WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Accumulative Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
      ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับฐานลงหลุดแนว 1,600 จุดอีกครั้ง มาแกว่งแคบ 1,595 จุด +/- โดยเกิดแรงขายหุ้นหลัก PTT / KBANK / AOT / SCC ขณะที่หุ้นขนาดกลางกลับทรงตัวได้ดีในค่าเฉลี่ยของภาพรวม และที่น่าสังเกตว่า มูลค่าการซื้อขายกลับมาเร่งตัวในช่วงท้ายตลาด รวมทั้งสิ้น 50,305 ล้านบาท ด้วยการขายหุ้นหลักออกมามากขึ้น กดดัน SET INDEX ลบทั้งสิ้น 20.29 จุด มาอยู่ที่ 1,587.75 ล้านบาท
      ด้านเงินทุนต่างชาติยังคงใช้กลยุทธ์ Arbitrage โดยขายสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 3 อีก 2,196 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 1,069 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 3,436 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
•วันนี้ตลาดหุ้นจีน / ไต้หวัน / เวียดนาม / เกาหลีใต้ ปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง / มาเลเซีย ปิดทำการครึ่งวันบ่าย
•คาดเงินทุนต่างชาติชะลอตัวต่อเนื่องจนถึงสิ้นสุดสัปดาห์
•กรีซและอียูอาจบรรลุข้อตกลง ด้วยการยืดระยะเวลาการช่วยเหลือออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งจะมีการหารืออย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ก.พ.นี้
•ติดตามการประชุม BoJ วันนี้ ตลาดคาด BoJ คงเป้าหมายการเพิ่มปริมาณเงิน Yen80 ล้านล้าน/ปี

มุมมองต่อตลาด
      เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 17 พร้อมประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,580-1,600 จุด มูลค่าการซื้อขายชะลอตัวลงเหลือ 40,000 ล้านบาท/วัน ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เพราะนักลงทุนภายในประเทศ และ ต่างประเทศ ต่างชะลอการลงทุน เนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน อีกทั้งฮ่องกง ซึ่งเป็น Financial Hub ของเอเชีย ปิดทำการครึ่งวัน และปิดต่อเนื่องถึงวันศุกร์ เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่จะปิดทำการทั่วทั้งเกาะระหว่างวันที่ 19-20 ก.พ.
      เมื่อการลงทุนช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขาดปัจจัยเด่นที่มีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ปัญหาในกรีซและยุโรป จะเปิดการเจรจาในวันนี้อีกครั้ง เพื่อพิจารณาการยืดเวลาการชำระหนี้ และแผนการช่วยเหลือออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะบรรลุข้อตกลงในวันนี้ หากเป็นไปตามคาด ทำให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลก จะคลายตัว ประเด็นนี้น่าจะมีผลต่อเนื่องไปสู่การพิจารณาของ ECB เพื่อเพิ่มเงินกู้ช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์กรีซหรือไม่
      ตลาด Nikkei (7.21 น.) เปิดบวกเด่น จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และแนวโน้มเป็นบวกต่อกรณีกรีซ

กลยุทธ์การลงทุน
       ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เน้นหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น หรือหุ้นหลักที่ให้ผลตอบแทนปันผลงวดนี้ที่อยู่ในระดับสูง เป็นทางเลือกของการลงทุน
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: VGI / BEAUTY

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.VGI : ราคาปิด 11.90 บาท ราคาเหมาะสม 20.80 บาท
a)MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจสื่อโฆษณาในปี 2558 เนื่องจากเชื่อว่าจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของภาคบริโภคในประเทศ และส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาทั้งระบบกลับมาขยายตัว YoY ได้ หลังติดลบ 9.5% yoy ในปี 2557 ที่ผ่านมา
b)จุดเด่นของ VGI คือ เป็นผู้นำสื่อโฆษณานอกบ้านแบบครบวงจร ได้แก่ สื่อรถไฟฟ้า, สื่อกลางแจ้ง และสื่อในห้าง จึงได้อานิสงค์เชิงบวกโดยตรง และเชื่อว่าการเกิด Synergy กับ MACO จะส่งผลต่อความสามารถในการกำหนดราคาขายโฆษณาแบบเป็น Package และเป็นบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นให้ปรับตัวขึ้น
c)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +47.2% yoy เป็น 1,827 ล้านบาท และการเข้าซื้อขายหุ้นของ PLANB ในตลาดจะเป็นตัวเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่า Valuation ของ VGI มีความถูก เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 22.4 เท่า เทียบกับ PLANB ที่ 47.8 เท่า
d)มี Catalyst ระยะสั้นรออยู่ คือการขึ้น XD หุ้นปันผลสัดส่วน 1 ต่อ 1 ในวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลบวกต่อสภาพคล่องของหุ้น VGI ในกระดาน
2.BEAUTY : ราคาปิด 35.50 บาท ราคาเหมาะสม 41.00 บาท
a)ราคาหุ้นปรับตัวลง 10.6% ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา คาดว่าเกิดจากการปรับพอร์ตลงทุนของกองทุนในประเทศ จึงเป็นโอกาสดีในการเข้าสะสม
b)คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของบริษัท และคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q57 จะทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน +85% YoY และ +23% QoQ เป็น 99.6 ล้านบาท จาก SSSG ที่ขยายตัว +42% yoy สวนทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่เหลือซึ่ง SSSG ติดลบ
c)รุกเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องในปี 2558 อีก 55 สาขา และคาดว่า SSG ในปี 2558 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5% และผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +30.1% yoy เป็น 385 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่อง +19.2% yoy เป็น 459 ล้านบาท ในปี 2559
d)Valuation ยังไม่แพง เนื่องจากซื้อขายระดับ PEG 2558 เพียง 0.9 เท่า ต่ำกว่าหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ 1.7 เท่า และให้เป็น Top pick ของกลุ่มค้าปลีก

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ US$66 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$165 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX Closed Closed 4,207.6 13,190.4 9,188.0
KOSPI -17.1 146.3 -558.6 6,165.50 4,875.1
JSE 12.8 48.5 547.9 3,750.60 -1,806.4
PSE 5.8 10.0 836.5 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม Closed Closed 34.6 135.6 263.2
SET INDEX -67.4 -46.4 -5.5 -1,091.4 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงเลือกใช้ Arbitrage strategy ระหว่างตลาดหุ้นไทย และ Set50 Index Futures
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -2,196 -1,511
SET50 Index Futures (สัญญา) +1,069 +1,560
SSF (สัญญา) +1,419 +502
Metal Futures (สัญญา) -5 +96
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +3,436 +1,888

นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,196 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 3.839 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิ 276 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 1,069 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 4,488 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 1,356 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 5,585 สัญญา คาดว่าเป็นการสะสมสถานะ Long ต่อเนื่อง เมื่อ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นอีกเป็นวันที่ 3 เท่ากับ 7.01 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 6.65 จุด
ดังนั้นนักลงทุนต่างชาติ น่าจะเปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures เมื่อราคา Futures ต่ำกว่า SET50 Index จึงยังคงเป็นลักษณะของ Arbitrage เช่นเดิม
ขณะที่ นักลงทุนกลุ่มนี้ คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 3,436 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 5,324 ล้านบาท น่าจะเป็นการโยกเงินจากตลาดหุ้นกลับมาพักไว้ในตลาดตราสารหนี้ และเมื่อเทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 5,442 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยเริ่มฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 2.64bps ปิดที่ 2.781%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 731 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 294 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 223.65 16.88% 358.01
TRUE 142.59 5.93% 13.65
KBANK 61.07 7.02% 221.76
SCC 52.13 4.86% 506.16
PTTGC 39.95 8.53% 58.75

NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 11 วันทำการ เน้นกลุ่ม Domestic Play
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิ 783 ล้านบาท เทียบกับ 10 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 13,393 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุด 429 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 117 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 308 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 119 ล้านบาท กลุ่ม ICT ขายสุทธิ 193 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 119 ล้านบาท
2.ด้านกลุ่มอสังหาฯ กลับถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 249 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 280 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 127 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
LH 167.18 42.91 KBANK -359.87 31.55
STEC 122.61 27.44 ADVANC -317.69 18.45
TRUE 109.36 4.86 SCC -315.92 28.54
JAS 77.47 9.19 BEAUTY -101.40 24.51
LPN 62.83 24.94 BTS -84.80 27.39

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!