WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แม้ SET จะดีดกลับขึ้นมาได้ แต่ต้องระวังผันผวน ดังนั้นยังรอซื้อลบ..

           กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังแกว่งบวกกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่ก็ยังต้องระวังการแกว่งผันผวนและปรับลงใหม่ ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้เน้นขายทำกำไรช่วงบวก เพื่อรอจังหวะเลือกหุ้นซื้อเมื่อตลาดปรับตัวลงจะเหมาะสมกว่า

            หุ้นเด่นทางเทคนิค : PLE, CKP, SPCG(buy back)

            แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) SET ปิดทำการ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่เปิดปกติ แต่ก็อยู่ในลักษณะเคลื่อนไหวบวก/ลบไม่กว้างมากนัก ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีปัจจัยกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคบริการของจีน และผลประกอบการที่อ่อนแอของไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในยูเครนด้วย อย่างไรก็ตามยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีในเดือน เม.ย. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ประกาศไปเมื่อค่ำวันศุกร์ก็ถือว่าออกมาดีกว่าที่คาดพอควร              

     สำหรับการเมืองในบ้านเรายังไม่มีความคืบหน้า โดยยังมีการชุมนุมต่อเนื่อง ส่วนทางออกประเทศตามแนวทางของพรรค ปชป. ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ ทำให้ FSS คาดว่าปัญหาทางการเมืองยังมีสิทธิที่จะกดดันความมั่นใจของนักลงทุนในช่วงถัดไปได้ ซึ่งเช้าวันนี้แม้ว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคจะเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ แต่กรอบการขึ้นก็ค่อนข้างแคบ ดังนั้นการที่ SET ดีดบวกขึ้นมาแล้วพอควรในช่วงสัปดาห์ก่อน จึงน่าจะเริ่มมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและมีโอกาสปรับพักตัวลงได้จากแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยง  FSS จึงยังแนะนำให้รอจังหวะเลือกหุ้นซื้อใหม่เมื่อตลาดปรับตัวลงน่าจะปลอดภัยกว่า

            แนวรับ  1419-1416 , 1412-1408 จุด  แนวต้าน  1422-1423 , 1425-1426 จุด

Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มกลับมาไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาค US$ 108 ล้าน จากที่ไหลเข้าสัปดาห์ก่อนหน้า US$ 1,768 ล้าน หลังเฟดยังลดขนาด QE ต่อเนื่อง ขณะที่วันจันทร์ที่ผ่านมา Flow เบาบางมาก ตลาดหุ้นไทยและเกาหลีใต้ปิดทำการ โดย Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$26.4 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$ 12.1 ล้าน และเวียดนาม US$ 0.8 ล้าน แต่ไหลออกจากไต้หวัน US$ 4.4 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น

   (-) จับตาการเมืองสัปดาห์นี้ วันนี้ศาลรธน.ไต่สวนพยาน 4 ปากในคดีนายกฯโยกย้ายคุณถวิลโดยมิชอบ และน่าจะใช้เวลาไม่นาน 1-2 สัปดาห์น่าจะมีคำตัดสิน โดยคำตัดสินของศาลรธน.มีได้ตั้งแต่ 1. ยกคำร้อง 2. นายกฯผิดและพ้นสภาพเฉพาะตัว 3. นายกฯผิดและพ้นสภาพทั้งคณะ กรณีแรกมีโอกาสน้อยมาก ส่วนสองกรณีหลังมีโอกาสเป็นไปได้มาก แต่คาดเดาเหตุการณ์ต่อจากนั้นได้ยาก เพราะปัจจุบันยังเปิดประชุมส.ว.ไม่ได้ จึงยังไม่มีประธานส.ว.คนใหม่ ขณะที่นายกฯมาตรา 7 ยังเป็นที่ถกเถียง ขณะเดียวกันผลประกอบการของบจ.ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศที่ประกาศออกมาแล้ว ส่วนใหญ่น่าผิดหวังและต่ำกว่าคาด มีเพียงกลุ่ม Global play, ICT, โรงไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ที่อาจปลอดภัยในระยะนี้   

               (0) กลุ่มที่อยู่อาศัย กำไรโดยรวมยังไม่ดีนัก เราคาดกำไรปกติทั้งกลุ่มใน 1Q14 ลด 47% Q-Q แต่เพิ่มขึ้น 31% Y-Y คิดเป็นเพียง 18% ของประมาณการกำไรทั้งปี โดยทุกบริษัทมีแนวโน้มกำไรที่ลดลง Q-Q ตามรายได้โอนที่ลดลง (LH มีกำไรลดลง Q-Q น้อยที่สุด) ส่วนบริษัทที่คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น Y-Y มากสุดคือ SPALI, PS, SIRI ขณะที่ LPN ดูแย่สุดในกลุ่ม เรายังไม่เห็นประเด็นในการเก็งกำไรผลประกอบการ ขณะเดียวกันราคาหุ้นปรับขึ้นมาเฉลี่ย 28%YTD มากกว่าตลาดที่ปรับขึ้น 9%YTD และ upside จากราคาเป้าหมายเหลือเฉลี่ยเพียง 7% หุ้นที่เราแนะนำซื้อมีเพียง 3 ตัวคือ SPALI, QH และ RML โดย Top pick ยังคงเป็น SPALI (เป้าหมาย 22 บาท) และ RML (เป้าหมาย1.90 บาท)    

    (0) SAT หากไม่รวมรายการพิเศษ เราคาดกำไรปกติ 1Q14 ลดลง 15% Q-Q และ 26% Y-Y เหลือเพียง 177 ล้านบาท ตามภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ที่ลดลง 2% Q-Q และ 29% Y-Y แนวโน้มกำไร 2Q14 จะชะลอต่อและเป็นจุดต่ำสุดของปี ก่อนจะฟื้นตั้งแต่ 2H14 เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ -26% Y-Y แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 20 บาท จากเดิม 17 บาท โดยปรับ PE ขึ้นสู่ระดับปกติที่ 12 เท่าเพราะเชื่อว่าอุตสาหกรรมและบริษัทกำลังจะพบจุดต่ำสุดและฟื้นตัว เราปรับคำแนะนำขึ้นจากขาย เป็นทยอยสะสมเมื่ออ่อนตัว

    (0) TCAP เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2014 ลง 15% เป็น 5,833 ล้านบาท หดตัวถึง 37% Y-Y จากการปรับลดการเติบโตของสินเชื่อลงจาก 6.5% เป็น 5% และปรับลดรายได้ค่าธรรมเนียมลงตามการชะลอตัวของสินเชื่อและตลาดทุน ทำให้ราคาเป้าหมายลดลงเป็น 42 บาทจาก 47 บาท (อิง PBV 1.05 เท่า) แต่ยังแนะนำซื้อเพราะราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่า Book value แม้ตลาดรถมือสองยังไม่ดีขึ้นแต่ไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว  

    (-) SCP เราปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 8.60 บาทจากเดิม 12.50 บาท จากการปรับลดประมาณการกำไรในปีนี้ลง 18% เหลือเพียง 320 ล้านบาท ซึ่งหดตัวถึง 21% Y-Y และปรับลด Target PE ลงเหลือ 8 เท่าเท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต การปรับประมาณการดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาวะอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีแนวโน้มชะลอกว่าคาด เห็นตัวอย่างจากยอดขายกระเบื้องและปูนที่ชะลอ ซึ่งน่าจะกระทบกำไรของ SCP ตั้งแต่ใน 1Q14 โดยเราคาดว่าจะลดลง 20-30% Y-Y และจากนี้ไปเราจะตัด SCP ออกจาก Coverage ของเราจากการเข้าถึงข้อมูลจากผู้บริหารที่ยากมากและข้อมูลที่มีจำกัดมาก 

   ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย 17.66 จุด หลังตัวเลขดัชนี ISM นอกภาคการผลิตเดือน เม.ย. ออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งบดบังตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาชะลอตัวรวมถึงผลประกอบการที่อ่อนแอของไฟเซอร์

   ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบโดยประเด็นกดดันยังเป็นเรื่องของสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน รวมถึงการชะลอตัวลงของภาคการผลิตจีน

   ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ส่วนใหญ่ปิดทำการ แต่ในภาพรวมยังขยับตัวในแดนบวกได้จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาน่าพอใจ

   ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกทางข้าง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.42 บาท/ดอลลาร์

   ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 0.28 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 99.48 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันหลัง HSBC ประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตจีนออกมาหดตัวในเดือน เม.ย.

   ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 6.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,309.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสถานการณ์รุนแรงในยูเครนยังเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัย

Contact person : Somchai AnektaweeponResearch Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!