- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 June 2014 15:45
- Hits: 2854
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET ยืนเหนือ 1430”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
• ภาพตลาดวันก่อน : SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1454-1466 จุด ปิดตลาดทรงตัวใกล้กับวันก่อนหน้าที่ 1457.30 มูลค่าซื้อขายลดลงเป็นประมาณ4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มที่ปรับขึ้นแรงในช่วงก่อน โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง รวมทั้งบริษัทในเครือ PTT ที่กังวลว่าจะถูกกระทบจากการปรับโครงสร้างพลังงาน ขณะที่แรงซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็กยังคงมีอยู่ นักลงทุนแต่ละกลุ่ม Wait & See ปัจจัยใหม่ แต่ละกลุ่มจึงซื้อหรือขายสุทธิไม่มาก
• ปัจจัยและกลยุทธ์ : วันนี้ Sentiment ตลาดต่างประเทศที่เป็นบวกช่วยหนุน โดยตัวเลขแนวโน้มการจ้างงานเดือนพ.ค.57 ที่ดีขึ้นของสหรัฐ และมูลค่าส่งออกเดือนพ.ค.57 ของจีนที่ขยายตัวถึง 7%YoY (จาก +0.9%YoY ในเดือนเม.ย.และติดลบในเดือนก.พ.-มี.ค.57) รวมทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นใน1Q57 ที่เพิ่มเป็น 6.7%YoY ช่วยหนุนความหวังที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตดีขึ้น และอุปสงค์ที่เพิ่มจะส่งเสริมให้ปริมาณการค้าโลกสูงขึ้น ซึ่งหุ้นกลุ่มหลักที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก คือ ส่งออก & เดินเรือ หุ้นเด่นในช่วงนี้ คือ GFPT, DELTA, TTA ส่วนปัจจัยในประเทศ วันนี้มีประเด็นเรื่อง TRUE เพิ่มทุน+มีพันธมิตรใหม่ ซึ่งมีข้อดีคือช่วยลดภาระหนี้สินและดอกเบี้ยจ่าย ทำให้ผลประกอบการจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ปรับมุมมองระยะยาวต่อบริษัทไปในทางบวกขึ้น แต่อาจมีแรงขายระยะสั้น (Short against port) เพื่อนำเงินไปจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนก่อน และข่าวโรงงาน IRPC ไฟใหม้ ซึ่งส่วนนี้ควร Wait & See ดูความเสียหายและผลกระทบก่อน หุ้นพื้นฐานแนะนำของวันนี้ เป็น TTA สำหรับวิเคราะห์ทางเทคนิค กลยุทธ์โดยหลักเป็นการซื้อตามค่าบวก แนวต้านระยะสั้น 1470-1480 จุด โดยแนวฟิวเตอร์ที่ไม่ควรหลุดในระยะสั้นมากอยู่ที่ 1430 จุด
Fundamental Pick
TTA แนะนำซื้อปิด 21.90 บาท ราคาพื้นฐาน 24.50 บาท
•กำไรสุทธิ 2Q57 เป็น 183 ล้านบาท ฟื้นตัวดีขึ้นเทียบกับ y-o-y ที่เป็นขาดทุนสุทธิ 220 ล้านบาท ธุรกิจหลักๆฟื้นตัวดี เช่น เดินเรือ วิศวกรรมนอกชายฝั่งทะเล/บริการขุดเจาะ และปุ๋ยยกเว้นถ่านหินที่ธุรกิจยังอ่อน ธุรกิจเดินเรือมีค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้น และควบคุมต้นทุนได้ดี กำไรสุทธิ 1H57 คิดเป็น 45% เทียบกับประมาณการทั้งปี 57 แต่คาดว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังตาม Fiscal Year ของบริษัทจะดีขึ้น จากรายได้ในธุรกิจปุ๋ย คือ Baconco ที่มากขึ้น ซึ่งมาจากการเพิ่มกำลังการผลิต โดยโครงการปุ๋ยชนิดเม็ด (granular) จะเริ่มผลิตตั้งแต่ 3Q57
• ในภาพรวมธุรกิจ เห็นว่าธุรกิจเรือเทกองกำลังเข้าสู่วัฎจักรขาขึ้น โดยคาดว่ารายได้ของธุรกิจเรือเทกองของ TTA จะขยายตัวดีขึ้นในปี 57-58 สัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจาก 26% ในปี 56 เป็น29% ในปี 57-58 เนื่องจากปริมาณการขนส่งสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และอัตราค่าระวางเรือปรับขึ้น บริษัทมีการขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วยการทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้าเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งการลงทุนเพิ่ม, การใช้กำลังการผลิตในระดับสูง และ Day Rate ที่สูงจะช่วยหนุนรายได้ในต่างประเทศ โดยรายได้ส่วนนี้คิดเป็น 40% ของรายได้รวมของกลุ่ม แนวโน้มธุรกิจปุ๋ยแข็งแกร่ง โดย Baconco จะทยอยขยายกำลังการผลิตเพื่อทำตลาดส่งออกให้มากขึ้น และทาง TTA จะนำบริษัท PM ThoresenAsia : PMTA ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน Baconco เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งผู้ถือหุ้น TTAจะได้สิทธิจองซื้อ PMTA ด้วย ด้าน TTA จะได้กำไรจากการนำหุ้น PMTA ขายใน IPO และมีกำไรที่ยังไม่รับรู้ (Unrealized Gain) เมื่อ PMTA เข้าจดทะเบียนในตลาดฯแล้ว
• แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 24.50 บาท (Sum-of-parts)
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : แนวโน้มการจ้างงานเดือนพ.ค.ออกมาดีขึ้น
+ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่าดัชนีแนวโน้มการจ้างงานสหรัฐในเดือนพ.ค.57 เพิ่มขึ้นแตะ118.58 จาก 117.32 ในเดือนเม.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวด้านการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐ
• จับตาดูยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ที่จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมิ.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้
+ จีน : ยอดส่งออกเดือนพ.ค.57 เติบโตแกร่ง 7%YoY
+ ยอดการส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 7%YoY แตะ 1.95 แสนล้านดอลลาร์ ดีขึ้นมากจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.9% ในเดือนเม.ย. และร่วงหนักในเดือนมี.ค.และก.พ. ซึ่งส่วนนี้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวรุนแรงของเศรษฐกิจจีน
+ ญี่ปุ่น : GDP Growth 1Q57 เพิ่มเป็น6.7%YoY ดีกว่าคาดการณ์ครั้งแรก
+ สำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 1/57 ขยายตัว 6.7%YoY ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการประมาณการในเบื้องต้นที่ระดับ 5.9%YoY
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,943.10 จุด เพิ่มขึ้น 18.82 จุด หรือ +0.11% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,336.24 จุด เพิ่มขึ้น 14.84 จุด หรือ +0.34% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,951.27จุด เพิ่มขึ้น 1.83 จุด หรือ +0.09% ปัจจัยหนุน คือ การเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจประเทศชั้นนำซึ่งหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และล่าสุดมูลค่าส่งออกของจีนเดือนพ.ค.ที่เติบโตถึง7%YoY ช่วยหนุนความหวังดังกล่าว
+ สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้น ตอบรับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.41 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.38ดอลลาร์ ปิดที่ 109.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำ COMEX ขยับขึ้นเล็กน้อย
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.4ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,253.9 ดอลลาร์/ออนซ์ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
• TRUE เพิ่มทุน 10,078 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม 2.5725 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ @6.45 บาท/หุ้น และจัดสรรให้ China MobileInternational Holdings Limited4,429,427,068 หุ้น @ 6.45 บาท/หุ้น...ตั้งใจลดภาระหนี้สินและดอกเบี้ยจ่าย & ช่วยเสริมเงินทุนหมุนเวียน
• TRUE แจ้งว่า คณะกรรมการฯได้มีมติเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.57 ให้บริษัทเพิ่มทุน 10,077,712,886หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้น 10 บาท โดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม 5,648,285,818 หุ้น ในอัตราส่วน 2.5725 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อ 6.45 บาท/หุ้น กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นในวันที่ 22-28 ส.ค. 2557 กำหนด XR 31 ก.ค. 57 อีกส่วนจัดสรร PP ให้ China MobileInternational Holdings Limited จำนวน 4,429,427,068 หุ้น ราคา 6.45 บาท/หุ้น กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้น ในวันที่ 28-30 ส.ค.57 บริษัทกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาวาระเรื่องการเพิ่มทุนในวันที่ 25 ก.ค.57 ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนประมาณ 80% หรือ 52,000 ล้านบาทไปชำระคืนหนี้ ส่วนที่เหลือสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ
ความเห็น Retail Research : ผลจากการเพิ่มทุน คือ จำนวนหุ้นหลังเพิ่มทุนรอบนี้ 24,607ล้านหุ้น มี Dilution ประมาณ 41% โดยบริษัทจะได้เงินจากการเพิ่มทุน 65,003 ล้านบาท (กรณีเพิ่มทุนได้ครบทั้งหมด) ณ สิ้นมี.ค.57 บริษัทมีหนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย 94,787 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ระยะสั้น + ที่ครบกำหนดชำระใน 1 ปีเท่ากับ 13,049 ล้านบาท (14% ของหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมด) และหนี้ระยะยาว 81,738 ล้านบาท (86%) แต่หากนับหนี้สินทุกประเภทพบว่าสิ้นมี.ค.57 จะมีหนี้สินทั้งหมด 208,135 ล้านบาท โดยเป็นเจ้าหนี้การค้า 90,989 ล้านบาท 44% เป็นหนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย 46% และที่เหลืออกี 11% เป็นหนี้สินหมุนเวียน &หนี้สินระยะยาวอื่น
เมื่อนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนประมาณ 80% ไปชำระคืนหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยหรือ 52,000ล้านบาท ภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยจะลดลงเหลือ 42,787 ล้านบาท สัดส่วนหนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยต่อทุน (Gearing) จะลดลงเป็น 0.58 เท่า จากก่อนเพิ่มทุนที่ 11.06 เท่า สำหรับภาระดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงจาก 6,415 ล้านบาทต่อปี เป็น 2,897 ล้านบาทต่อปี (หรือลดลง3,518 ล้านบาทต่อปี) ซึ่งคาดว่าจะช่วยพลิกฟื้นผลประกอบการของบริษัทให้กลับมาเป็นกำไรได้เร็วขึ้น ด้านมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (BVS) จะเพิ่มขึ้นจาก 0.59 บาท/หุ้น เป็น 2.99 บาท/หุ้น
ภาระหนี้สินและดอกเบี้ยจ่ายก่อนและหลังเพิ่มทุน
ก่อนเพิ่มทุน หลังเพิ่มทุน
จำนวน สัดส่วน จำนวน สัดส่วน
หนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย 94,787 46% 42,787 27%
หนี้การค้า 90,988 44% 90,988 58%
หนี้สินอื่นๆ 22,361 11% 22,361 14%
หนี้สินทั้งหมด 208,135 100% 156,135 100%
ภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อปี (6,415) (2,897)
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่อปี 6.77% ที่มา : SET, Retail Research 6.77%
สัดส่วนหนี้สินต่อทุน - หลังเพิ่มทุน
หน่วย : ล้านบาท ก่อนเพิ่มทุน หลังเพิ่มทุน
80% ของเงินเพิ่มทุนใช้ชำระคืนหนี้ - 52,000
หนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย 94,787 42,787
หนี้การค้า 90,988 90,988
หนี้สินอื่นๆ 22,361 22,361
หนี้สินทั้งหมด 208,135 156,135
Equity 8,568 73,571
หนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย/ทุน 11.06 0.58
หนี้สินทั้งหมด/ทุน 24.29 2.12
ที่มา : SET, Retail Research
Equity & BVS ก่อนและหลังเพิ่มทุน
Equity ก่อนเพิ่มทุน (ล้านบาท) 8,568
จำนวนหุ้นก่อนเพิ่มทุน (ล้านหุ้น) 14,530
BVS ก่อนเพิ่มทุน (บาท/หุ้น) 0.59
เงินได้จากเพิ่มทุน (ล้านบาท) 65,003
Equity หลังเพิ่มทุน (ล้านบาท) 73,571
จำนวนหุ้นหลังเพิ่มทุน (ล้านหุ้น) 24,607
BVS หลังเพิ่มทุน (บาท/หุ้น) 2.99
ที่มา : SET, Retail Research
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวัง คือ อาจมีแรงขายหุ้น TRUE ออกมาก่อนในระยะสั้น (Shortagainst port) เพราะนักลงทุนบางคนหรือบางกลุ่มต้องการนำเงินมาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
+ TRUE : True Vision ได้ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครบ 64 แมทช์
+ True Vision ได้เซ็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ครบทั้ง 64 แมทช์ หลังผู้บริหารเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ซื้อมาจากฟีฟ่ายืนยันในเรื่องนี้ แต่ได้ดูในแพจเกจไหนนั้นต้องติดตามข้อมูลต่อไป ซึ่ง True Vision จะมีแถลงในเรื่องนี้ สำหรับ Free TV ให้รอคำสั่งศาลปกครองที่จะตัดสินชี้ขาดในช่วงบ่ายวันที่ 10 มิ.ย.นี้ (ที่มา : สยามกีฬารายวัน)
- IRPC : เกิดเหตุเพลิงไหม้ ... ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย แนะ Wait & See หรือSwitch ไปหุ้นตัวอื่นก่อน
- เจ้าหน้าที่บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรสภาพ Combined Gas แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหายเพราะยังเข้าไปตรวจสอบภายในโรงงานไม่ได้ ทางด้านผู้บริหาร IRPCยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีผลกระทบต่อการผลิต เพราะต้องใช้เวลาในการซ่อมบำรุง สำหรับสาเหตุนั้นมาจากท่อส่งก๊าซชำรุด
ความเห็น Retail Research : ในระยะสั้นราคาหุ้น IRPC มีสิทธิลดลงก่อน เพราะแม้ว่าบริษัทจะมีประกันภัยครอบคลุมความเสียหาย แต่ก็อาจจะไม่ทั้งหมด และขณะนี้ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหายว่าเป็นเท่าไร จึงควร Wait & See หรือถ้าต้องการหยุดความเสี่ยงส่วนนี้ ก็อาจSwitch ไปลงทุนในหุ้นพลังงานอื่น เช่น TTW หรือย้ายไปกลุ่มอื่นเลย ซึ่งเรามองว่าหุ้นกลุ่มDomestic Play และส่งออกบางตัวยังน่าสนใจ เช่น SCC, AP, PS, QH, SAT, M, BECL,GFPT, DELTA เป็นต้น
• กลุ่มพลังงาน : คสช.ตั้ง 3 บอร์ดพลังงงานเน้นการปฏิรูปเพื่อให้สอดรับกับตลาดเสรี
• พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.ให้แต่งตั้ง 3 บอร์ดพลังงาน โดยหัวหน้าคสช.นั่งตำแหน่งประธานบอร์ดกพช. โดยจะเร่งสะสางโครงสร้างพลังงาน ด้าน"ประจิน" คุมบอร์ดกบง.ส่วน "ไพรินทร์" ชูปฏิรูปพลังงาน เน้นกลไกตลาดเสรี แต่ยังคงอุดหนุนราคาเฉพาะบางกลุ่ม ในเบื้องต้นระบุว่ายังไม่ควรยกเลิกกองทุนน้ำมัน เพราะช่วยให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพไม่ผันผวนจนเกินไป (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]