- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 February 2015 13:41
- Hits: 1321
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET สร้างฐานใต้ 1600 จุด
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นลบ มองกรอบเคลื่อนไหว 1,585– 1600 จุด
SET มีโอกาสแกว่งตัวสร้างฐานใต้ 1600 จุด อีกครั้งหลังตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ ภาพใหญ่เชื่อว่านักลงทุนบางส่วนเริ่มชะลอการลงทุนเพื่อรอประเมินท่าทีของผู้ว่าการธนาคารสหรัฐนางเยลเลนที่จะให้ถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในคืนวันนี้กับพรุ่งนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) เกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งอาจมีถ้อยคำเป็นนัยถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ฝั่งกรีซมีการขอเลื่อนส่งแผนปฏิรูปจากเมื่อวานมาเป็นวันนี้ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนสิ้นเดือน และน้ำหนักต่อประเด็นนี้จะเริ่มลดลง ฝั่ง SET นักลงทุนต่างชาติและสถาบันที่ขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่สามราว 788 ล้านบาทยังไม่สนับสนุนจิตวิทยาการลงทุน หุ้นรายตัวคาดยังคงผันผวนตามความคาดหวังต่อการประกาศผลประกอบการ ขณะที่หุ้นที่ประกาศผลประกอบการไปแล้วในสัปดาห์ก่อนอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น (Sell-on-fact) หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงถ่วง SET หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงต่ำกว่า US$60 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ทางเทคนิค SET ปิดต่ำกว่า 1600 จุดเป็นสัญญาณลบมีโอกาสลงไปสร้างฐานแถว 1580 จุด เว้นแต่จะปิดเหนือ 1600 จุดได้อีกครั้งจะยกเลิกสัญญาณขาย ภาพรวม เราคาดว่า SET จะกลับมามีทิศทางที่ชัดเจนในสัปดาห์หน้าหลังการขายทำกำไร (Sell-on-fact) สะท้อนการประกาศงบปี 57 ไปแล้ว นักลงทุนจะกลับมาให้ความคาดหวังต่อเม็ดเงิน QE ของ ECB ราว 6 หมื่นล้านบาทต่อเดือนที่จะเริ่มเข้ามาซื้อสินทรัพย์ตั้งแต่เดือนมี.ค.
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ชะลอการลงทุน หาก SET ปรับลงมาแถว 1580-1585 หรือต่ำกว่าเสี่ยงเข้าซื้อเพื่อไปรอขายช่วงรีบาวน์ หาก SET ปิดเหนือ 1600 จุดไม่ได้ยังเน้นถือครองเงินสด
Top Daily Pick SNC (คาดผลประกอบการ 1Q58-2Q58 เติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยฤดูกาล) /MFEC (มีโอกาสเติบโตจากนโยบาย Digital Economy ภาครัฐ และให้อัตราผลตอบแทนปันผล 5% จะจำกัด downside)
Technical Pick : SOLAR KCM MINT TUF ESTAR
Theme Play หุ้นกลุ่มนำตลาดที่มีผลต่อดัชนี อาทิพลังงาน (BANPU PTT PTTEP PTTGC) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) และสื่อสาร (ADVANC INTUCH THCOM) /หุ้นปันผลเด่นระดับ 4% ขึ้นไป (MFEC SIRI KTB TISCO) /กลุ่มที่มีโมเมนตัมดี outperform ตลาดได้สองสัปดาห์ต่อเนื่อง (AH AIE BANPU DCON IVL NBC NOBLE PSL TAE CSS KTC)
พอร์ตลงทุน
Trading HEMRAJ HMPRO KAMART MC NBC PS SNC
OUT: BANPU IN: SNC
Growth AMATA BANPU CK IVL NBC
Dividend ADVANC BBL EGCO MODERN PTTGC RML SRICHA
Quant BAY HOTPOT MAJOR MODERN SAMART STANLY
รายงานวันนี้
Result : AMATA (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 19 บาท) ปี 58 รอการฟื้นตัวของยอดขายที่ดิน
Update : PTT (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 385 บาท) ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
Update : INTUCH (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 105 บาท) Downside ต่ำ ปันผลสูง
Strategy Talk
SNC ยังคงเป็นหุ้น Top Pick สำหรับหุ้นเด่นปี 58
SNC รายงานกำไรสุทธิปี 57 ที่ 377 ล้านบาท (-11%YoY) ใกล้เคียงประมาณการของเราที่ 374 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการที่ 7.4 พันล้านบาท (+3%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 11% ลดลงเล็กน้อยจาก 12% ในปี 56 อิงกับข้อมูลได้จากงาน Opportunity Day การที่กำไรสุทธิลดลงสวนทางกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจาก (1) ธุรกิจใหม่มีผลขาดทุนเพิ่มขึ้น 50 ล้านบาท (2) ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยต์มีผลกำไรลดลง 21 ล้านบาท อย่างไรก็ตามธุรกิจรับจ้างประกอบชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า (ปรับอากาศ/ทำความเย็น) สัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวม มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 25 ล้านบาททำให้ผลประกอบการโดยภาพรวมลดลงไม่มาก
เฉพาะ 4Q57 SNC มีกำไรสุทธิ 77 ล้านบาท (+15%QoQ, +24%YoY) ใกล้เคียงประมาณการที่ 74 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการที่ 1.76 พันล้านบาท (+27%QoQ, +15%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวเป็นไตรมาสที่ห้าติดต่อกันที่ 11% และเป็นการยืนยันว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อ 3Q57 ที่ผ่านมา (ทำกำไรสุทธิได้เพียง 67 ล้านบาท) จากคำสั่งรับจ้างผลิตที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
เราเชื่อว่าผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอีก 2 ไตรมาสข้างหน้า (1Q58-2Q58) จากการรับจ้างประกอบชิ้นส่วนฟื้นตัวตามฤดูกาลและจากคำสั่งซื้อโมเดลใหม่ซึ่งจะทำให้ทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มเติบโตตามการประหยัดขนาด เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลสูงในช่วง 1H58 (ปกติสัดส่วนการผลิตชิ้นส่วนครึ่งปีแรก:ครึ่งปีหลังอยู่ที่ระดับ 60:40)
เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 58 เติบโต 24% ที่ 469 ล้านบาท และมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในปี 59-60 จากการฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีปัจจัยสนับสนุน (1) คำสั่งซื้อใหม่จากการเปลี่ยนรุ่นและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ หลังชะลอในปีที่แล้ว ผลจากมาตรการรถคันแรก (2) คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและต่อเนื่องจากธุรกิจเครื่องปรับอากาศที่อุตสาหกรรมเติบโตต่อเนื่องราวปีละ 5% จากการขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายใหญ่ (3) อัตรากำไรที่ดีขึ้นจากการประหยัดขนาด (4) บริษัทลูกและบริษัทร่วมทุนที่เริ่มอยู่ในช่วงของการเก็บเกี่ยวผลกำไรหลังผ่านพ้นช่วงลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาคาดว่าผลประกอบการจากบริษัทเหล่านี้จะเข้าสู่จุดคุ้มทุนหรือขาดทุนลดลงอย่างมีนัยจากปีที่ผ่านมาที่มีผลขาดทุนรวมกันราว 106 ล้านบาท
ในเชิงกลยุทธ์เราแนะนำทยอยสะสม SNC (ซื้อ /มูลค่าเหมาะสม 20.6บาท ตาม DCF) และ
คงเป็นหนึ่งใน Top Picks สำหรับหุ้นเด่นปี 58 การเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนและรับจ้างประกอบชิ้นส่วนไฟฟ้า/ชิ้นส่วนรถยนต์ ที่มีคู่ค้าเป็นของตัวเองช่วยลดความเสี่ยงด้านความผันผวนของคำสั่งซื้อในระยะยาว ธุรกิจร่วมทุนที่อยู่ในช่วงของการเก็บเกี่ยวผลกำไรตั้งแต่ปีนี้จะสนับสนุนการเติบโตใน 1-2 ปีข้างหน้า ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ 9.6xP/E’58 ใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดช่วง 4 ปี (54-57) และให้อัตราผลตอบแทนปันผลปีละ 4.4% ถือว่าค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับอดีต (9.3xP/E) การเติบโตของผลประกอบการ (+24%) และ SET (22x Trailing P/E)