- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 February 2015 16:54
- Hits: 1277
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ย่ำฐานแถว 1600 จุด
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นกลาง มองกรอบเคลื่อนไหว 1,590– 1605 จุด
SET มีโอกาสแกว่งตัวสร้างฐานแถว 1600 จุด ด้วยปัจจัยผสมผสาน ด้านภูมิภาคกรณีการเจรจาประนอมหนี้กรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปแทบไม่มีความคืบหน้า แม้รัฐบาลกรีซยืนยันที่จะขอต่ออายุข้อตกลงเงินกู้ยุโรปในวันนี้ แต่เงื่อนไขในการทำตามมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลกรีซมีจุดยืนต่อต้านไม่ได้รับการพูดถึง ด้านสหรัฐอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐชะลอการปรับขึ้นและทรงตัวแถว 2% หลังรายงานการประชุมเฟดเดือนมค เป็นไปในเชิงผ่อนคลายจะลดแรงกดดันตลาดการเงินในระยะสั้น วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียหลายตลาดยังคงปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน ทำให้ SET มีแนวโน้มกลับมาเคลื่อนไหวด้วยปัจจัยเฉพาะตัว เรามองว่ากลุ่มพลังงานจะถ่วงการรีบาวน์ของ SET หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง US$2 จากจุดสูงสุดเมื่อวานมาปิดที่ US$ 58 ต่อบาร์เรล
ถือเป็นการปรับลงแรงสุดนับตั้งแต่รีบาวน์ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเมื่อปลายเดือนม.ค. กลุ่มธนาคารคาดจะคงแกว่งตัวไร้ทิศทางรอความชัดเจนการประกาศตัวเลขสินเชื่อประจำเดือนช่วงปลายเดือนนี้ ขณะที่ความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมกนง.เดือนหน้าลดลงหลังธปท.แสดงจุดยืนว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่ช่วยภาคส่งออก ส่วนหุ้นรายตัวคาดจะยังผันผวนตามการคาดหวังทั้งบวกและลบต่อการทยอยประกาศผลประกอบการปี 57 ที่จะเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ ทางเทคนิคแม้ เกิดสัญญาณซื้อเมื่อ SET กลับขึ้นมาปิดเหนือบริเวณ 1600 จุดได้ แต่ปริมาณการซื้อขายลดเหลือเพียง 3.9 หมื่นล้านจากค่าเฉลี่ยที่ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่กลุ่มพลังงานยังไม่ฟื้นตัว บ่งบอกการรีบาวน์อาจไม่ยั่งยืนมีโอกาสพักฐานได้ทุกเมื่อ
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ชะลอการลงทุนหรือหาจังหวะขึ้นขาย-ลงแรงซื้อ หาก SET ปิดต่ำกว่า 1600 จุดกลับมาถือครองเงินสด
Top Daily Pick : NBC (เป็นเพียงตัวเดียวในกลุ่มทีวีดิจิทัลที่ยังคงมี upside จากมูลค่าเหมาะสม คาดปีนี้จะเริ่มได้ประโยชน์จากแผนการปรับขึ้นค่าโฆษณาช่องทีวีดิจิทัลขึ้น 30-50%) /SIM (ราคาหุ้นสะท้อนคาดการณ์เชิงลบต่องบ 4Q7 ที่จะเป็นระดับต่ำสุดของปีไปแล้วจากการลดราคสินค้าเพื่อล้างสต๊อก แต่เราเชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวใน 1Q58)
Technical Pick : MTLS GENCO PCA DCON BGH
Theme Play หุ้นทีวีดิจิทัล (GRAMMY NBC RS WORK) คาดผลประกอบการฟื้นตัวชัดเจนในปีนี้จากการปรับขึ้นค่าโฆษณาก้าวกระโดด ตามเรตติ้งที่ดีขึ้น) /หุ้นรับเหมาก่อสร้าง (CK ITD STEC UNIQ) ความคืบหน้าโครงการขนาดใหญ่มีเข้ามาเป็นระยะๆ /หุ้นปันผลเด่นระดับ 4% ขึ้นไป (MFEC SIRI KTB TISCO) /หุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่ราคาปรับลดลงแรงจาก 2 วันก่อน (KAMART SEAFCO SAPPE SF ITD ROJNA)
รายงานวันนี้
Result : BANPU (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 39 บาท) ประกาศกำไรตามคาด
Update : กลุ่มอสังหาฯ (น้ำหนักการลงทุน “เท่าตลาด”) จำนวนที่อยู่อาศัยจดทะเบียนปี 2557 ทรงตัว
Strategy Talk
คาดราคาน้ำมันทำจุดต่ำสุดแล้วแต่ยังไม่ฟื้นเร็ว จับตากลุ่มพลังงาน
•ทางฝ่ายวิจัย kktrade คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบได้มาถึงจุดต่ำสุดแล้วที่ระดับ 40 เหรียญต่อบาร์เรล ด้วยเหตุผลจากการทยอยหยุดการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐของผู้ประกอบการที่มีต้นทุนสูงอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันปริมาณการผลิตกลับมาต่ำสุดในรอบ 5 ปีแล้ว ประกอบกับการชะลอการลงทุนเพิ่มในผู้ประกอบการใหม่ อย่างไรก็ตามไม่ได้มองว่าราคาน้ำมันดิบจะฟื้นกลับสู่ทิศทางขาขึ้นเนื่องจาก (1) ปริมาณสำรองน้ำมันคงคลังของสหรัฐยังทำสถิติสูงสุด ผลจากการเพิ่มขึ้นของ Shale oil (2) ยังมีภาวะอุปทานส่วนเกินอยู่ โดย IEA ประเมินอุปทานส่วนเกินที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (3) ฝั่งโอเปคยังคงกำลังผลิตที่ 30.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าระดับคาดหมายของ IEA ที่ 29.4 อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าภาวะอุปทานส่วนเกินจะคลี่คลายลงในช่วง 3Q58 จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจและปัจจัยฤดูกาลของประเทศนำเข้าน้ำมัน โดยเราคาดกรอบราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 45-55 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงครึ่งแรกของปี และ 65-75 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงครึ่งหลังของปี ใกล้เคียงกับมุมมองของ IEA
•ทางด้านค่าการกลั่น ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นมาสูงมากในระดับ US$8-9 เหตุจากต้นทุนน้ำมันดิบปรับตัวลดมากแต่เชื่อว่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีและจะเข้า low season ในไตรมาส 2 ประกอบกับในช่วงกลางปีนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายในตลาดโลกจะเปิดตัวโรงกลั่นใหม่คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มที่สูง ค่าการกลั่นจึงมีโอกาสปรับตัวลงแรงใน 2Q57
•ในทางกลยุทธ์จึงมีมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มพลังงานหลังจากนี้ มีโอกาสถูกขายทำกำไรในระยะสั้นโดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นที่ราคาหุ้นได้รีบาวด์ขึ้นมาโดดเด่นก่อนหน้านี้ แต่ก็ความเป็นไปได้ในด้านฟื้นตัวในระยะกลาง-ยาว ซึ่งทำให้เราเปลี่ยนมุมมองจากการที่ให้ลงทุนในกลุ่มนี้ในแง่การรีบาวด์เท่านั้นมาเป็นกลุ่มที่น่าเฝ้าติดตาม มีโอกาสผลักดัน SET ในระยะยาวหากราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วจริงๆ ปัจจุบันหุ้น Top pick ของกลุ่มพลังงานได้แก่ PTTGC EGCO และ BANPU โดยทางกลยุทธ์เรามองว่า BANPU น่าสนใจที่สุดและเหมาะแก่การทยอยสะสมเพื่อลงทุนระยะ 12 เดือนขึ้นไป
•BANPU (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 39 บาท) แม้ธุรกิจถ่านหินของ BANPU ยังไม่มีแนวโน้มกลับมาทำกำไร เนื่องจากราคาถ่านหินจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับราคาน้ำมัน และยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน แต่จะน่าสนใจจากธุรกิจโรงไฟฟ้าซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าปรับขึ้นมาทดแทนจาก 40% มาเป็นเกือบ 100% แล้วขณะที่จะเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะจะรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มจากโรงไฟฟ้าที่หงสาและโรงไฟฟ้า Lu Guang ในจีน คาดจะหนุนให้กำไรปีนี้เติบโตมาอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท +14% YoY อีกทั้งน่าสนใจเมื่อเทียบกับกลุ่มโรงฟ้าในไทยที่แผน PDP 2015 ถูกเลื่อนมาเดือนเมษายนแล้วยังมีแนวโน้มถูกเลื่อนไปอีก อีกทั้ง BANPU ยังน่าสนใจในเชิง valuation ที่ไม่แพง โดยซื้อขายใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชีที่ 26.82 บาทต่อหุ้น (อัตรา PBV ราวหนึ่งเท่า) และมีอัตราเงินปันผลปัจจุบันราว 4.4% สูงเป็นอันดับสองในกลุ่มพลังงานรองจาก PTTGC
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.19
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.07
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.87
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.08
หุ้นใน Smart Port ที่จะจ่ายปันผลได้แก่
22/04/2015 ADVANC 5.96 Baht per share
24/04/2015 PTTGC 1.00 Baht per share
30/04/2015 MAJOR 0.55 Baht per share
20/05/2015 AMATA 0.50 Baht per share
27/05/2015 NBC 0.02 Baht per share