- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 March 2015 18:57
- Hits: 1071
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดปรับฐานลง หลุดแนว 1560 จุดอีกครั้ง จากบรรยากาศรอบเอเชียที่เปิดลบ ด้วยโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีน้ำหนักมากขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นจีนที่ฟื้นตัว และตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก จากการเริ่มโครงการ QE ของ ECB ช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นในรอบบ่าย ปิด ณ สิ้นวัน SET Index ฟื้นตัวมาปิดที่ 1,559.71 จุด ลบ 8.58 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 39,883 ล้านบาท
ด้านต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อย 118 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 1,188 สัญญา และคงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,220 ล้านบาท ภาพรวมของกระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางในความเห็นของเรา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุม ครม. วันนี้
การประชุมระหว่างคณะทำงานของไทย - จีน หารือโครงการรถไฟรางคู่ หนองคาย - มาบตะพุด - กทม. วันที่ 10-12 มี.ค.
ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ.ของจีนวันนี้ Bloomberg consensus คาด 1.0% yoy สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.8% yoy
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 2 แม้ว่าวานนี้ SET INDEX จะปิดต่ำกว่า 1,560 จุด แต่หุ้นหลักที่กดดัน SET INDEX มีเพียง ADVANC / INTUCH / AOT เท่านั้น ขณะที่ BAY เกิด Technical Rebound อีกทั้ง SET INDEX ได้ปรับฐาน 2.73% นับตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.ถึงวานนี้ เทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียกลับไต่ระดับขึ้น DJIA ทำระดับปิดสูงสุดใหม่ในวันที่ 2 มี.ค. บวกกับนักลงทุนต่างชาติ YTD ขายสุทธิ 7,667 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ เหลือซื้อสุทธิเพียง 1,766 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยดูจะแข็งแกร่งเหนือค่าเฉลี่ยในเอเชีย
แต่แน่นอนว่า Upside ของ SET INDEX ก็เป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน เพราะแรงกดดันที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 มี.ค. BAY จะถูกถอดออกจากการคำนวณดัชนี FTSE ซึ่งทุกๆ 1 บาทของการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลกระทบต่อ SET INDEX ราว 0.79 จุด ทำให้จิตวิทยาการลงทุนเป็นไปอย่างระมัดระวัง สะท้อนได้จากมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงเหลือ 3.5-4.5 หมื่นล้านบาท/วันเท่านั้น
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต่างรอดูผลการประชุม กนง. วันที่ 11 มี.ค. ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 2.00% บวกกับความเห็นของ กนง. ต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวได้ล่าช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ ซึ่งจะเป็นตัวแปรต่อทิศทางราคาหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของเดือนมี.ค. ภายใต้การทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นจนถึงเดือนเม.ย.
ตลาด Nikkei - Kospi (7.26น.) เปิดฟื้นตัวเล็กน้อย แม้ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าหลุดแนว Yen121/US$ ก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายในช่วงก่อนหน้าที่ราคาปรับตัวลงแรง อาจพิจารณาขายทำกำไรเล่นรอบ เมื่อผลตอบแทนจากการลงทุนรอบสั้นราว 5-10% เป็นเกณฑ์ตัดสินใจ แทนการตัดสินใจจากการพิจารณาบน SET INDEX"
Portfolio
Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: TPIPL
Speculative Buy: NWR
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. TPIPL : ราคาปิด 3.08 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังรมว.อุตสาหกรรมเตรียมเสนอแผนการกำจัดขยะอุตสาหกรรมในระยะเวลา 5 ปีต่อครม.ภายในเดือน มี.ค. 2558
b) เนื่องจาก TPIPL เป็น 1 ในบริษัทที่ตอบรับเข้าร่วมจัดการกากขยะอุตสาหกรรมดังกล่าว และเป็น Upside Risk ต่อประมาณการกำไรของเรา
c) คาดผลประกอบการ 1Q58 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะจำนวน 18 MW ที่เริ่มจ่ายไฟเข้าสู่ระบบตั้งแต่เดือน ม.ค.2558 และกลางปี 2558 จะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าขยะที่เหลืออีก 55 MW ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป
d) ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโตถึง +60.8% yoy เป็น 2,143 ล้านบาท และต่อเนื่อง +79.0% เป็น 3,836 ล้านบาท ในปี 2559 ที่รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าทั้ง 73 MW เต็มปี
e) มีปัจจัยบวกรออยู่คือการเซ็นสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) รวม 90 MW กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากเชื้อเพลิงขยะเพิ่มเติมอีก 60MW และโรงไฟฟ้าความร้อนทิ้งโรงงานปูนซีเมนต์แห่งที่ 4 อีก 30MW ได้ Adder 3.50 บาทระยะเวลา 7 ปี กำหนดขายไฟต้นปี 2560 และยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการของเรา
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
2. NWR : ราคาปิด 2.06 บาท ราคาเหมาะสม 2.20 บาท
a) MBKET มีมุมมองเชิงบวกหลังผลประกอบการ 4Q57 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมากเป็น 7.8% ใน 4Q57 จาก -0.4% ใน 3Q57 และ 2.5% ใน 4Q56 จากต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างที่ลดลง หลังเริ่มรับรู้รายได้ Backlog ที่มีกำไรในระดับปกติ
b) Backlog สิ้นปี 2557 ที่ 12,846 ล้านบาท รองรับรายได้ปี 2558 และ 2559 และอยู่ระหว่างประมูลงานเพิ่มอีก 10 โครงการมูลค่ารวม 8,160 ล้านบาท
c) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +1,338.2% เป็น 139 ล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจก่อสร้างที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และการรับรู้รายได้โครงการคอนโด ISSI ที่ร่วมทุนกับ CI ในสัดส่วน 40% มูลค่ารวม 1.8 พันล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้ว 70% และจะเริ่มโอนตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป
d) มีโอกาสที่จะบันทึกกำไรพิเศษคดีคลองด่านที่ศาลตัดสินให้ชนะแล้วสูงถึง 300-500 ล้านบาท หรือเทียบเท่า EPS ราว 0.11 - 0.19 บาท และยังไม่รวมไว้ในประมาณการกำไรของเรา
e) Valuation มี Discount จากหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ 2.9 เท่า และหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ ได้แก่ CK, STEC, ITD ที่ 3.3 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ US$441 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$150 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเริ่มทยอยปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 เพียง 118 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 3,502 ล้านบาท เทียบกับ 12 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิมากถึง 14,759 ล้านบาท และ YTD ขายสุทธิลดลงเล็กน้อย เหลือ 7,667 ล้านบาท
พร้อมกลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 1,188 สัญญา เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 36,516 สัญญา และ YTD เป็น short สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 26,590 สัญญา กดดันให้ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันที่ 6 มากถึง 10.62 จุด เทียบกับวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 7.99 จุด น่าจะเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยปิดสถานะ Short
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 1,220 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 3,596 ล้านบาท เทียบกับ 10 วันทำการ ซื้อสุทธิ 27,691 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยเริ่มปรับตัวลงแรง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ มากถึง 4.07bps ปิดที่ 2.7165%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มเป็น 1,129 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 570 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 คงเน้นกลุ่มธนาคาร และ ICT ต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 อีก 255 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 816 ล้านบาท รวม 7 วันทำการ ซื้อสุทธิ 6,731 ล้านบาท โดยเร่งสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารและ ICT สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 4 อีก 453 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 786 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 189 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 264 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 105 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 244 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 390 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 141 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
สถานการณ์ในกรีซ
ล่าสุดแผนที่กรีซเสนอต่ออียู ไม่ได้รับการเห็นชอบ และอาจไม่ได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งกรีซต้องการได้รับเงินช่วยเหลืออีก 7.0 พันล้านยโร หากกรีซไม่สามารถระดมทุนผ่านตลาดได้ การขอรับเงินกู้ฉุกเฉินจากอียู และ IMF
นายกฯ กรีซ กล่าวถึง แรงกดดันจากเจ้าหนี้ หากมีเงื่อนไขที่ไม่สามารถรับได้ รัฐบาลกรีซจะขอประชามติจากประชาชนในการรับเงื่อนไขต่างๆ หรือกลับไปเลือกตั้งใหม่
รมว.คลังอียูเตรียมเปิดการหารือ กับ กรีซ ในวันพุธที่ 11 มี.ค.นี้
ECB จะเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมันเป็นรายแรก: วันที่ 9 มี.ค. ECB จะเริ่มซื้อพันธบัตรในอียู ภายใต้โครงการ QE โดยจะเริ่มจากการเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมัน
จีน
ทางการอาจเปิดให้ธนาคารทำธุรกิจโบรกเกอร์หลักทรัพย์ได้: ทางการจีน อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเปิดให้ธนาคารพาณิชย์เข้ามาทำธุรกิจค้าหลักทรัพย์ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีตารางเวลาที่ชัดเจนในการประกาศใช้แผนดังกล่าว
เอเชียแปซิฟิก
ยอดส่งออกไต้หวันหดตัวแรง: เดือน ก.พ. ส่งออกหดตัว 6.7% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดขยายตัว 0.1% yoy เป็นผลกระทบจากช่วงเทศกาลในเดือน ก.พ. รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว โดยยอดส่งออกไปจีนหดตัว 17% yoy นอกจากนี้ส่งออกไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรปหดตัว 9.4% และ 3.7% ตามลำดับ ส่วนยอดนำเข้าหดตัวแรง 22.4% yoy ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ US$4.56 พันล้าน
ไทย
นายกฯ คาดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเดินรถได้ 3Q61: นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมสถานที่ก่อสร้าง เดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา อุโมงค์ที่ 2 ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงสถานีสนามไชย-ท่าพระ คาดว่าจะสามารถเปิดเดินรถได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 โดยระหว่างนี้จะมีการเจรจากับบริษัทเดินรถ BMCL ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญาเดิม หากสามารถตกลงกันได้ ก็ไม่จำเป็นต้องตกลงกับรายอื่น ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ คาดว่าจะทดลองเดินรถได้ในเดือนธันวาคม 2558 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2559
รมว.คลัง ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขภาษีที่ดินอีกครั้ง: กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาข้อยกเว้นต่างๆ อาทิ เงื่อนไขยกเว้นไม่จัดเก็บภาษีราคาบ้านที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ควรจะขยายราคาบ้านที่ได้รับการยกเว้นสูงกว่านี้หรือไม่ หรือการผ่อนปรนให้กับผู้มีรายได้ต่ำไม่ต้องเสียภาษีเต็มจำนวน ทั้งนี้ในวันที่ 10 มีนาคม กมธ.ปฏิรูปเศรษฐกิจฯ จะเชิญปลัดกระทรวงการคลัง และวันที่ 16 มีนาคม เชิญผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และวันที่ 19 มีนาคมจะเชิญผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มาหารือ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯต่อ ครม.ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยอัตราจัดเก็บภาษีจะประกาศออกมาจะเป็นอัตราต่ำกว่าเพดานกฎหมายกำหนด โดยที่ดินเพื่อการเกษตรเก็บ 0.05%,บ้านที่อยู่อาศัย 0.1%, และที่ดินเชิงพาณิชย์และรกร้างว่างเปล่า 0.2% จากอัตราเพดานตามกฎหมาย กำหนดให้ ที่ดินที่ใช้เพื่อเกษตรกรรม จัดเก็บในอัตราสูงสุดไม่เกิน 0.25% ของมูลค่าราคาประเมินหักค่าเสื่อม, ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการอยู่อาศัย จัดเก็บสูงสุดไม่เกิน 0.5% และที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอื่นนอกจากนี้ เช่น ที่ดินเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ และที่ดินรกร้างว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามควร จัดเก็บในอัตรา 2%
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530