- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 March 2015 18:58
- Hits: 1113
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มแกว่งทรงตัว คาดมีลุ้นรอบรีบาวด์ขึ้นในช่วงนี้ได้...
กลยุทธ์ : เรายังคาดว่า SET มีสิทธิรีบาวด์กลับไปขยับบวกหลังลงแรงในช่วงก่อน แต่ก็ต้องระวังการแกว่งผันผวนอยู่ ดังนั้นเทรดดิ้งสั้นตามรอบควรดูจังหวะทำกำไรบ้างเพื่อลดความเสี่ยงจากการแกว่งตัวของตลาด นอกจากเป็นส่วนลงทุนหรือเทรดดิ้งกรอบกว้างจึงจะเน้นถือเพื่อรอรอบแกว่งบวกต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CKP, TUF, STPI(short)
แนวโน้ม : แม้ว่าวานนี้ SET จะกลับมาแกว่งตัวด้านลบ แต่ก็ยังมีลักษณะทรงตัวอยู่ในกรอบแกว่งของช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอยู่ แสดงถึงแรงรับที่ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่เช้านี้พอจะมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกกลับมาปิดเป็นบวกได้ จากแรงหนุนเกี่ยวกับข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทเอกชน นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงบวกจากการที่ ECB เริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมนีตามมาตรการ QE ด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวกได้ดี รวมทั้งแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศในบ้านเราก็ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะค่อนข้างเบาบาง แต่ก็น่าจะพอช่วยกระตุ้นให้มีแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ได้ ซึ่ง FSS ยังคาดว่า SET มีสิทธิกลับไปแกว่งตัวบวกต่อได้ ดังนั้นยังน่าถือหุ้นลุ้นรอบรีบาวด์อยู่ อย่างไรก็ตามในจังหวะขยับขึ้นต้องระวังการแกว่งผันผวนด้วย เนื่องจากนักลงทุนยังจับตาดูการเปิดเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้อยู่
แนวรับ 1556-1553 , 1550-1545 จุด
แนวต้าน 1562-1565 , 1570-1578 จุด
Fund Flow วานนี้กลับมาไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$331.7 ล้าน เกาหลีใต้ US$93 ล้าน อินโดนีเซีย US$21 ล้าน และเวียดนาม US$5.4 ล้าน แต่ซื้อฟิลิปปินส์ US$6.2 ล้าน และไทย US$3.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะกลับมาไหลเข้าแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) มุมมองของกนง.ต่อเศรษฐกิจจะมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นในระยะถัดไป เรายังคงคาดกนง.คงดอกเบี้ยในการประชุมพรุ่งนี้ไว้ที่ 2% แม้เศรษฐกิจในประเทศจะฟื้นช้ากว่าคาด แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในทิศทางขาลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าภูมิภาค เพราะเราเชื่อว่าการใช้กลไกดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้จะไม่มีประสิทธิผล แต่จะช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนลงและช่วยภาคส่งออกได้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าประเด็นสำคัญที่จะมีผลต่อตลาดคือมุมมองของกนง.ต่อเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า และแนวโน้มการปรับ GDP ในปีนี้ที่คาดไว้ที่ 4% ในวันที่ 20 มี.ค. นี้ หากแนวโน้มดังกล่าวเป็นไปในทางลบ จะกดดันตลาดหุ้นต่อไปอีกระยะ
(0) พุธนี้มีการประชุมระหว่างกรีซกับ EU, ECB, IMF เกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซและแผนการชำระหนี้ เรื่องกรีซเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะนี้
(+) MTLS จากงาน Opportunity day วานนี้ ผู้บริหารเซอร์ไพร้ส์เราด้วยการประกาศปรับเพิ่มเป้าขยายสาขาสู่ 1,400 สาขาภายใน 3 ปี (จากเป้าเดิม 1,000 สาขา) เท่ากับเป็นการขยายสาขาปีละ 300 แห่ง (จากเดิมที่จะขยาย 170-180 สาขาต่อปี) การสำรวจตลาดตามหัวเมืองสำคัญทำให้ผู้บริหารมั่นใจในความต้องการสินเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับความพร้อมด้านเงินทุนและความสามารถในการบริหารจัดการควบคุมคุณภาพหนี้ที่ดีอยู่แล้วด้วย เราปรับการเติบโตของลูกหนี้คงค้างปี 2015-2017 เป็นเฉลี่ย 50% ต่อปี จากเดิมที่เฉลี่ย 46% ต่อปี ทำให้การเติบโตของกำไรสุทธิปี 2015-16 เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 42% เป็น 44% ต่อปี เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 25 บาทจาก 24 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(+) SIM แม้ธุรกิจขายโทรศัพท์มือถือจะมีการแข่งขันสูงจากผู้เล่นในตลาดทั้งจีนและเกาหลีซึ่งมีต้นทุนต่ำ รวมถึงผู้ให้บริการมือถือในบ้านเราทั้ง 3 ค่าย ทำให้ SIM ขยับราคาขายลงโดยยอมลดอัตรากำไรขั้นต้นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม SIM มีแผนรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่นพม่าที่ยังมีอัตราการมีโทรศัพท์มือถือต่ำ และขยายไปตะวันออกกลางชดเชยการแข่งขันในประเทศ สำหรับธุรกิจ Content บริษัทได้ลงทุนในสยามกีฬาทีวีผ่าน i-Sport เพื่อขยายธุรกิจด้าน Content กีฬาให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ส่วนธุรกิจ MVNO คาดว่าจะเข้าใกล้จุดคุ้มทุนในปีนี้ เราคาดกำไรในปีนี้จะฟื้นตัว 14% Y-Y จากกำลังซื้อที่ค่อยๆฟื้น และธุรกิจ Content และ MVNO ที่มีทิศทางเติบโตได้ต่อ เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ได้ที่ 3.30 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาต่อเนื่องจากความผิดหวังเรื่องผลประกอบการจน upside กว้างขึ้น จึงแนะนำซื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หลังจากร่วงแรงในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักทางบวกกับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่ลดลง
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมาปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่โดยมีแรงขายออกมาหลัง ECB เริ่มซื้อพันธบัตรวานนี้รวมถึงกระแสคาดการณ์ว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อจีนเช้านี้
ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวหลังอ่อนค่าลงแรงเมื่อวันศุกร์ ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 50.00 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.39 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากร่วงลง 2 วันก่อนหน้า อยางไรก็ตามการปรับขึ้นยังคงจำกัดเนื่องจากนักลงทุนยังกังวลต่ออุปทานที่ยังล้นตลาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,166.50 ดอลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้น 2.20 เหรียญ/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มชะลอการแข็งค่า แต่อย่างไรก็ตามจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและคาดการณ์ที่ว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 มี.ค. -จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
11 มี.ค. - ไทย: ประชุม กนง.
12 มี.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ก.พ.)
16 มี.ค. - สหรัฐ: Industrial Production (ก.พ.)
17 มี.ค. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.พ.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (มี.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
17-18 มี.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
20 มี.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.พ.)
23 มี.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.พ.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.พ.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
24 มี.ค. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (มี.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (มี.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research