- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 February 2015 15:20
- Hits: 1131
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET แกว่งเพื่อรอความชัดเจน ซึ่งลุ้นบวกได้..จึงน่าถือรอต่อ!
กลยุทธ์ : FSS ยังแนะนำเลือกหุ้นซื้อช่วงลบได้ แล้วเน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน
หุ้นเด่นทางเทคนิค : JMART, AUCT, IVL(buy back)
แนวโน้ม : SET ขยับขึ้นต่อเนื่องไม่ไหวเมื่อวานนี้ โดยช่วงเช้าบวกขึ้นได้จากแรงซื้อในหุ้นเล็ก โดยดูได้จากดัชนี SET50 และ SET100 ที่ยังแกว่งลบเป็นหลักเกือบทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซที่ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งๆ ที่เริ่มเข้าใกล้เส้นตายช่วงสิ้นเดือนนี้แล้ว รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการด้วย จึงทำให้ SET ขาดตลาดอื่นชี้นำ ซึ่งวันนี้ก็จะมีเพียงตลาดหุ้นในกลุ่ม TIPs เท่านั้นที่กลับมาเปิดทำการปกติ ซึ่งเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่สามารถปิดเป็นบวกได้ หลังรัฐบาลกรีซได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการต่อ EU เพื่อขอขยายระยะเวลาเงินกู้ออกไปอีก 6 เดือนตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้า อย่างไรก็ตามรายละเอียดยังแตกต่างจากข้อตกลงฉบับเดิมโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด ทำให้มีรายงานข่าวว่าเยอรมนีออกมาขัดขวางการยื่นขอขยายเวลาของกรีซ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเป็นลบเล็กน้อย เพื่อรอดูการประชุม รมว. คลังยูโรโซนในวันนี้ (20 ก.พ.) ก่อนว่าสุดท้ายแล้วจะมีข้อสรุปออกมาหรือไม่อย่างไร ทำให้ FSS คาดว่า SET น่าจะยังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะเป็นลบต่อเนื่องได้ แต่เราคาดว่ากรอบลบน่าจะยังจำกัด ดังนั้นจึงยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอความชัดเจนต่อไป
แนวรับ 1598-1596 , 1592-1588 จุด
แนวต้าน 1603-1605 , 1608-1612 จุด
Fund Flow วานนี้ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ยกเว้นไทยที่ยังเปิดทำการและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ US$8.6 ล้าน ซึ่งเป็นการขายเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน สำหรับวันนี้ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์จะกลับมาเปิดทำการ ขณะที่เกาหลีใต้ เวียดนาม และไต้หวันยังปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังเบาบางต่อเนื่อง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือน ม.ค. (อย่างไม่เป็นทางการ) เพิ่มต่อเนื่อง เป็น 2.65 ล้านคน +16% Y-Y เร่งตัวขึ้นจากเดือน ธ.ค. ที่เพิ่ม 12% Y-Y ยังคงเป็นสัญญาณาที่ดีกับกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำยังคงเป็นปัจจัยหนุน เรายังคงน้ำหนักกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเป็น "Overweight" หุ้นเด่นคือ MINT (ราคาเป้าหมาย 42 บาท) และ AAV (ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท)
(+) MTLS กำไรสุทธิใน 4Q14 ใกล้เคียงคาด เพิ่มขึ้น 6% Q-Q และ 15% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปี 2014 โต 55% Y-Y เป็น 544 ล้านบาท เรายังคงประมาณการปีนี้ที่คาดกำไร 935 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 72% Y-Y จากการขยายสาขาและสินเชื่อในเชิงรุกและ NPL ที่ต่ำ รวมถึงโอกาสในการทำธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ เรายังคงราคาเป้าหมาย 22 บาท แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(+) TPCH กำไรสุทธิใน 4Q14 เหลือเพียง 4 ล้านบาท -15% Q-Q, -49% Y-Y ต่ำกว่าคาด เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ IPO และค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท หากตัดรายการดังกล่าวออก กำไรจากการดำเนินงานปกติเป็น 10 ล้านบาท +130% Q-Q, +36% Y-Y และใกล้เคียงที่เราคาด อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิทั้งปี 2014 +131% Y-Y จากการรับรู้โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก 9.2MW เต็มปี เรายังคงคาดกำไรสุทธิปี 2015 โต 401% Y-Y เพราะจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โรงรวม 27.6MW เปิดดำเนินงาน (2 โรงใน 2Q15 และ 1 โรงใน 4Q15) และปี 2016 โต 88% Y-Y จากโรงไฟฟ้าอีก 2 โรงรวม 18.4MW ยังคงราคาเป้าหมาย 28.50 บาท แนะนำซื้อ
(0) SAT กำไรสุทธิใน 4Q14 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน +34% Q-Q แต่ยังลดลง 54% Y-Y ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 2014 ลดลง 33% Y-Y แม้ว่าธุรกิจของ SAT จะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วแต่การฟื้นตัวในปีนี้ยังไม่กลับเป็นปกติ โดยเราคาดกำไร 705 ล้านบาท เพิ่มเพียง 9% Y-Y จากการได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมที่มีโมเดลใหม่เช่น Fortuner, Hilux vego ของโตโยต้า และ Suzuki Swift เป็นต้น เรายังคงราคาเป้าหมาย 21 บาท ราคาหุ้นยังมี upside 10% จึงแนะนำซื้อ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ชอบกลุ่มยานยนต์มากนักในปีนี้
(+) KBANK สินเชื่อเดือน ม.ค. เซอร์ไพรส์เราเพราะเพิ่มถึง 1.1% M-M ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อในกลุ่ม SME และธุรกิจขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินเชื่อระยะสั้น เรายังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 10% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักและ NIM ที่อยู่ในระดับสูง 3.75-3.8% คงราคาเป้าหมาย 271 บาท แนะนำซื้อ
(+) TMB สินเชื่อเดือน ม.ค. ลดลง 0.7% M-M จากการจ่ายชำระคืนสินเชื่อระยะสั้นในช่วงต้นปี ขณะเดียวกันเงินฝากก็ลดลง 3.1% M-M ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของธนาคาร แต่ไม่กระทบสภาพคล่อง เราคาดกำไรสุทธิ 1Q15 ที่ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 16% Q-Q (จากภาษีจ่ายที่เพิ่ม) แต่เพิ่ม 56% Y-Y (รายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม ตั้งสำรองลดลง) และยังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 6% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 3.40 บาท แนะนำซื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในกรอบแคบค่อนไปในแดนลบโดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่องรวมถึงประเด็นที่เยอรมนีออกมาปฏิเสธข้อเสนอขยายโครงการเงินกู้อีก 6 เดือนของกรีซ
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยแม้ว่าเยอรมนีจะออกมาปฏิเสธข้อเสนอของกรีซในการขยายเวลาช่วยเหลือทางการเงินอย่างทันควัน
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายตลาดยังปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ส่วนตลาดที่เปิดทำการปรับตัวผสมโดยยังรอข้อสรุปการเจรจาเรื่องหนี้ของกรีซโดยมีเส้นตายวันนี้
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างค่อนมาฝั่งแข็งค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.63 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 51.16 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 0.98 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1207.60 ดอลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.40 เหรียญ/ออนซ์ โดยได้รับอานิสงค์จากรายงานการประชุม FED ที่มีท่าทีผ่อนคลายเรื่องดอกเบี้ย รวมถึงแรงหนุนจากการเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 ก.พ. - ตลาดที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี ฮ่องกง จีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน
- ไทย: ยอดขายรถ (ม.ค.)
- สหรัฐ: Markit US Manufacturing PMI (ก.พ.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)
23 ก.พ. - ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.), SCN เริ่มเทรด (ราคา IPO 5 บาท)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ม.ค.)
24 ก.พ. - ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- สหรัฐ: S&P/CaseShiller Index (ธ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
25 ก.พ. - ไทย: S11 เริ่มเทรด (ราคา IPO 5.30 บาท)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ก.พ.)
- ฮ่องกง: 4Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)
26 ก.พ. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
27 ก.พ. - ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.), อัตรการใช้กำลังการผลิต (ม.ค.)
- สหรัฐ: 4Q14 GDP (ตลาดคาด +2% Q-Q annualized ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +2.6%)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852