- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 February 2015 15:19
- Hits: 1271
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งแคบระหว่าง 1,600-1,610 จุด แม้ว่าจะมีประเด็นบวกต่อกรณีกรีซในช่วงสุดสัปดาห์นี้ก็ตาม แต่ด้วยเทศกาลตรุษจีน ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศชะลอการลงทุน สังเกตได้จากหุ้นหลักแกว่งตัวในกรอบแคบ หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นบวกเฉพาะขยับเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX หลุดแนว 1,600 จุด มาอยู่ที่ 1,599.96 จุด ลบเล็กน้อย 3.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 44.115 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวทั้ง 3 ตลาด คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 280 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,618 สัญญา แต่กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 119 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ติดตามการหารือระหว่างนายกฯ และตัวแทนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยต่อการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21
•ติดตามการพิจารณาแผนการยืดเวลาชำระหนี้ของกรีซ โดยอียูในค่ำวันนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
•ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของไทย ธปท.รายงานวันที่ 27 ก.พ. เราให้น้ำหนักกับการบริโภค และการส่งออก เป็นสำคัญ
•กระแสเงินทุนต่างชาติต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ ก่อนที่ ECB จะเริ่มโครงการ QE ในเดือนมี.ค. 6.0 หมื่นล้านยูโร/เดือน
•และผลการดำเนินงาน 4Q57 ของบริษัทจดทะเบียนไทย พร้อมคาดหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร เริ่มทยอยประกาศเงินปันผลงวดปี 2557 หรือ 2H57
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 20 แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะปรับตัวลงคืนวานนี้ แต่ยังสามารถยืนเหนือ US$50/barrel ได้ น่าจะช่วยปิดความเสี่ยงของกลุ่มน้ำมันในวันนี้ได้เป็นอย่างดี ขณะที่เม็ดเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากวานนี้ เราคาดว่า SET INDEX แกว่งกรอบแคบต่อเนื่องระหว่าง 1,590-1,610 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์กรีซ และ อียู ยังคงต้องรอการพิจารณาจากอียูในค่ำวันนี้ ว่าจะพิจารณาข้อเสนอของกรีซอย่างไร แม้ว่าเจ้าหนี้หลักอย่างเยอรมันจะออกมากดดันกรีซให้ปฎิบัติตามเงื่อนไขเดิมที่ตกลงกันไว้ก็ตาม แต่ท้ายสุดเราเชื่อว่ากรีซและเจ้าหนี้จะประนีประนอมและตกลงกันได้
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของไทย โดยเฉพาะตัวเลขการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออก เพราะถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้ได้มากน้อยเพียงใด นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยว และ การลงทุนจากภาคเอกชนที่เชื่อว่าจะดีต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา
ตลาด Nikkei (7.20 น.) เปิดบวกเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้ให้น้ำหนักกับกรณีกรีซที่ยังมีความไม่แน่นอน ก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เน้นหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น หรือหุ้นหลักที่ให้ผลตอบแทนปันผลงวดนี้ที่อยู่ในระดับสูง เป็นทางเลือกของการลงทุน
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: BJCHI / TASCO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.TASCO : ราคาปิด 92.00 บาท ราคาเหมาะสม 110.00 บาท
a)TASCO รายงานกำไรสุทธิ 4Q57 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 521 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนใน 4Q56 และเติบโต +23% qoq จากอานิสงค์ของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง และส่งผลบวกโดยตรงให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 7.8% ใน 4Q57 จาก 5.9% ใน 3Q57 และ 3.8% ใน 4Q56
b)คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2558 ที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจาก
I.รายได้ขยายตัวจากการจัดสรรงบประมาณของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทที่เพิ่มขึ้น +12% yoy เป็น 1.02 แสนล้านบาท และการรุกตลาดภูมิภาคจากความร่วมมือกับ SK Energy พันธมิตรรายใหญ่จากเกาหลีใต้
II.และอัตรากำไรจะเร่งตัวขึ้นจากปี 2557 เนื่องจากจะได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง yoy และมีจุดเด่นเนื่องจากเป็นเจ้าของเทคโนโลยียางพาราผสมยางมะตอยที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐฯ
c)คาดกำไรสุทธิปี 2558 ทุบสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,500 ล้านบาท +24.8% yoy และต่อเนื่อง +12% yoy เป็น 1,679 ล้านบาท ในปี 2559
d)ราคาหุ้นยังถูก เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 9.4 เท่า และประกาศแตกพาร์จาก 10.00 บาท เหลือ 1.00 บาท จะส่งผลบวกโดยตรงต่อสภาพคล่องของหุ้นในกระดาน และเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันในประเทศสามารถเพิ่มสัดส่วนการลงทุนได้
e)ประกาศจ่ายเงินปันผล 2H57 หุ้นละ 1.00 บาท ขึ้น XD วันที่ 6 มี.ค. 2558
2.BJCHI : ราคาปิด 36.75 บาท ราคาเหมาะสม 45.00 บาท
a)BJCHI จะรายงานผลประกอบการ 4Q57 ในวันพุธหน้า โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q57 จะเติบโต +36% yoy หรือ +35% qoq เป็น 346 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้งานโครงการ Petrobras ในบราซิลที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
b)Backlog สิ้นปี 2557 สูงถึง 3,307 ล้านบาท และคิดเป็น Secured Revenue ราว 60% จากประมาณการรายได้ปี 2558 ที่ 5,175 ล้านบาท (+15% yoy) ดังนั้น หากชนะงานประมูลขนาดใหญ่เพียง 1 งาน จะส่งผลให้ประมาณการายได้ปี 2558 มี Backlog รองรับทั้งจำนวน
c)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +18.2% เป็น 1,184 ล้านบาท มีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash และ PER 2558 ต่ำเพียง 9.9 เท่า
d)มี Catalyst รออยู่ คือผลการประมูลงานขนาดใหญ่ที่จะทราบผลใน 1-2 เดือนข้างหน้า และเป็นงานประเภท High Potential สูงกว่า 8 พันล้านบาท
a)และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2557 หุ้นละ 2.40 บาท คิดเป็น Dividend Yield 6.5%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 3 เพียง US$9 ล้าน เพราะมีตลาดหุ้นไทยตลาดเดียวที่เปิดทำการ
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX Closed Closed 4,207.6 13,190.4 9,188.0
KOSPI Closed Closed -558.5 6,165.50 4,875.1
JSE Closed -30.2 517.9 3,750.60 -1,806.4
PSE Closed 0.1 836.5 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม Closed Closed 34.6 135.6 263.2
SET INDEX -8.6 -15.3 -29.4 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติชะลอการลงทุนทั้ง 3 ตลาดต่อเนื่อง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -280 -500
SET50 Index Futures (สัญญา) -1,618 -281
SSF (สัญญา) +191 +195
Metal Futures (สัญญา) -9 -303
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +119 -408
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 280 ล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิ 4,619 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับเป็น 1,056 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,618 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 1,899 สัญญา เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 4,488 สัญญา น่าจะเป็นการปิดทำกำไรต่อเนื่อง แม้ว่า S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 7.78 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 5.05 จุด
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้นำเงินสดกลับมาพักที่ตลาดตราสารหนี้ ด้วยการซื้อสุทธิอีกครั้ง 119 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงเพียง 0.67bps ปิดที่ 2.788%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 421 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 299 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 156.31 12.02% 350.23
SCC 62.51 3.97% 522.68
AOT 39.20 4.02% 308.40
TPIPL 33.01 0.90% 3.30
KBANK 26.66 7.99% 222.13
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีกเล็กน้อย 50 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 556 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มอสังหาฯ ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 112 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 112 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 135 ล้านบาท และกลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 61 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้างถูกขายสุทธิสูงสุด 171 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 115 ล้านบาท และกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ขายสุทธิ 34 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
INTUCH 175.39 39.97 PTT -139.93 7.70
KBANK 92.98 29.74 SCC -133.49 14.10
AOT 80.87 7.35 DTAC -91.70 25.11
CPF 67.87 14.16 ADVANC -79.46 23.14
BBL 49.50 21.32 BECL -68.24 7.43
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong