ำมันดิบแกว่ง-อ่อนตัว โดย WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ร่วงลง 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ตลาดน้ำมันยังวิตกกับสต็อกน้ำมันดิบที่สูงมากของสหรัฐ โดยนายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มโอเปกกล่าวว่าขณะนี้มีอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินในตลาดอยู่ที่ 2 ล้านบาร์เรล/วัน
+สัญญาทองคำตลาด COMEX รีบาวด์ โดยสัญญาส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ +0.19% ปิดที่ระดับ 1,166.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ค่าเงิน US$ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับยูโร รับข่าวมาตรการ QE ของ ECB ซึ่งการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐกดดันราคาทองคำ
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
/- กลุ่มที่พักอาศัย : ผู้ซื้อรอดูความชัดเจนเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ล่าสุดมีข่าวว่าที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาทได้รับการยกเว้นภาษี และจ่ายภาษี 50% กรณีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท ที่ดินรกร้างเก็บภาษี 0.5% ในขั้นแรกและเพิ่ม 1 เท่าในทุก 3 ปี แต่ไม่เกินเพดาน 2% อย่างไรก็ตาม รายละเอียดยังไม่นิ่งและอาจเปลี่ยนแปลงได้อีก
ความเห็น Retail Research : ประเด็นเรื่องภาษีทำให้เกิดความกังวลว่าราคาที่พักอาศัยจะเพิ่มขึ้นเพราะผู้ประกอบการผลักภาระที่สูงขึ้นมาให้ผู้บริโภค ซึ่งก็มีโอกาสเป็นไปได้แต่คาดว่าผลกระทบตรงนี้จะไม่เกิน 1% ของราคาบ้านที่มีราคาสูงกว่า 1.5 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนเรื่องการตัดสินใจซื้อที่พักอาศัยช่วงสั้นอาจชะลอเพราะผู้ซื้ออยากเห็นข้อสรุปรายละเอียดเรื่องภาษีที่ชัดเจนก่อน รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ซบเซาก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การซื้อขายไม่คึกคักมากนัก ยกเว้นในทำเลดีมากจริงๆ ก็ยังมีดีมานด์ที่แข็งแกร่ง ช่วงนี้เราให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มที่พักอาศัยเป็น Neutral โดยเน้นเลือกซื้อเป็นรายบริษัท หุ้นเด่นเป็น AP, PS, QH
EGAT จะเริ่มตั้ง IFF มูลค่า 2 หมื่นล้านบาทใน 2Q58 (เลื่อนจากแผนเดิมที่ 1Q58) โดยขณะนี้กำลังจะนำเรื่องสู่การพิจารณาของครม. เมื่ออนุมัติแล้วจะยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.ซึ่งต้องใช้เวลาอีกพอควร
- EGAT กำลังพิจารณาเลื่อนการรับซื้อไฟฟ้า IPP & SPP เพราะประเมินว่าจะมีไฟฟ้าเข้าระบบในปี 62-63 จำนวนมากขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจไทยไม่สูง และทางการมีแผนพึ่งพาพลังงานทางเลือกมากขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า ซึ่งทำให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าจะเพิ่มเป็น 40% จากระดับปกติที่ 15% ทั้งนี้ EGAT คาดว่าจะเลื่อนการสร้างโรงไฟฟ้าวังน้อยเครื่องที่ 1-2 กำลังผลิต 1,200 MW และเจรจาเลื่อนก่อสร้างกับโรงไฟฟ้า SPP และ IPP ออกไปก่อน โดยในส่วนของบริษัท NPS ฉะเชิงเทราจะเลื่อนออกไป 4 ปี (เดิมจะจ่ายไฟเข้าระบบปี 59) และของกลุ่มกัลฟ์ เจพี กำลังการผลิต 5,000 MW (เดิมจะจ่ายไฟต.ค.61)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]