- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 18 February 2015 17:18
- Hits: 1333
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET อ่อนแอกว่าคาด...ลุ้น Rebound ยืนเหนือ 1,590 จุด: SET ปรับลดลง -1.26% ปิดตลาดที่ 1,587.75 จุด จากแรงขายหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 2,196 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ลุ้น Rebound กลับมายืนเหนือ 1,590 จุด ขณะที่ความไม่แน่นอนต่อการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซจะส่งผลให้ SET “ผันผวน” ต่อระยะสั้น ขณะที่ระยะสัปดาห์คงมุมมองเชิงบวก จาก 1) สภาพคล่องจากมาตรการ QE ของ ECB มูลค่า EUR6 หมี่นล้าน/เดือน ตั้งแต่ มี.ค.นี้ 2) กำไรบริษัทจดทะเบียน ทั้ง Energy และ Non-Energy ที่เร่งตัวขึ้นในปี 2015 และ 3) เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้น +4.5% (ดูรายงาน Siam Senses วันนี้) ในปี 2015 จากปี 2014 ที่ +0.7%
“ซื้อ” หุ้นหลักในจังหวะอ่อนตัว...”ทยอยสะสม” กลุ่มหุ้นปันผลสูง: การ “ผันผวน” ของ SET วานนี้ไม่ต่างกับที่ประเมินไว้ โดยมีแนวรับที่ 1,590 จุด ซึ่งเป็นจังหวะ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นหลักอิง Tactical Portfolio เพื่อลงทุนระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่ให้ปันผลระยะ 1-3 เดือนน่าสนใจอย่าง SIRI (~5%) TISCO (~4.5%) KTB (~4.2%) BANPU (~2.8%) RATCH (~2.75%) INTUCH (~2.75%) ADVANC (~2.50%)
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
“ซื้อ” SAWAD…มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด ด้วยกำไรที่เติบโตสูง และ Stock Dividend: แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 42.0 บาทจาก 1) การเติบโตสินเชื่อแข็งแกร่งประมาณ 30% ต่อปีในปี 2014-16 และต้นทุนการกู้ยืมเงินที่ต่ำลงหลัง Listed ในตลาด หนุนผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่ง 41% ต่อปีในระยะ 4-5 ปีข้างหน้า 2) ธุรกิจตามเก็บหนี้มีแนวโน้มดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม โดย SAWAD มีแผนที่จะใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาทในการซื้อหนี้เสียที่มีหลักประกันใน 2Q15 โดยใช้สาขาที่มีในปัจจุบันในการตามเก็บหนี้ และคาดว่า Non-Interest Income จะเติบโตเป็น 12% ของกำไรในปี 2017 จากปัจจุบันที่ 2-3% 3) แม้ที่ราคาปัจจุบัน SAWAD จะซื้อขายที่ PE 2015 สูงถึง 30x แต่ด้วยอัตราการเติบโตกำไรสูง 41% ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ทำให้ PE ของ SAWAD จะลดลงอย่างรวดเร็วเป็น 21.6x ในปี 2016 และ 14.5x ในปี 2017 เท่านั้น ขณะที่ระยะสั้นคาดการณ์ผลการดำเนินงาน 4Q14 เติบโตแข็งแกร่ง +87% y-y ที่ 249 ล้านบาท และคาดการจ่ายเงินปันผลเป็น “หุ้นปันผล” (ดูรายงาน SAWAD: “Surprises on the upside” วันที่ 17 ก.พ.เพิ่มเติม)
Technical
ขายหุ้นใหญ่ลดความเสี่ยง : SET ไม่ผ่านยอดเดิมบริเวณ 1620 จุด เกิดเป็นรูปแบบ Double Top และแท่งเทียนรูปแบบ Evening Star ลงมาต่ำกว่า 1600 จุด หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน 1590 จุด ถ้าวันนี้ตลาดหลุดแนว 1585 จุด จะยืนยันสัญญาณขายเพื่อลดความเสี่ยง เป็นจังหวะขายลดน้ำหนักหุ้นเหลือ 50% ของพอร์ต มีเป้าหมายลงไปสู่แนวเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน 1560 จุด คาดว่าจะฟื้นตัวที่แนวรับนี้และรอโอกาสซื้อหุ้นกลับ ขณะที่แนวโน้มระยะกลางเป็นบวกอยู่เหนือระดับ 1560 จุด รอจังหวะฟื้นตัวขึ้นไปสู่เป้าหมายเดิมที่ 1650 จุดเช่นเดิม สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวลงในกรอบ 1580-1600 จุด
หุ้นซื้อระยะสั้น: ESSO แกว่งขึ้นต่อหลังจากพักตัวสร้างฐานไม่หลุดแนวเส้นค่าเฉลี่ย 7 วัน มี
แนวต้านสำคัญที่ 6.00 บาท หากผ่านไปได้แนวต้านถัดไปที่ 6.50 บาท PT ระยะสั้นแกว่งตัวในกรอบแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนทำรูปแบบ White Closing Marubozu แนวต้านระยะสั้นตามกรอบแนวโน้มที่ 16.50 บาท และมีเป้าหมายถัดไปที่ 17.50 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 1,042-1,058 จุด รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน หลังจากปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop ที่ 1,058 จุด อีกครั้งเมื่อวานนี้ เป็นจังหวะ “ปิด” สถานะ Long ไปก่อน
Gold Futures: แนะนำ “เปิด” สถานะ Short สัญญา GFG15 ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 18,400 บาท โดยการปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับ 19,000 บาท เมื่อวานนี้ส่งผลให้สถานะ Short กลับมาได้เปรียบอีกครั้ง ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,100 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา BRG15 ต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 2,300/2,600 ขณะที่คง Trailing Stop ที่ 1,950 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น US$1.3 ปิดที่ US$62.53/bbl
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล